ทนาย “พิ้งกี้ สาวิกา - แม่” แถลงศาล ยันเป็นนักลงทุน ชี้ไม่เคยชวนใครร่วมด้วย รับปันผลจากการลงทุนแต่ไม่ได้รับผลตอบแทนจากการชวนคนอื่น ขณะที่พิ้งกี้ เครียด ผอมลง หลายรายร้องไห้กลางศาล
เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมเพื่อตรวจพยานหลักฐาน และสอบคำให้การจำเลยคดีหมายเลขดำ อ.853/2564 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง “พิ้งกี้ สาวิกาไชยเดช” นางเอกชื่อดัง “นางสรินยา ไชยเดช” มารดา และ “นายกิตติเชษฐ์ หรือสรายุทธ ไชยเดช” พี่ชาย นายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้บริหารแชร์ Forex 3D กับพวกรวม 24 เป็นจำเลย กรณีฉ้อโกงประชาชนคดีแชร์ Forex -3D มูลค่าความเสียหายหลายพันล้านบาท โดยวันนี้ ศาลได้เบิกตัวจำเลยทั้งหมดจากเรือนจำในเวลา 10.30 น.
สำหรับบรรยากาศในห้องพิจารณาคดี กิตติเชษฐ์ หรือ สรายุทธ ไชยเดช ได้ใส่กุญแจมือมาพร้อมกับอภิรักษ์ โกฎธิ ส่วน นางสรินยา ไชยเดช (มารดาของพิงกี้) เข้าไปโอบกอดลูกชายและย้ายไปนั่งด้านข้างส่วน น.ส.สาวิกามีหน้าตานิ่งเฉย เครียดเล็กน้อย และผอมลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ญาติและเพื่อนของจำเลยรายอื่นได้อยู่ในห้องพิจารณาคดีและเข้าไปพูดคุยให้กำลังใจกับจำเลย และมองหน้ากันแล้วร้องไห้หลายราย หลังจากทนายความพูดคุยทางคดีเรียบร้อย
โดยอัยการได้แบ่งบัญชีรายชื่อเพื่อนัดสืบพยาน 6 กลุ่มจำนวน 122 ปากแบ่งเป็น กลุ่มผู้กล่าวหา , บุคคลใกล้ชิด , ผู้เสียหาย , ผู้ได้รับว่าจ้างเปิดบัญชีม้าและเจ้าหน้าที่ จากนั้นจำเลยทั้งหมด ร่วมหารือกับทนายความหลังจากที่อัยการได้มอบบัญชีรายชื่อพยานที่แน่ชัดทางทนายจึงต้องพูดคุยเพื่อสอบถามความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับจำเลยเพื่อจะได้ดำเนินการนำสืบพยานในชั้นศาลต่อไป
ต่อมาเวลา 11.20 น. ศาลได้เริ่มสอบถามจำเลยมีทนายครบถ้วนหรือไม่ และทนายได้รับหนังสือ บัญชีรายชื่อ พยาน จากทางอัยการครบหรือไม่
จากนั้น ทนายความได้แถลงแนวทางต่อสู้คดีซึ่งทนายความของจำเลยที่ 1 และ 2 ได้แถลง ตอนนี้ว่าได้ว่าจ้างให้โบรกเกอร์ของต่างประเทศให้หาเงินจากผลการลงทุนนำมาชดใช้ให้กับผู้เสียหาย
ด้านทนายความของจำเลยที่ 3 ,4 และ 5 ได้แถลงว่าจำเลยมีการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายเงินตราต่างประเทศจริงแต่จำเลยไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาและขอนัดสืบพยานในกลุ่มนักลงทุนและโปรแกรมเมอร์เพิ่มเติมจากที่อัยการเสนอรายชื่อ
ทนายความของจำเลยที่ 6 แถลงว่ามีรายชื่อเป็นกรรมการในบริษัทของจำเลยที่ 2 จริงแต่ไม่ได้มีการร่วมบริหาร
ส่วน ทนายความของ น.ส.สาวิกา จำเลยที่ นางสรินยา มารดาพิงกี้ และ 8 ได้ แถลงร่วมกันว่าจำเลยที่ 7 และ 8 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการของจำเลยที่ 2 และ 3 ไม่เคยมีการชักชวนหรือแนะนำใครมาร่วมลงทุนดังกล่าว จำเลยที่ 7 และ 8 ยืนยันว่าเป็นเพียงนักลงทุนที่ได้รับเงินจากจำเลยที่ 2 และ 3 เป็นผลตอบแทนจากการลงทุนเท่านั้นไม่เคยได้รับประโยชน์ผิดแปลกแตกต่างจากปกติหรือได้รับผลตอบแทนจากคำแนะนำในการเชิญชวนผู้อื่น และขอนัดสืบพยาน ผู้ที่มาขอร่วมลงทุนด้วยตัวเองโดยพวกตนไม่ได้มีการชักชวน
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้ายังตรวจพยานหลักฐานไม่แล้วเสร็จ ดังนั้นจะมีการตรวจหลักฐานต่อในช่วงบ่ายต่อไป เพื่อกำหนดวันนัดสืบพยานต่อไป
สำหรับรายชื่อจำเลยทั้ง 24 คน มีลำดับดังนี้
นายอภิรักษ์ โกฏธิ จำเลยที่ 1
บ.อาร์เอ็มเอส แฟมิเลีย จำกัด โดย นายสรายุทธ หรือ กิตติเชษฐ์ ไชยเดช จำเลยที่ 2
บ.มีดิเพย์ จำกัด โดยนายศิษฏ์ธนาฒย์ โพธิ์เงิน จำเลยที่ 3
นายศิษฏ์ธนาฒย์ โพธิ์เงิน จำเลยที่ 4
นายสุภิญโญ มีสมปราชญ์ จำเลยที่ 5
นายกิตติเชษฐ์ ไชยเดช หรือชื่อเดิม สรายุทธ ไชยเดช (พี่ชายพิงค์กี้ สาวิกา ) 41 ปี จำเลยที่6 (พี่ชายพิงกี้)
น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือพิงกี้นักแสดงชื่อดัง อายุ 36 ปี จำเลยที่ 7
นางสรินยา ไชยเดช อายุ 63 ปี อาชีพ ประกอบธุรกิจส่วนตัว (มารดาพิ้งกี้) จำเลยที่ 8
นายณัฐธีร์ พีระชัยรมย์ หรือ นายวาริท อาเช่อร์ หรือนายพสิษฐ์ ศักดิ์ธนินท์ 31 ปี อาชีพธุกิจส่วนตัว จำเลยที่9
นายศิราเมษฐ์ สุภัคศิริประสาน อายุ 40 ปี อาชีพ รับจ้าง จำเลยที่ 10
นายธรรศิวรรฒ ฉันทานุกูล อายุ 29 ปี อาชีพ นักแสดงอิสระ จำเลยที่ 11
นายปฏิภาณ มะนัส อายุ 27ปี อาชีพ รับจ้าง จำเลยที่ 12
นายอนุพงศ์ จุลมุสิก อายุ 32 ปี อาชีพ รับจ้าง จําเลยที่ 13
นายนวพล เรืองอักษร อายุ 36 ปี อาชีพ รับจ้าง จําเลยที่ 14
นายรพีพัฒน์ ภิรมย์จันทร์ อายุ 35 ปี อาชีพ รับจ้าง จำเลยที่ 15
นายสุรสิทธิ์ คำยันต์ อายุ 35 ปี อาชีพ ประกอบธุรกิจส่วนตัว จําเลยที่ 16
นายณัฐพงษ์ ปัญญาวงศ์ อายุ 28ปี อาชีพ ประกอบธุรกิจส่วนตัว จำเลยที่ 17
นางนงนุช โกฎธิ อายุ 50 ปี อาชีพ ค้าขายจำเลยที่18
นายกิตติชัย โกฎธิ อายุ 26 ปี อาชีพ นักศึกษา จำเลยที่ 19
นายอับดุลฮากีม ปิมะแม อายุ 28 ปี อาชีพ รับจ้าง จําเลยที่ 20
น.ส.ภคมน สีกุน อายุ 34 ปี อาชีพ ค้าขาย จำเลยที่ 21
นายกษม กลปราณีต อายุ 32ปี อาชีพ นักร้อง นักแสดง นายแบบ จำเลยที่ 22
น.ส.ธัญญนันช์ ณัฐนนท์ชญนัท อายุ 42 ปี อาชีพ ประกอบธุรกิจส่วนตัว จำเลยที่ 23
นายทินกร โกฎธิ อายุ 55 ปี อาชีพ รับจ้าง จำเลยที่ 24