กรณีของ “ตู้เหม่ยจู” สาวสวยที่ออกมาแฉ “อู๋อี้ฝาน” หรือ “คริส อู๋” ว่าได้ข่มขืนเธอและหญิงสาวคนอื่นๆ จนอดีตไอดอลหนุ่มเพิ่งถูกศาลตัดสินจำคุก 13 ปี แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสาวๆได้ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อทวงความยุติธรรมให้ตนเองเมื่อถูกรังแก เช่นเดียวกับกระแส #MeToo แต่กลับกลายเป็นว่าเจ้าตัวโดนด่ายับ แถมเผยว่าแม้แต่เพื่อนยังสาปเธอด้วย
“เพื่อนบางคนถูกติดสินบนให้ต่อต้านฉัน และพวกเธอก็จ้องทำลายชื่อเสียงของฉันอย่างเปิดเผย” เหยื่อสาววัย 20 ปี เขียนโพสต์ระบายความในใจลงใน Weibo หลังทราบข่าวการตัดสินของศาล
“พวกเขากล่าวหาว่าฉันไม่ใช่เหยื่อที่แท้จริง พร้อมกับสร้างเรื่องหลอกคนทั้งโลกว่า คริส เป็นผู้บริสุทธิ์ หลังจากเหตุการณ์นี้แล้ว ฉันได้ระหนักว่าธรรมชาติของมนุษย์ไม่อาจต้านทานการทดสอบได้”
ตู้เหม่ยจู โพสต์ข้อควมหลังศาลตัดสินว่า คริส อู๋ อดีตไอดอลที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มีความผิดจริงในข้อหาข่มขืนกรทำชำเราหญิงสาว 3 คนตั้งแต่เดือน พ.ย. – ธ.ค. 2020 และยังมีการจัดให้คนรวมกลุ่มเพื่อร่วมประเวณีเมื่อเดือน ก.ค. 2018
“ฉันเศร้าสะเทือนใจมานับไม่ถ้วน แล้วก็คิดจะจบชีวิตตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตลอดช่วงระยะเวลาที่รอคอยผลการตัดสิน ฉันถูกกระหน่ำด่าอย่างมากมายในโลกออนไลน์
เธอยังได้เปิดเผยเพิ่มเติมด้วยว่า ชาวเน็ตกล่าวหาเธอเพราะเธอมีเพศสัมพันธ์ในช่วงวัยรุ่น และกล่าวหาว่าเธอขู่กรรโชก คริส แถมยังบอกด้วยว่า ‘ทำไมไม่ส่องกระจกดูตัวเอง เขาจะไปหาเธอทำไม?’”
“ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ฉันคือคนที่โดนคุกคามแล้วมันผิดมากเหรอที่ออกมาปกป้องสิทธิของตนเองตามกฎหมาย? แค่เพราะว่าเขามีแฟนคลับ เขาก็สามารถทำทุกอย่างที่เขาต้องการได้ และได้รับการยกโทษอย่างไม่มีเงื่อนไขเหรอ?”
เดือน ก.ค. ปีที่แล้ว ( 2021 ) ตู้เหม่ยจู ได้กล่าวหา คริส อู๋ อดีตไอดอลดังวัย 32 ปี ว่าได้ล่อลวงเธอให้ไปที่บ้านของเขา โดยชักจูงให้ไปออดิชัน และบังคับให้เธอดื่มจนเธอไม่ได้สติและเมื่อฟื้นแล้ว เธอก็พบว่าตนเองนอนเปลือยอยู่บนเตียงของเขาแล้ว
จากการกล่าวหาดังกล่าว ได้ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อม แบรนด์ต่างๆพากันถอดโฆษณา ยกเลิกสัญญา และการร่วมงานกับ คริส อุ๋ ทันที ซึ่งในเวลานั้นเขาได้พยายามสื่อสารกับทุกคนเพื่อชี้แจงโดยระบุว่า “ผมไม่เคยเลือกผู้หญิง ผมไม่เคยล่อลวง หรือข่มขืนใครทั้งนั้น! ไม่มีเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ถ้าผมมีพฤติกรรมแบบนั้นจริง รับรองได้ ผมส่งตัวเองเข้าคุกแน่ ผมขอรับผิดชอบสำหรับทุกสิ่งที่ฉันพูด”
จากนั้นในเดือนต่อมา คริส อู๋ ก็ถูกจับและโดนตั้งข้อหาข่มขืน
“แค่เพราะเอเยนต์ของเขาเป็นผู้หญิง ฉันเลยไว้ใจเขา เลยนำไปสู่เหตุการณ์ต่างๆตามมา ฉันแค่อยากจะเตือนผู้หญิงคนอื่นๆด้วยเหมือนกันว่าอย่าไว้ใจคนอื่นง่ายๆ แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันเอง เมื่อตกอยู่ในอันตราย โทรหาตำรวจและรวบรวมหลักฐาน อย่าไปกลัวกับคำขู่!”
ตู้เหม่ยจู ยังระบุด้วยว่า เธอต้องจำใจออกจากมหาวิทยาลัยในปักกิ่งเพื่อปกป้องตนเองจากแฟนคลับ คริส อู๋ และต้องยกเลิกความฝันที่จะเป็นศิลปิน แต่ก็ยังขอบคุณผู้ชมบางคนที่ยังเป็นกำลังใจให้เธอเรื่อยมา
ตู้เหม่ยจู ยังมีความฝันอยากใช้ชื่อเสียงของตนเองช่วยเหลือคนอื่นบ้าง “ในอนาคต ฉันจะใช้ชื่อเสียงของตัวเองช่วยเหลือคนอื่นๆที่ต้องการ และจะสร้างประโยชน์ให้กับบ้านเกิดมากขึ้น”
ตอนนี้เมื่อคดีของเธอได้ทราบผลการตัดสินแล้ว เจ้าตัวได้แต่หวังว่าจะมีอนาคตที่รุ่งโรจน์รอเธออยู่
“ถึงเวลาที่ต้องบอกลาปีที่พรากวัยเยาว์ของฉันไป ฉันไม่รู้เลยว่าอนาคตข้างหน้าจะดีหรือร้าย แต่ฉันหวังว่าสังคมจะสร้างความเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนไปสู่การยอมรับที่มากยิ่งขึ้น ฉันหวังว่าฉันจะสามารถตามล่าความฝันของตัวเองได้อีกต่อไป เส้นทางนี้อีกยาวไกล สักวันพระอาทิตย์จะกลับมาส่องแสงสว่างไสวอีกครั้ง”