“ทนายตั้ม” ยืนยันได้รับข้อมูลจริงจากปาก “ดาราชายน้องใหม่” ว่าถูก “ดารารุ่นใหญ่” ตบหน้ากลางห้างที่เกาหลี บอกรอให้กลับมาแถลงข่าวที่ไทยและฟังข้อเท็จจริงอีกครั้ง เผยถ้าฝั่งรุ่นใหญ่ถูกดำเนินคดีที่เกาหลีก่อนกลับก็ถือว่าจบไป แต่ถ้ากลับไทยก่อน ฝั่งตนก็จะดำเนินคดีจนถึงที่สุด แถมเหน็บไม่กลัวโดนฟ้องกลับ ขอให้ขายห่อหมกได้ดีๆ แฉซ้ำอีกดอกเคยตบคนขับรถด้วย
เกิดเป็นประเด็นใหม่ร้อนแรงอีกแล้ว หลังจากที่ทนายชื่อดังอย่าง “ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด” โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า นักแสดงรุ่นใหญ่ลายคราม รับจ็อบพาลูกค้าซึ่งเป็นนักแสดงน้องใหม่ ไปเสริมหล่อที่เกาหลี ปรากฏว่าไม่พอใจที่ชวนไปกินปูแล้วน้องดาราไม่ไป ตบหน้าฉาดใหญ่กลางห้างดัง! จากนั้นก็โพสต์ภาพพร้อมข้อความอีกครั้งว่า ตอนนี้นักแสดงน้องใหม่ได้ทำการแจ้งความไว้ที่เกาหลีเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งล่าสุด ทนายตั้ม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ บอกว่าได้รับการมอบหมายจาก ดาราชายน้องใหม่ คนนี้ให้ดำเนินคดีกับ ดารารุ่นใหญ่ อย่างถึงที่สุด เพราะทางพ่อและแม่ของดาราชายก็ไม่พอใจมากเมื่อทราบข่าว
“ก็มีน้องนักแสดงหน้าใหม่คนหนึ่งทักเข้ามาในไอจี ว่าเขาถูกนักแสดงรุ่นใหญ่คนหนึ่งทำร้าย และถามว่าสามารถดำเนินคดีที่เกาหลีได้ไหม หรือสามารถดำเนินคดีที่ไทยได้ไหม ผมก็ถามรายละเอียดเขาว่าเกิดเหตุการณ์อะไรยังไง น้องเขาก็เล่าให้ฟังว่า รู้จักกับดาราคนนี้ซึ่งเป็นรุ่นใหญ่ในวงการบันเทิง และเขารับจ็อบโดยการพาคนไปอัปหน้าที่เกาหลี และผู้จัดการของเขาสนิทกับดาราคนนี้ เขาก็ไปด้วยกัน ไปด้วยกันหลายวันแล้ว
ก็มีอยู่วันนึงไปเดินซื้อของกันในห้าง และทางดารารุ่นใหญ่คนนี้เขาอยากกินห่อหมก เอ้ย เขาอยากกินปู และน้องคนนี้เขามีหนังที่กำลังออนอยู่พอดี เขาไม่สะดวก ก็เลยไม่ขอไปด้วย ปรากฏว่าดารารุ่นใหญ่คนนี้เขาก็ฟีลขาด ก็ตบน้องเลย คือน้องเขาก็เกรงใจด้วย เขาก็ส่งข้อความไปบอกทางคุณพ่อคุณแม่ ทางคุณพ่อคุณแม่เขาก็บอกว่าถ้าทำแบบนี้ก็ไม่ต้องไปเกรงใจแล้ว ถ้าดำเนินการอะไรได้ก็ดำเนินการเลย
ก็เลยเป็นต้นเหตุว่าวันนี้เขามาปรึกษาเสร็จเมื่อเช้า ก็เลยบอกว่าให้เขาไปแจ้งความที่เกาหลี และเก็บหลักฐานทุกอย่างไว้ ซึ่งกฎหมายถึงแม้คดีจะเกิดนอกราชอาณาจักร แต่ก็สามารถดำเนินคดีในประเทศไทยได้ เพราะมีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย เรื่องนี้อัยการสูงสุดก็มีหน้าที่รับผิดชอบในการฟ้องคดีครับ”
บอกดาราชายไปในฐานะลูกค้า แต่กลับถูกใช้ให้ถ่ายรูปและต้องตามใจดารารุ่นใหญ่สารพัด
“ถามว่าตบทีเล่นทีจริงไหม น้องบอกว่าตบแรงมากเลยครับ ตบที่หน้า ที่หัว ตบ 1 ที มีตบที่ตัวอยู่หลายที แต่ว่าตบหน้าทีนึงตอนกำลังจะออกจากห้าง คือน้องบอกว่าตอนที่ปฏิเสธเขาตบตรงนี้ (ชี้ที่แขน) แล้วอยู่ๆ เขาเกิดโมโหอะไร คือต้องให้น้องกลับมาไทยแล้วให้น้องเล่าให้ฟัง เพราะได้มีการคุยและตอบโต้กัน และมีการตบหน้า ระยะห่างแค่ไม่กี่วินาทีหรอกครับ
ตอนที่โดนตบน้องยังไม่ได้ทำศัลยกรรมครับ แต่ก็ไม่ได้ถามทางส่วนของผู้จัดการเขาว่ายังไง แต่ทราบว่าพ่อแม่ของน้องก็ไม่พอใจ เพราะน้องเพิ่งอายุ 20 กว่าๆ และที่บ้านก็ไม่เคยทำแบบนี้กับลูก เขาก็ไม่พอใจว่าเป็นใครมาจากไหน เพราะไม่ได้สนิทอะไรกัน เอาจริงๆ น้องเป็นลูกค้าด้วยซ้ำ ผมก็ถามว่าน้องไปครั้งนี้น้องได้สปอนเซอร์หรือเปล่า หรือเขาออกค่าใช้จ่ายให้เราหรือเปล่า น้องบอกว่าเปล่าเลยครับ ผมจ่ายเงินไปเอง 2 แสนกว่าบาทเพื่อที่จะไปทำ และตัวดาราคนนี้เขาก็ได้เปอร์เซ็นต์จากการที่พาน้องไป”
เผยดารารุ่นใหญ่รู้เรื่องข่าวนี้แล้ว แต่กลับไปโวยวายต่อ
“ตอนนี้ดาราคนนี้เขารู้ว่าเป็นข่าวแล้ว เพราะหลังจากที่ผมได้มีการโพสต์ไป ทางดาราคนนี้ได้มีการโทร.ไปหาผู้จัดการของน้อง เพราะน้องเขาบล็อกไลน์และบล็อกเบอร์ของดาราคนนี้ เพราะเขาไม่อยากจะยุ่งด้วย และย้ายโรงแรม เปลี่ยนเที่ยวบิน ก็คือไม่อยากจะเจออีกแล้ว ก็ปรากฎว่าดาราคนนี้พอติดต่อน้องไม่ได้ก็ได้มีการติดต่อไปที่ผู้จัดการของน้อง ก็เหมือนมีการคุยว่าทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ในเมืองไทย ก็ยังมีการไปตำหนิน้องอีก
น้องก็บอกว่าถ้าอย่างนี้ผมไม่เกรงใจแล้วพี่ พี่ดำเนินการถึงที่สุดไปเลย และเดี๋ยวกลับมาน้องจะแถลงข่าว น่าจะอีกประมาณ 4 วัน ถามว่าเหตุการณ์ตอนนั้นมีใครเห็นไหม มีครับ น้องบอกว่ามีคนไทยเห็นตั้งเยอะครับ และน้องเขาก็อาย ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจของเกาหลีเขาก็เก็บหลักฐานแล้ว ก็คงจะมาสอบคนที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเป็นพนักงานของห้าง ที่น้องเขาบอกก็คือทางเกาหลีเขาเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่นะครับ มีการทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ ทางเราก็จะดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย มาตรา 295 ทำให้ได้รับอันตรายแก่กายครับ”
บอกดารารุ่นใหญ่คนนี้เคยมีประวัติตบหน้าคนขับรถมาแล้ว แถมถูกแบนจากชาวเน็ตอีก
“ถามว่าทำไมดาราคนนี้ถึงทำ คือหลังจากที่ผมโพสต์ไปก็มีคนเดากันมากมายเลยว่าคือใคร และปรากฏว่ามีดาราอยู่ท่านนึงที่สนิทกับดาราคนนี้ เขาก็บอกว่าเขารู้เลยว่าใคร เขาเดาถูกเลยแหละว่าใครตบ และเขาก็เดาว่าเป็นคนขับรถใช่ไหม ผมก็บอกว่าไม่ใช่ คนนี้เป็นดาราน้องใหม่ที่กำลังมีละครหนังอยู่ตอนนี้ เขาก็บอกว่าเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นกับคนขับรถเขาด้วย อันนี้ต้องไปตามสืบกันแล้วว่าจริงหรือไม่จริง เพราะผมได้รับการบอกเล่ามาอีกทีนึง
ทางดาราคนนี้ได้มีการติดต่อผมมาไหมเหรอ ไม่มีครับ ผมไม่มีคอนแท็ก และไม่รู้จักกับเขา แต่กับดาราน้องใหม่คนนี้เขาบอกว่าให้ดำเนินคดีถึงที่สุดเลยครับ ดำเนินคดีอะไรได้ก็ดำเนินคดีไป ผมก็เลยบอกว่าให้แจ้งความที่เกาหลีก่อน และถ้าสมมติเกาหลีได้มีการลงโทษก่อนที่จะกลับไทย เราก็ไม่สามารถดำเนินคดีที่ไทยได้แล้ว เพราะการกระทำความผิดแค่ 1 ครั้ง มันก็รับโทษแค่ครั้งเดียว แต่ถ้าเขากลับไทยมาก่อนโดยที่ยังไม่ได้รับโทษ เราก็มาดำเนินคดีที่ไทยต่อได้”
ยืนยัน ดาราชาย ไม่ได้มีสัมพันธ์กับ ดารารุ่นใหญ่ แน่นอน
“ผมก็ถามน้องเขาก่อนว่ามันมีเหตุอะไรเกิดขึ้นก่อนไหม ผมถามละเอียดเวลาที่จะคุยกับลูกความ ก็ถามว่ามีทะเลาะอะไรกันก่อนไหม เขาก็บอกว่าไม่ แต่น้องเขาบอกว่า เหมือนผมมาแล้วต้องไปดูแลเขา ทั้งๆ ที่ผมเป็นลูกค้า ต้องคอยถ่ายรูปให้ ถ่ายรูปก็ถ่ายนาน ต้องมาคอยเอาใจ เขาก็บ่นให้ฟัง และเขาก็บอกว่าไม่อยากจะต้องมาทำอะไรอย่างนี้แล้ว เพราะจริงๆ แล้วเขาต้องการมาทำหน้า ไม่ได้ต้องการที่จะมาดูแลใคร
ถามว่าดารารุ่นใหญ่คนนี้คิดอะไรกับดารารุ่นน้องไหม ผมก็ได้ถามเหมือนกัน ผมถามเลยว่ามีอะไรกันหรือเปล่า อะไรยังไง เขาก็บอกว่าไม่ครับ ยืนยันว่าไม่มีอะไร นอนก็นอนคนละห้อง และไม่ได้สนิทด้วย เพิ่งจะมาสนิทก็ตอนที่มาที่นี่แหละ ถามว่าดารารุ่นใหญ่คนนี้นิสัยชอบกร่างไหม คือเท่าที่ผมได้ไปเช็กดู เขาก็เคยมีเอาไอจีไปด่าคำไม่สุภาพ และเคยโดนชาวเน็ตแบน อันนี้ที่ผมเคยไปเปิดค้นดูนะ”
ไม่หวั่นถ้าอีกฝ่ายจะฟ้องกลับ และถ้าไม่จริงตรงไหนก็ให้ออกมาแย้งได้เลย
“ถามว่ากังวลว่าเขาจะฟ้องกลับไหม ไม่กังวลเลยครับ เพราะเราพูดในฐานะตัวแทนของลูกความของเรา และเป็นข้อเท็จจริง เราไม่ได้ไปใส่ร้ายเขา ถ้าเกิดเขาเห็นข่าวว่าผมออกมาให้สัมภาษณ์แล้วไม่จริงยังไงก็ให้ออกมาพูดเลยว่าไม่ได้ตบ ออกมาสวนเลย ผมได้รับข้อเท็จจริงมาแบบนี้ ผมก็มาบอกกับทุกคนครับ
ในส่วนของหลักฐาน น้องเขาก็เล่าให้ฟังแหละว่าเรื่องราวเป็นยังไง อันอื่นขออุบไว้ก่อนดีกว่า เดี๋ยวรอเขากลับมาแถลงอีกทีว่ายังไง ผมอยากฟังเขาก่อน ส่วนสภาพจิตใจ ก็คือน้องเขาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เขาก็จิตใจย่ำแย่ เพราะน้องเขาอายุ 20 กว่าๆ เท่านั้นเอง
ถามว่าอยากฝากอะไรถึงดารารุ่นใหญ่ไหม จริงๆ กินปูก็ไปกินคนเดียวได้นะครับ บางทีผมก็กินข้าวคนเดียว ก็อย่าไปโมโหเวลาชวนเพื่อนแล้วเขาไม่ไป และขอให้ขายห่อหมกดีๆ แล้วกัน”