“มินดา” ขึ้นสน.แจ้งความ “พระเอก ฟ.” ข้อหาทำให้เดือดร้อน รำคาญ คุกคาม และทำให้บาดเจ็บ ลั่นเลิกคบตั้งแต่ก.ค. เพราะสุดทนพฤติกรรม ทำร้าย เจ้าชู้ โมโหแล้วชอบทำร้ายตัวเอง ทั้งต่อยหน้า เอาหัวโขกกำแพง จนทนดูไม่ได้ วอนออกมารับผิดชอบการกระทำต่อหน้าคนกลาง และต้องเซ็นเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อความปลอดภัยในชีวิต แต่ถ้าป่วยทางจิตยินดีอโหสิให้
จากกรณีที่นักแสดงสาว “มินดา มีทรัพย์สิน” เคยออกมาแฉ ถูก “พระเอก ฟ.” ช่องใหญ่ ซึ่งเป็นแฟนเก่า บุกรุกและคุกคาม ตามราวี เอาเหล็กมาทุบรถ บุกมาข่มขู่ถึงหน้าบ้าน และเข้าแจ้งความที่สน.บางเขน
ล่าสุดวันนี้ (25 พ.ย.) เวลา 10.30 น. “มินดา” พร้อมทีมทนายความของ “ทนายนิด้า ศรันยา หวังสุขเจริญ” ได้เดินทางมาที่ สภ.คลองหลวง เพื่อแจ้งความ “พระเอก ฟ.” เพิ่มเติมในข้อหาทำให้เดือดร้อนรำคาญ คุกคาม และทำให้บาดเจ็บ โดยเจ้าตัวได้เปิดใจต่อสื่อมวลชน
มินดา : “วันนี้ก็มาแจ้งความเพิ่มเติมหลังจากที่เขาไปบุกที่บ้านนะคะ และมีโทรศัพท์มาข่มขู่ค่ะ เพราะหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้นยังไม่เคยมาแจ้งความเลย และวันนี้ก็ได้ทีมทนายของพี่นิด้า ส่วนกรณีทุบรถอยู่ที่สน.บางเขนค่ะ แต่ที่บุกบ้านและข่มขู่จะเป็นที่คลองหลวงค่ะ”
ทนาย : “วันนี้เป็นข้อหาทำให้เดือดร้อนรำคาญ คุกคาม และทำให้บาดเจ็บ”
มินดา : “ยังไม่มีการเจรจาค่ะ เพราะอันนั้นหลังจากแจ้งความก็ยังไม่ได้ตามเรื่องเลย แต่ทางคุณพ่อของพระเอกเขาทราบแล้ว แต่มินไม่แน่ใจว่าเขาได้ไปตามหมายเรียกหรือเปล่า ซึ่งก็มีแต่คุณพ่อเขาขอร้องว่าอย่าเพิ่งแจ้งความได้ไหม แต่ในส่วนตัวมินขอแค่ความปลอดภัยให้กับตัวเอง เพราะตลอดระยะเวลาที่เราสนิทกัน โดยพฤติกรรมของเขามันทำให้มินกลัวหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการดึงมือมินไปตบหน้าเขา หรือกระชากแขนเรา ทำให้เราได้รับบาดแผลด้วย วันนี้ก็นำหลักฐานเพิ่มเติมเข้ามา
เขาก็ไม่ได้พยายามติดต่อเราค่ะ มีแต่ผู้จัดการเขาคิดว่าจะให้เขามาขอโทษ แต่ไม่แน่ใจว่าไปคุยกับเขาแล้ว เขาว่ายังไง รู้แค่ว่าคนกลางบอกว่าผู้จัดการเขาจะให้เขามาขอโทษนะ แล้วก็เงียบไปเลยค่ะ”
ทนาย : “หลักฐานที่นำมาวันนี้ ก็จะเป็นภาพทางเฟซบุ๊กและคลิปวิดีโอค่ะ”
เผยคดีทุบรถ ไม่ได้มีความเสียหายมากมาย แต่ตร.อยากออกหมายเรียกให้มาเคลียร์กันเป็นลายลักษณ์อักษร
มินดา : “เพราะว่าวันที่มินไปแจ้ง เราต้องการจะไปนำภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าฟู้ดแลนด์ และไม่ได้มีความเสียหายอะไรมากมาย แต่ทางตำรวจต้องการออกหมายเรียกเพื่อให้เขาเข้ามาพูดคุยกับเรา คือเราต้องการเป็นลายลักษณ์อักษรจากเขา ว่าเขาจะไม่มายุ่ง จะไม่มาคุกคามเราอีกค่ะ ซึ่งเดี๋ยวมินจะติดต่อทางตำรวจไปอีกครั้งค่ะ”
สภาพจิตใจดีขึ้น เชื่อหากตนไม่ได้รับความช่วยเหลือ อีกฝ่ายก็จะไม่หยุด
มินดา : “ก็ดีขึ้นเยอะค่ะ ต้องขอบคุณพี่ๆ สื่อทุกท่านนะคะ ขอบคุณทางทีมทนายนิด้าทุกๆ ท่านเลยที่เข้ามาช่วยเหลือมิน เพราะถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพี่ๆ มินเชื่อว่าเขาจะไม่หยุด คือตอนเราสนิทกันมินรู้ว่าเขาเป็นยังไง รู้จักนิสัยเขาดีว่าเขาจะไม่ยอมจบอะไรง่ายๆ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วสาเหตุที่เราไม่ได้ไปต่อเพราะอะไร เขารู้ดีแก่ใจค่ะ”
ไม่รู้อีกฝ่ายป่วยทางจิตไหม แต่ถ้าป่วยทางจิตจริง ยินดีอโหสิกรรมให้
มินดา : “ยังรู้สึกว่ายังไม่มีความปลอดภัยในชีวิตค่ะ เพราะว่าไม่มีใครติดต่อเขาได้ ยังไม่ได้รับคำตอบจากเขา มีแต่คนอื่นที่บอกว่าจะให้เขาทำแบบนั้นแบบนี้ แต่คนอื่นบอกก็ไม่เหมือนที่ตัวเขาบอกใช่ไหมคะ เพราะวันที่เขาเข้ามาบุกที่บ้านมิน ช่วงหัวค่ำเขาได้คุยกับผู้จัดการเขาแล้วนะคะ และรับปากแล้วว่าจะไม่ทำอีก จะไม่ยุ่งกับมิน แต่หลังจากรับปากผู้จัดการไปถัดมาไม่กี่ชั่วโมงเขาก็โทร.มาขู่มินเลยค่ะ เขาก็ขู่ว่ามึงเจอกูแน่ เดี๋ยวมึงได้เจอกู กูจะไปบ้านมึงเดี๋ยวนี้
ซึ่งโดยพฤติกรรมที่อยู่ด้วยกันเขาเป็นคนอารมณ์รุนแรง และมินก็ได้รับบาดแผลตลอดตอนที่อยู่กับเขา และวันนี้เราก็ได้นำรูปบาดแผลมาให้ตำรวจดูด้วย เพราะมินก็ไม่รู้ว่าเขาป่วยทางจิตหรือเปล่า มินยอมรับเลยค่ะว่ากลัว ถ้าพี่ๆ ได้เห็นรอยบาดแผล ซึ่งมันเป็นบาดแผลที่เขาบอกว่าเขาหยอก และอีกอันที่นิ้วมินบวมไปเลย จากการที่เขาชอบทำร้ายตัวเอง เขาก็ดึงมือมินไปทำร้ายเขา เราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร มินก็ปรึกษากับทนายแล้วนะคะ ถ้าเขาป่วยทางสุขภาพจิตจริง มินก็ยินดีอโหสิกรรมให้ ถ้าเขาป่วยจริงๆ นะคะ”
เลิกคบตั้งแต่ก.ค. แล้ว อยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุข
มินดา : “ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมแล้วค่ะ เพราะในระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมันไม่มีความสุข มันมีแต่ความทุกข์ และถ้าตัวมินไม่ได้รับบาดแผล สิ่งของต่างๆ ก็ไม่ต้องเสียหาย และมินต้องมานั่งชดใช้ให้เพื่อน ซึ่งมันไม่ไหวแล้วที่จะรู้จักหรือสานสัมพันธ์กับเขาต่อไป และไหนจะเรื่องผู้หญิงอีก มันหลายอย่างค่ะ มินว่าข้อนี้เขาทราบตัวเขาเองดี
ถามว่าสาเหตุหลักคือเรื่องทำร้ายร่างกายใช่ไหม คือมินอยู่แล้วต้องได้รับบาดแผล ณ วันนี้แผลตรงนั้นเนื้อมันหลุดไปเลยนะคะ มันไม่ขึ้นแล้ว คนรักกันอยู่ด้วยกันมันต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอ ต่อให้เขาบอกว่าเขาหยอก การหยอกมันไม่ควรที่จะรุนแรงขนาดนั้น เวลาโมโหเขาต้องทำร้ายร่างกายตัวเอง ซึ่งมินก็ทนดูไม่ได้ที่เขาจะต้องต่อยหน้าตัวเอง เอาหัวไปโขกกำแพง มินก็ทนดูไม่ได้”
แผลโดนลึกสุด เขาใช้เล็บข่วนด้านหลัง จนเนื้อหลุดออกไป
มินดา : “ด้านหลังค่ะ เขาใช้เล็บข่วน แต่เขาบอกว่าเขาหยอก แต่เขาข่วนจนเนื้อมินหลุดออกไปเลย และเมื่อวานที่มินให้น้องดูก็คือเป็นรอยแผลเป็น เนื้อมันไม่ได้ขึ้นแล้ว (โชว์ภาพแผลที่หลัง) ตอนนั้นไม่ได้ทะเลาะค่ะ อยู่ดีๆ เขาก็มาข่วนเลย จากนั้น 3 วันมินส่งรูปนี้ให้เขา แล้วมินก็บอกว่ามินเจ็บนะ เขาก็บอกว่าเขาหยอก แต่เขาก็ตัวใหญ่ และกระโดดทับมินด้วย มินก็เจ็บซี่โครงด้วย มันจะมีแชทตที่มินคุยกับเขาว่ามินเจ็บตรงนั้นตรงนี้ ซึ่งเขาก็ทราบดีค่ะ และจะมีรอยที่นิ้ว ที่เขาดึงมือมินไปตบหน้าเขา นิ้วบวมเลย คือเขาทำร้ายตัวเองและดึงมือมินไปตบหน้าเขาค่ะ”
จี้ให้ออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ
มินดา : “อยากให้เขาออกมารับผิดชอบทุกสิ่งที่เขาทำ การกระทำที่เขาทำทุกอย่าง มินอยากให้เขารับผิดชอบ อยากบอกเขาว่าวันนี้การที่คุณเงียบ มันไม่ได้ทำให้ปัญหาจบเหมือนทุกๆ ครั้งที่คุณทำนะคะ เพราะทุกครั้งเขาจะใช้วิธีการแก้ปัญหาคือการนิ่งเงียบ แต่วันนี้มันไม่เหมือนทุกครั้ง เพราะเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว และมินโดนคุกคามจากเขาอย่างหนัก มินต้องการความปลอดภัยให้กับตัวเอง ซึ่งมินมีการบอกไปทางคนกลางของเขาตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคมแล้ว ว่าขอนัดคุยได้ไหม ขอนัดเคลียร์ได้ไหม มินต้องการความปลอดภัยให้กับตัวเองซึ่งที่ผ่านมาเขาก็เงียบมาตลอด และเขาก็แอบทำลับหลังมาตลอด
มินอยากจบค่ะ ก็อยากให้เขาออกมารับผิดชอบอะไรด้วย เพราะการที่คุณเงียบแบบนี้ไม่ได้ทำให้ปัญหาจบ ถ้าเขาไม่ออกมาพูดอะไรเลย เขาก็คงต้องออกมาตามหมายเรียกค่ะ”
ทนาย : “ต้องบอกว่าคดีที่มาแจ้งความวันนี้โทษมันไม่ได้ร้ายแรง เหมือนอยากให้ยุติมากกว่า เพื่อป้องกันความอันตรายในอนาคต อยากให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตมาขึ้น ก็เลยต้องมีการออกมาตรงนี้ค่ะ”
ถ้ายังเงียบ จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
มินดา : “ใช่ค่ะ แต่ที่เราตกลงกันก็คือถึงเขามาเจรจาแล้ว ก็ยังต้องมีการลงบันทึกประจำวัน ต้องมีตำรวจเป็นพยานว่าเขาจะไม่มาคุกคามข่มขู่มินอีกค่ะ”
ตัดขาดนานแล้ว
มินดา : “มันขาดมานานแล้วค่ะ มินไม่ได้อยากยุ่งกับเขามานานแล้ว ตัวเขาเองก็ทราบดีว่าอะไรที่มินกับเขาไม่ได้ไปต่อ ก็อยากจะบอกเขาว่าอยากให้เขาออกมารับผิดชอบทุกๆ การกระทำที่เขาทำกับมิน มินเจ็บปวดมากตั้งแต่ตอนที่เราคบกัน แม้กระทั่งวันที่เลิกกันก็ยังต้องมาทำกับมินอีกเหรอ มินอยากให้เขาออกมารับผิดชอบการกระทำทุกๆ อย่างที่ทำกับมิน และมินขอให้จบแบบมีคนกลาง ขอให้เขามาเซ็นเป็นลายลักษณ์อักษรอะไรก็ได้ที่มินรู้สึกว่ามินจะได้รับความปลอดภัยจากผู้ชายคนนี้ค่ะ”
ภายหลังเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อย สาวมินดาก็ออกมาเผยเพิ่มเติมว่าตอนนี้สบายใจขึ้นมาก ขั้นตอนต่อไปเจ้าหน้าที่จะโทร.ไปพูดคุยกับ พระเอก ฟ. ก่อน และจะมีการนัดเข้ามาพูดคุยพร้อมกัน แต่ถ้าฝ่ายชายไม่มา ก็จะเป็นการออกหมายเรียกต่อไป ซึ่งดาราสาวยืนยันว่าต้องการให้ฝ่ายชายออกมารับผิดชอบทุกการกระทำที่ได้เคยทำกับตนไว้ และไม่ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกันอีก