หลัง ไลฟ์ เนชั่น เทโร (Live Nation Tero) ประกาศเตรียมเป็นผู้จัดคอนเสิร์ต “BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK” ในวันเสาร์ที่ 7 และวันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม 2566 ที่สนามกีฬาแห่งชาติ (สนามศุภชลาศัย) โดยมีผู้สนับสนุน อย่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, True Corporation และ ZEPETO
ล่าสุด (25 พ.ย. 65) ไลฟ์ เนชั่น เทโร ร่วมกับ ผู้ว่า ททท. และผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ก็ได้จัดงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต “BLACKPINK BORN PINK WORLD TOUR BANGKOK” ขึ้น ณ ห้องไทยจิตรลดา1 ชั้น 2 โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ คสีนส์ปาร์ค กรุงเทพมหานคร เพื่อประกาศความพร้อมและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ชม ว่าในคอนเสิร์ตทั้ง 2 รอบการแสดง จะถูกจัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามกฎของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ทุกคนปลอดภัยและสนุกกับการชมการแสดงได้อย่างเต็มอิ่ม
โดย นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีว่า “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนการจัดคอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK ที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 7-8 มกราคม 2565 ณ สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร ในครั้งนี้วง BLACKPINK ถือเป็นกลุ่มศิลปินแถวหน้าของโลก ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ และมีอิทธิพลอย่างกว้างขวางแทบทุกวงการ โดยเฉพาะหนึ่งในสมาชิกจากทั้งสี่คน ในวง BLACKPINK คือ ลิซ่า ลลิษา มโนบาล ศิลปินชาวไทยที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย ในการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมอันงดงามของประเทศไทยมาโดยตลอด และมีผู้ติดตามชมผลงานเป็นจำนวนมากจากทั่วโลก อันจะเป็นการช่วยส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ ให้มีการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้เป็นอย่างดี
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเล็งเห็นว่า การจัดคอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK จะมีส่วนสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทย ในด้านการเป็น Music Destination โดยใช้หลัก Music Destination marketing เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย ในการสร้างประสบการณ์อันทรงคุณค่า และมุ่งสู่ความยั่งยืนในมิติต่างๆ
รวมถึงสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงในกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short Haul) ทั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สาธารณรัฐสิงคโปร์ และมาเลเซีย ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยสุดท้ายนี้ผมขออวยพร ให้การจัดคอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK ในครั้งนี้ สำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ ประเทศไทย ในการเป็น Music Destination ระดับโลกต่อไป”
ดร.ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ขึ้นกล่าวต่อว่า “ในนามของกลุ่มทรู ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ร่วมสร้างปรากฏการณ์ความสนุกระดับเวิลด์คลาส กับคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่ BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK ซึ่งต้องขอขอบคุณ บริษัท ไลฟ์เนชั่น เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด และ วายจี เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ที่ได้จับมือกับทรู มอบประสบการณ์ครั้งใหม่เอาใจลูกค้ากลุ่มทรู และชาว BLINK แบบพิเศษสุดมา ณ ที่นี้
การเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ในคอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK นอกจากจะสะท้อนความตั้งใจของกลุ่มทรู ที่ต้องการเติมเต็มทุกความสุขและรอยยิ้ม ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดแทนคำขอบคุณคนไทยและลูกค้าทรู ที่เป็นคนสำคัญมาอย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังตอกย้ำศักยภาพของ ทรู 5G ผู้นำเครือข่ายอัจฉริยะอันดับ 1 ที่เร็ว ครบ แรง ล้ำกว่า และทรูไอดี เจ้าแห่งคอนเทนต์ระดับโลก ครอบคลุมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอปพลิเคชันที่ครบจบทุกไลฟ์สไตล์ ดูได้ทุกที่ ทุกเวลา สิทธิพิเศษดีลดีร้านดัง พร้อมสะสมทรูพอยท์ได้ทุกวัน
ในครั้งนี้ ขอเชิญชวนลูกค้ากลุ่มทรู พร้อมชาว BLINK มาสัมผัสประสบการณ์ระดับโลก กับกิจกรรมสุดพิเศษ ลุ้นรับ VIP Package บัตรคอนเสิร์ต สิทธิ์เข้าชมรอบ Sound Check ที่หาที่ไหนไม่ได้ รวมถึงซีดี และโปสเตอร์ พร้อมลายเซ็นของ 4 สาว ตลอดจนของที่ระลึก Limited Edition จากทรู โดยลูกค้าทรูและลูกค้าใหม่ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมและโปรโมชั่นมากมาย อาทิ ทรู 5G ซื้อแพ็กเกจที่ร่วมแคมเปญ ลุ้น Top Spender, ร่วมสนุก Popular vote, ซื้อแพ็กเกจ TrueID+ ลุ้นรับของรางวัล ได้ที่ https://www.true.th/trueblink
สุดท้ายนี้หวังว่า ในวันที่ 7-8 มกราคม 2566 ณ
สนามกีฬาแห่งชาติ (สนามศุภชลาศัย) คนไทยและลูกค้าทรู จะได้รับความสุขอย่างเต็มอิ่มกับที่สุดของโมเมนต์ ทั้งร้องและเต้นแบบจัดเต็มไร้ขีดจำกัด ในคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ที่ทุกคนรอคอย ซึ่งทรูมั่นใจว่าของขวัญสุดพิเศษนี้ จะทำให้ทุกคนมีความสุข มีรอยยิ้มได้อย่างเต็มที่แน่นอน ขอบคุณครับ”
ด้าน มร.เนล ทอมป์สัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท ไลฟ์ เนชั่น เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด ขึ้นกล่าวปิดท้ายว่า “ไลฟ์ เนชั่น เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสจัดคอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] ในเมืองไทย ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 7-8 มกราคม 2566 ถือเป็นของขวัญปีใหม่ของปี 2023 ให้กับทุกคน และขอขอบคุณแฟนๆ ที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพ ผ่านการแสดงอันทรงพลังของศิลปิน ด้วยโปรดักชั่นที่ยิ่งใหญ่ ทั้งแสง สีเสียง อันจะสร้างความสุข ความสนุก และความประทับใจให้กับแฟนๆ อย่างเต็มอิ่ม
รวมถึงมุ่งเน้นเรื่องการอำนวยความสะดวกสบาย
และความปลอดภัยให้กับแฟนๆ ทุกท่านที่มาร่วมชมการแสดง และเราพร้อมจะคัดสรรศิลปินระดับโลกที่แฟนๆ ชื่นชอบ นำมาเปิดการแสดงในประเทศไทย ให้ทุกคนได้ชมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ทาง ไลฟ์ เนชั่น เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ขอขอบคุณผู้สนับสนุนของการจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ ได้แก่ YG Entertainment, Live Nation Korea, กรมพละศึกษา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, ทรู คอร์ปอเรชั่น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ขอบคุณครับ”
อนึ่ง BLACKPINK กลับมาพร้อมผลงานอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 [BORN PINK] ที่เปิดตัวแรงด้วยการขึ้นครองอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard 200 ซึ่งนับว่าเป็นผลงานของศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปในรอบ 14 ปี ที่สามารถคว้าอันดับ 1 บน Billboard 200 นับตั้งแต่ปี 2008 ทั้งยังสร้างประวัติศาสตร์ให้วงการ K-Pop ด้วยยอดขาย 2 ล้านอัลบั้ม และซิงเกิ้ล ‘Shut Down’ ได้กวาดสตรีมไปถึง 100 ล้านสตรีมมิ่งใน Spotify รวมไปถึงครองชาร์ต Hot 100 และ Global 200 บน Billboard ถึง 3 สัปดาห์ซ้อน ไม่เพียงแต่อัลบั้มที่ประสบความสำเร็จ แต่คอนเสิร์ตทั้ง 2 รอบที่กรุงโซล เกาหลีใต้ ก็มีกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม ถือเป็นการเริ่มต้นเวิลด์ทัวร์ของ BLACKPINK อย่างเป็นทางการ
งานนี้ห้ามพลาดกับคอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่ของ BLACKPINK ในเมืองไทย กับทัวร์ล่าสุด BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] ซึ่งจะจัดขึ้น 2 รอบ ในวันเสาร์ที่ 7 มกราคม และวันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม 2566 ที่สนามกีฬาแห่งชาติ (สนามศุภชลาศัย) สามารถซื้อบัตรได้ที่ www.livenation.co.th หรือที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-262- 3838
สามารถติดตามความเคลื่อนไหวคอนเสิร์ตได้ที่เฟซบุ๊ก www.facebook.com/livenationth และ อินสตาแกรม https://www.instagram.com/livenationth/ และทวิตเตอร์ https://twitter.com/livenationth