ต้องชื่นชมทีมโฆษณาหรือคณะทำการตลาดให้กับหนังอย่าง บัวผันฟันยับ เพราะอย่างน้อยอย่างหนึ่งก็พิสูจน์ทราบได้ว่ามีคนตีตั๋วเข้าไปดูหนังเรื่องนี้มากพอควรเลยทีเดียว
ผู้เขียนเจาะจงไปดูรอบเที่ยงวันจันทร์ เมเจอร์ฯ ชานเมือง คนหนาตาเชียว
ออกจากโรงแล้วต้องแยกอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองเป็น 2 ก้อนเหมาะๆ เพราะที่เหลือนั้นมันโล่งโจ้งไปหมด
ก้อนแรกคือทีมผู้สร้างวางแผนเรียกคนดูได้ตามเป้ามากที่ดึงเอา "แอน ทองประสม" ผู้เปรียบเสมือนนางฟ้าแห่งวงการบันเทิงไทยมารับบทพลิกแคแรกเตอร์คล้ายๆ หัวหน้าคณะตลก มิหนำซ้ำยังมีฉากประกบปากกับดารานำชายรุ่นน้อง ตามด้วย ‘นางเอกตัวแม่’
โดนขโมยจับจงอยก้นเหมือนคนปกตินอกจอทั่วไปมักหยอกกัน ซึ่งแน่นอนนะครับว่าเรียกเสียงฮารอบโรง
ส่วนตัวประกอบอื่นๆ เคยเห็นในสื่อต่างๆ อย่างไร ในเรื่องก็เล่นกันเป็นแบบนั้น ไม่มีใครสอบตก และไม่มีใครได้คะแนนมากกว่า 5 จากเต็ม 10
มาถึงก้อนที่สอง ซึ่งเป็นก้อนที่ผู้เขียนต้องย้อนมองตัวเองอีกครั้ง ยกตัวอย่างเช่นหลายคนที่นั่งอยู่รายรอบเขาหัวเราะสนุกสนานครื้นเครงไปกับฉากคอมเมดี้ที่ผู้กำกับและคนเขียนบทวางแก๊กไว้ รวมทั้งสลับกันไปมาระหว่างดรามากับอารมณ์ขื่นขัน แต่มุมปากของผู้เขียนกลับปกติ
ยิ้มสักนิดให้กับ บัวผันฟันยับ ยังนับไม่ถึงสาม
อย่าว่าแต่ฉากหมูอ้วนขยับตัวซึ่งเรียกเสียงฮาทั่วโรง ขนาดฉากกรีดเลือดสาบาน หรือฉากเมาแล้วกลายเป็น ‘เสร็จกัน’ ที่ใส่คำพูดเข้าปากซูเปอร์สตาร์อย่า แอน ทองประสม ชนิดหลายคนอาจไม่เชื่อหูตัวเอง....ผู้เขียนก็แค่หุๆ ไม่ถึงกับก๊าก?!?
ยิ่งการผูกเรื่อง ที่มาที่ไป สรุปหัวใจของท้องเรื่องยิ่งว่างโหวง ก็เข้าใจนะว่านี่เป็นหนังคอมเมดี้ ดูเพื่อความบันเทิง แต่มันทำให้เต็มคาราเมลกว่านี้ได้มั้ง เพราะทุนสร้างของหนังเรื่องหนึ่งๆ มันมากกว่าการคิดมุกแล้วปรากฏว่าตลกคาเฟ่ฮาตรึมกว่าบาน
กระนั้นผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่า บัวผันฟันยับ จะเป็นหนังทำเงินแน่ๆ แต่ให้บอกกล่าวเล่าขานกันตรงๆ ว่าโดยส่วนตัวชื่นชมไหม?
ไม่ครับ แค่เกือบจะขำ เพราะมุกมันธรรมดาไปสำหรับสิงห์คาเฟ่สูงวัยอย่างผม!