xs
xsm
sm
md
lg

“โตโน่” แจงปมหัก 10 % จากยอดบริจาคเข้ามูลนิธิ “เทใจ” เป็นไปตามกฎ เตรียมงดรับงาน ทำสมาธิบวช

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“โตโน่ ภาคิน” แจง หักค่าดำเนินการเข้ามูลนิธิ “เทใจ” 10 % จากยอดเงินบริจาคว่ายข้ามโขง เป็นไปตามกฎที่เทใจมีมานานแล้ว ไม่กดดันเรื่องเงินบริจาคที่ทะลุไปกว่า 80 ล้าน บอกวิ่งรอกประชุมหลายครั้งกับทีมแพทย์สองฝั่งไทย-ลาว เพื่อหาสเปกที่ดีที่สุด เชื่อต้องได้ประโยชน์สูงสุด หมดทัวร์คอนเสิร์ตจะงดรับงาน ทำสมาธิเตรียมบวช

หลังจากที่โครงการว่ายน้ำข้ามโขง ของพระเอกหนุ่ม “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ระดมทุนซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้รพ.ไทย-ลาว ได้ยอดเกินเป้าไปมาก จากที่วางไว้แค่ 17 ล้าน แต่ทะลุไปถึง 80 กว่าล้าน ทำหนุ่มโตโน่ชื่นใจมาก ออกปากจะบวชตอบแทบน้ำใจทุกคนที่ช่วยเหลือกันเข้ามา ล่าสุดเจอตัวโตโน่ในงาน บวงสรวงภาพยนตร์ “ขุนพันธ์ 3” ณ อาคารพระพุทธเจ้าหลวง (ตึกสีชมพู) โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร เจ้าตัวก็เผยว่าตอนนี้มีการประชุมกันหลายครั้ง ทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว เพื่อช่วยกันหาเครื่องมือที่ดี ราคาที่ยุติธรรม และทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับทุกคน

“เครื่องมือแพทย์ทั้งฝั่งนครพนมและฝั่งสปป.ลาวมีเยอะมาก แล้วแต่ละชิ้นราคาสูงครับ ต้องสั่งจากต่างประเทศ ดังนั้นเราต้องมีการประชุมหลายครั้งกับคุณหมอฝั่งนครพนม ฝั่งลาว รวมถึงฝั่งส่วนกลางกรุงเทพฯ ต้องช่วยกันดูและหาสเปกที่มันดีที่สุด ราคาที่ยุติธรรมที่สุด แล้วก็ให้มันเกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับพ่อแม่พี่น้องทุกคนที่จะได้มารักษา

สำหรับกระบวนการจัดสรรเงิน การประชุมในแต่ละครั้งจะเป็นเรื่องลิสต์รายชื่อเครื่องแต่ละเครื่อง ว่าขาดกี่เครื่อง จำเป็นยังไง แล้วก็ดูราคาที่เหมาะสมของแต่ละบริษัทที่เสนอมา ผมก็พยายามไปร่วมประชุมทุกครั้ง เพื่อให้เราได้รับรู้รายละเอียดที่สุด เพื่อที่จะได้มาชี้แจงให้ทุกคนทราบ ผมมองว่าทุกบาททุกสตางค์มันมีค่าหมดเลย มันสำคัญมากๆ เลย ดังนั้นมันควรจะเกิดประโยชน์ให้ได้มากที่สุดของทั้ง 2 ประเทศ แต่เราก็มีคุณหมอทั้ง 3 ที่ ทั้งนครพนม สปป.ลาว และส่วนกลางที่ทางเทใจมาช่วย เพราะการสั่งซื้อแต่ละครั้งไม่ใช่ว่าซื้อเลย เราต้องไปดูสถานที่ ไปดูว่าเครื่องตัวนี้มีคุณหมอที่ใช้ได้จริงไหม ไม่ใช่ว่าซื้อมาแล้วเครื่องนั้นตั้งอยู่เฉยๆ เราต้องเช็กให้ดี ให้ละเอียดที่สุด อย่างที่บอก ONE MAN AND THE RIVER ทุกคนมาช่วยกันมันน่าชื่นใจมาก ดังนั้นทุกๆ เรื่องมันต้องช่วยชีวิต ทำให้พ่อ แม่ พี่ น้อง รวมถึงคุณหมอ พยาบาลทุกคนได้ใช้ประโยชน์จริงๆ”

งบซื้อเครื่องมือการแพทย์เปลี่ยนไป จากที่วางไว้ 17 ล้าน ตอนนี้ 80 กว่าล้าน
“เปลี่ยนครับ ตอนแรกเราตั้งเป้าไว้ 17 ล้าน แต่ตอนนี้มัน 80 กว่าล้าน มันเปลี่ยนตั้งแต่ว่ายไปถึงฝั่งลาวแล้วครับ พอผมว่ายไปถึงฝั่งลาวแล้ว ท่าน ผอ.ของโรงพยาบาลแขวงคำม่วนก็บอกกับเราเลยว่าเราขอเครื่องเพิ่ม ฝั่งนครพนมก็เหมือนกัน ดังนั้นแฟ้มรายชื่ออุปกรณ์การแพทย์ที่อยู่กับผม หูย…แค่นครพนมก็ 40 กว่าล้านแล้วครับ ส่วนฝั่งลาวก็ 30 กว่าล้าน อีก 2 วันผมก็จะบินไปนครพนมด้วยกับคุณหมอทั้งฝั่งนครพนมและลาว เพื่อที่จะได้คุยกันว่าเครื่องอะไร ยี่ห้อไหน ดีที่สุดเหมาะสมที่สุด”

ณ เวลานี้อยู่ในช่วงเจรจากัน ทางคุณหมอส่งข่าวมาบอกเราเรื่อยๆ เป็นเรื่องของการหาสเปกเครื่อง อย่างเครื่องบางเครื่อง ทางส่วนกลาง ทางเทใจ รวมถึงตัวผมก็อยากจะไปดูด้วยว่ามันจะอยู่ในจุดไหน มีคุณหมอเฉพาะทางที่ใช้ได้จริงไหม”

ไม่กดดันเรื่องเงินบริจาค
ไม่ครับ เพราะตั้งแต่ต้นของโครงการมันคือโครงการที่เราทุกคนมาช่วยเสียสละ โอเคมันคงต้องเหนื่อยแหละครับ ทั้งว่ายน้ำ แต่ถ้าเราคิดจะทำเพื่อผู้อื่น เราก็ต้องทำให้มันถูกต้อง แล้วที่สำคัญคือผมนึกถึงคุณหมอ พยาบาล พ่อ แม่ พี่ น้องทุกคน ทั้งชาวนครพนม คนไทยทุกคนรวมถึงชาวลาวที่จะได้ผลประโยชน์จากการได้มารักษาตรงนี้ ผมเต็มใจครับ

ผมไปประชุมด้วยทุกครั้ง เพราะว่าเวลามาตอบส่วนใหญ่ผมต้องเป็นคนตอบ แล้วที่สำคัญเราอยากจะให้มันชัดเจนที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แต่ตัวผมเองไม่ใช่คุณหมอโดยตรง ดังนั้นเราต้องมีคุณหมอจากทางส่วนกลางมาช่วยกันดู แต่ก็โชคดีคุณหมอทั้งจากนครพนมและแขวงคำม่วน เขาก็ช่วยกันหาสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อประชาชนของเรา

ถามว่าได้ข้อสรุปหรือยัง จริงๆ มีคร่าวๆ แล้วครับ ตอนนี้เราต้องไปดูสถานที่ให้ชัดเจนด้วยว่าเครื่องที่อยากได้ทั้ง 80 ล้าน มันจะไปอยู่ตรงไหน แผนกไหน หน่วยไหนจะใช้ มันต้องละเอียดครับ ผมว่ามันต้องชัดเจน คือตั้งแต่เด็กจนโตมา ผมว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่เราจะต้องพูด ต้องตอบ และเห็นกับตาตัวเอง จริงๆ เราต้องไปหลายครั้ง แต่ก็ต้องเป็นความเต็มใจที่จะต้องสละเวลาตรงนี้เพื่อประโยชน์ส่วนรวมครับ”

ยันหักค่าดำเนินการ 10 เปอร์เซ็นต์เข้าโครงการเทใจ เป็นไปตามกฎของมูลนิธิที่มีนานแล้ว อีกทั้งได้แจ้งไปหมดแล้ว
เป็นไปตามกฎของทางเทใจ จริงๆ เขาแจ้งไว้ตั้งแต่ในเว็บหมดแล้วครับ ไม่ได้เพิ่งมาแจ้ง มันเป็นไปตามกฎของมูลนิธิเขา มันมีมาตั้งนานแล้วครับ แล้วก็มีทุกโครงการ เราลองนึกดูโครงการแต่ละโครงการทำเพื่อส่วนรวม พนักงานเขาต้องไปออกใบกำกับภาษี เราลองคิดดูว่ามีกี่คนที่ช่วยกันบริจาค มีเป็นล้าน ดังนั้นผมคิดว่าเราก็ทำให้มันถูกต้อง ทำให้มันชัดเจน ผมก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไร พยายามทำให้มันถูกต้องและเป็นไปตามกฎ”

ทัวร์คอนเสิร์ตเสร็จจะไม่รับงาน เตรียมบวช
“ตอนนี้ผมทำงานทุกวันเลยครับ แล้วก็รอว่าจะบวชวันที่ 9 มกราคม ที่ วัดพระธาตุพนม จ.นครพนม ตั้งใจว่าทัวร์คอนเสิร์ตเสร็จก็จะไม่รับงานแล้ว จะเตรียมตัวทำสมาธิดีๆ ผมอยากจะบวชให้กับพ่อ แม่ พี่ น้องทุกคนที่เขาช่วยกันบริจาคมา ผมไม่รู้จะตอบแทนน้ำใจของทุกคนยังไงที่มีให้บ้านเรา และประเทศลาว ผมมองว่ามันเป็นประเพณีที่ดีงาม ผมได้เจอกับคุณพ่อคุณแม่หลายท่าน บางคนอาจจะไม่ได้มีลูกชาย ก็ถือว่าผมขอบวชให้นะครับ ในการตอบแทนบุญคุณของทุกๆ คนครับ

ตั้งใจไว้ว่าบวช 7 วันครับ ถามว่าทำไมถึงเป็นวัดนี้ คือผมไปไหว้ที่วัดนครพนม ผมว่ายน้ำจากพญาศรีสัตตนาคราชขึ้นไปสักการะบูชาพระธาตุศรีโคดตะบอง ผมก็เลยอยากจะบวชที่วัดพระธาตุพนมด้วย เป็นเหมือนพระธาตุที่คู่กันมาตรงฝั่งลาวกับฝั่งไทย มีประเพณีที่ดีงามที่เราอยากจะรักษาเอาไว้ อยากจะให้ชาวโลกได้รู้ด้วย แต่หลักๆ คืออยากจะบวชทดแทนน้ำใจที่ทุกคนช่วยกันครับ หลายปีมาแล้วครับ พวกเราทุกคนคงไม่ได้เห็นภาพแบบนั้นที่ทุกคนมารวมใจกัน รักกัน สามัคคีกัน มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันเพื่อผู้อื่น ผมว่ามันเป็นภาพที่สวยงามมากที่ผมอยากจะจดจำเอาไว้ตลอดชีวิตของผม แล้วผมก็ไม่รู้ว่าจะหามาจากไหน ก็นึกขึ้นมาได้ว่าการบวชของชาวพุทธมันเป็นการตอบแทนที่สูงที่สุดแล้ว ผมก็อยากอยากจะใช้พิธีนี้ เป็นการตอบแทนทุกคนครับ”

อยากให้เรียบง่าย แต่ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ตนคนเดียว
"ผมอยากให้เรียบง่ายที่สุด แต่บางทีหลายๆ อย่าง มันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่เราคนเดียว ใครที่อยากจะไปร่วม ทางเรา ทางวัด ทางพระครูก็มีความยินดีที่อยากจะต้อนรับทุกๆ คน แต่ส่วนตัวผมแล้ว ผมอยากทำให้มันถูกต้องตามธรรมเนียม ประเพณี ไม่ได้คิดว่ามันจะเล็กจะใหญ่เลย ใจอยากให้เรียบง่าย แต่คงจะยากเหมือนกันครับ ตอนนี้เคลียร์งานแล้วครับ บอกผู้จัดการไว้แล้วว่าเดือนมกราคมจะไม่รับงานแล้ว”

แม่ชื่นใจ
“ชื่นใจครับ จริงๆการบวชไม่ได้อยู่ในหัวตั้งแต่ตอนแรก ตอนว่ายมันเป็น 60 กว่าล้าน แต่มาถึงกรุงเทพฯ มันเป็น 70 กว่าล้าน ก็รู้สึกว่าไม่รู้จะตอบแทนยังไง เลยบอกคุณแม่ว่าโน่จะบวชนะ อีกอย่างหนึ่งผมมีความรู้สึกว่าการว่ายครั้งนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องของคน มันมีเรื่องของความเชื่อด้วย มีเรื่องขององค์พ่อพญานาคด้วย เลยคิดว่าการตอบแทนด้วยการบวชน่าจะดีที่สุด

ส่วนบวชตอบแทนท่านจากการที่เรารอดปลอดภัยไหม อันนี้ผมบอกก่อนมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มีคนที่เชื่อและศรัทธาอยู่แล้ว ส่วนตัวผมแล้วจากที่รู้สึกหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มต้น จนไปไปถึงนครพนมและวันว่าย ตลอดระยะเวลา 3 วันที่อยู่ที่นั่น ผมรู้สึกได้ครับ คิดว่าบวชนี่แหละดีที่สุดทั้งตอบแทนทุกคน รวมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พ่อ แม่ พี่ น้อง ปู่ ย่า ตา ยาย บรรพบุรุษของเราศรัทธามาครับ”





กำลังโหลดความคิดเห็น