“อ้วน รังสิต” เผยต้องห่างลูก-เมียครั้งล่าสุดนานกว่า 18 วันแล้ว ทำเอานอยด์ พอวิดีโอคอลหาลูกแล้วลูกร้องไห้ แถมวิ่งหนี บอกอาจจะเป็นที่ช่วงวัย แต่ยังไงก็คงทำอะไรไม่ได้ เพราะคงต้องใช้ชีวิตแบบไปๆ กลับๆ ไทย-เกาหลีแบบนี้ตลอดไป เผยกำลังตัดสินใจว่าจะให้ลูกเรียนที่ไทยหรือเกาหลีดี
ลูกชายกำลังอยู่ในวัยน่ารัก แต่ทางฝั่งคุณพ่ออย่างนักแสดงหนุ่ม “อ้วน รังสิต ศิรนานนท์” กลับต้องแยกกันอยู่คนละประเทศมาโดยตลอด ซึ่งหนุ่มอ้วนก็เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่าต้องทำใจ เพราะตนต้องทำงานที่ไทย ส่วนภรรยา “พัก ฮย็อน ซ็อน” หรือ “มะม่วง” พอมาอยู่ไทยนานๆ ก็คิดถึงประเทศบ้านเกิด เลยต้องไปๆ มาๆ แบบนี้ตลอด
“ตอนนี้ห่างกันอยู่ครับ ลูกกับภรรยาอยู่เกาหลีครับ ก็เฝ้ารอว่าเขาจะกลับมาวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ก็หวังว่าจะไม่มีอุปสรรคอะไร ก็คิดถึงครับ ยิ่งลูกเราอายุมากขึ้นเราก็ยิ่งผูกพัน ห่างกันแค่วันเดียวก็คิดถึงแล้วครับ คราวนี้ประมาณ 18 วันแล้ว เมื่อก่อนห่างกันเดือนครึ่งยังไม่รู้สึกว่านานขนาดนี้ แต่ตอนนี้ 10 วันก็รู้สึกเหมือนห่างกันเป็นเดือนแล้ว
ก็เศร้าใจเหมือนกันนะเวลาวิดีโอคอลไปแล้วลูกร้องไห้ใส่ แล้วก็วิ่งหนี และเป็นเฉพาะกับเราด้วย ผมว่าอาจจะงอนหรือเปล่าไม่รู้ เพราะแค่วันแรกที่ไม่ได้เจอกัน พอเจอหน้าผมเขาก็ดีใจ คุย ผมก็ถามว่าคิดถึงบ้านที่เมืองไทยไหม เขาก็อืมๆ แต่พอหลังจากนั้นเจอหน้าผมแล้วเขาเหมือนรู้สึกรำคาญ อยากให้วางโทรศัพท์
ผมก็เลยรู้สึกว่าช่วงเด็กวัยนี้เป็นวัยที่ยังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ยังไม่รู้ว่าจะแสดงความรู้สึกยังไง มันย่ิงทำให้เรารู้สึกว่าอยากเจอกันเร็วๆ คือกับภรรยาก็รักกันเหมือนเดิมแหละ แต่พอห่างกันก็ทำให้เรายิ่งคิดถึง และรอบนี้มะม่วงเขามีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับซีสที่หน้าอก ก็เลยไปผ่าตัด ตอนนี้น่าจะหายดีแล้วล่ะ ก็รอไฟล์บินกลับมาครับ ก็เป็นห่วงครับ ถึงจะเป็นการผ่าตัดเล็กน้อยแต่ก็เป็นห่วงแหละ ก็ไปส่งเขาที่สนามบิน แต่เพราะเราก็ติดถ่ายละครก็เลยไม่ได้อยู่ด้วย”
บอกถ้าตนไม่ติดถ่ายละครก็อาจจะไปอยู่ที่เกาหลีนานหน่อย
“จริงๆ ก็ต้องทำใจครับ เพราะมันต้องห่างกันบ่อยๆ อยู่แล้ว ตัวมะม่วงเองผมก็เข้าใจเขานะว่าคิดถึงบ้าน เหมือนเราไปต่างประเทศ 10 วันเราก็อยากกลับบ้านแล้ว แต่เขามาอยู่ 3-4 เดือน ก็จะมีความรู้สึกว่าเขาคิดถึงบ้าน ก็เข้าใจเขาครับ แต่ถ้าผมปิดกล้องละครก็คิดว่าอาจจะบินไปอยู่ 1-2 เดือนแล้วค่อยกลับมา ก็อาจจะนะครับ จริงๆ มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร แค่จัดการกับความรู้สึกตัวเองให้ได้ คิดถึงก็ต้องปล่อยให้คิดถึง (หัวเราะ)
ผมก็ใช้เวลาช่วงนี้ดูแลบ้าน มีเวลาเจอครอบครัวมากขึ้น พ่อแม่พี่น้อง และเจอเพื่อนมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ก็มองโรงเรียนที่เมืองไทยให้ลูกอยู่ แต่ยังไม่สรุป เพราะดูหลายที่แล้วมีแต่แพงๆ ทั้งนั้นเลย มะม่วงเขาก็อยากให้เรียนอินเตอร์ เราก็บอกว่าไม่ไหวหรอก 2 ภาษาก็พอมั้ง เขาก็บอกว่าถ้าไปเรียนที่เกาหลีได้ก็ดีเลยนะ เพราะเรียนฟรีด้วย และมาตรฐานการศึกษาที่นู่นเขาก็โอเค ก็อยากให้ไปที่นู่นเหมือนกัน แต่เขาวางแผนไว้ว่าจะใช้ชีวิตที่เมืองไทย”
บอกถ้ามีลูกอีกคน คนต้องแบ่งไว้ที่ตนบ้านคนหนี่ง
“มีปัญหากับการมีลูกคนที่สองแน่นอนครับ เพราะค่าตั๋วแพงขึ้นครับ (หัวเราะ) เพราะตอนนี้ค่าตั๋วคูณ3 แล้วครับ ถ้าต่อไปมี 4 ค่าตั๋วคูณ 4 เลยนะ ผมก็เลยบอกว่าถ้าเกิดยูเอาลูกกลับ ก็เอาไว้ที่ผมสักคนนึง ไม่ใช่ว่าหอบกันไปหมดเลย แบ่งบ้าง (ยิ้ม) ก็เหงาครับ เพราะบ้านผมเป็นบ้านใหม่ คือสร้างเพื่อให้อยู่กันครบๆ แต่พออยู่คนเดียวก็รู้สึกว่าบ้านมันใหญ่เกินไป อยู่แล้วเหงา และใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ รู้สึอยากกลับไปอยู่บ้านเก่าเลย หรือกลับไปอยู่คอนโดเล็กๆ พอ”