สุด “บุ๋ม ปนัดดา” ผู้สร้างประวัติการณ์ ประกาศท้องวันจันทร์ คลอดอังคาร แถลงวันพุธ เผยตั้งท้องวัย 46 สุดอึด ทำงานตลอดไม่มีพัก ส่งเลือดไปตรวจอเมริกาเพื่อตรวจว่าเด็กเป็นดาวน์ซินโดรมไหม ฟ้องพวกปากไม่ดีแล้ว 8 ราย มีลูกกับผัวผิดตรงไหน
คลอดลูกชาย “น้องอเล็กซ์ อนันท์ อนันทวรรณ” เรียบร้อยแข็งแรงดี สำหรับคุณแม่สุดสตรอง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” ที่ล่าสุดเจ้าตัวมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมกับคุณหมออย่างเป็นทางการ ณ ห้องประชุมชั้น 16 โรงพยาบาลปิยะเวท ซึ่งก็เดินออกมาให้สัมภาษณ์เองแบบชิลๆ ด้วยหน้าตาสดชื่นแจ่มใส โดยที่ไม่ต้องนั่งรถเข็นแต่อย่างใด
“ผ่าคลอดเมื่อวานนี้ค่ะ 11 โมง 11 นาที ไม่ได้ดูฤกษ์อะไรค่ะ แต่แม่ชอบ Shopping เท่านั้นเอง คือไม่ใช่อะไรหรอก เห็นเลขสวยดี เมื่อวานจะเป็นวันที่ 22 เดือน 11 แล้วก็ปี 2022 เพราะมันเป็นเลขสวยก็เลยตอนผ่าขอเป็น 11 โมง 11 นาทีแล้วกัน แต่ก็มีซินแสมาดูให้ว่า เลขดีนะ เป็นเลขมงคล ก็เลยรู้สึกดีจังว่าสิ่งที่เราเลือกมันเป็นช่วงเวลาที่ดีของเขา"
"คือตอนแรกคิดว่ามันไม่น่าจะตื่นเต้น เพราะว่าเป็นคนที่สองแล้ว เพราะเราก็เคยผ่าคลอดมาแล้ว แต่มาถึงเวลาจริงๆ ตื่นเต้นมาก เพราะว่าห่างมานาน 16 ปีกับอันดา ก็ตื่นเต้นไปหมดเลย พูดตรงๆ นะมันตื่นเต้นลามไปถึงของใช้เด็กที่เราแอบเปิดดูในเว็บ คือมันทันสมัยขึ้นเยอะมาก มีอะไรหลากหลายมาก เวลาที่เข้าห้องคลอดเทคโนโลยีอะไรมันก็เปลี่ยนไป แล้วคุณหมอเขาก็ทำงานกันเป็นทีม ดูแลดีมากเลย กลายเป็นว่าเราตื่นเต้น แต่ว่าเราก็เชื่อมือ"
บอกให้เกียรติ “ก็อต อธิป อนันทวรรณ” สามีเป็นคนตั้งชื่อลูก
"คือตอนที่เขาออกมาเราทำการบล็อกหลัง ข้างล่างเรามันก็จะไม่ค่อยรู้สึก แต่สิ่งหนึ่งที่คุณพ่อบอกคือเขาบอกว่า น้องออกมาแล้ว และเขาร้อง เรารู้สึกมันฟูในใจ คือเรารอเห็นหน้าเขามานานมาก น้ำตาใหลโดยไม่รู้ตัวเลยนะ คือดีใจค่ะ ที่ว่าในที่สุดเราก็ได้เห็นหน้าเขา ตอนเห็นก็หันกลับไปถามพ่อเขาว่าครบ 32 ไหม ผิวสีเหมือนใคร เข้มเหมือนพ่อหรือขาวเหมือนแม่ ก็มีแอบถามแบบนั้น คือจริงๆ แล้วแบบไหนก็ได้ ยังไงน้องก็หล่อสำหรับแม่"
"เรื่องชื่อลูก คุณพ่อเขาเป็นคนคิด ยกหน้าที่ให้เป็นของคุณพ่อเขา นามสกุลน้องก็ อนันทวรรณ เป็นนามสกุลคุณพ่อ ก็เลยเป็น อนันท์ อนันทวรรณ ก็จะชื่อคล้องจองกัน แต่ว่าเราชอบเล่นโซเชียลเนาะ เราก็บอกว่าพ่อๆ ไม่ได้หรอก ไม่งั้นจะกลายเป็น มิสเตอร์แอ่นแอ๊น (an an) ก็เลยบอกว่าไม่ได้พ่อ เดี๋ยวเพื่อนล้อ ก็เลยเอาเป็นชื่อเล่นว่า อเล็กซ์ อย่างน้อยมีชื่อภาษาอังกฤษเวลาไปต่างประเทศจะได้เรียกกันง่ายๆ ก็เลยกลายเป็นน้องอเล็กซ์ ด.ช. อนันต์ อนันต์ทวรณ"
บอก “น้องอเล็กซ์” ยังต้องอยู่ตู้อบ เพราะหายใจเร็ว
"สุขภาพน้องเนื่องจากว่าเป็นการผ่าคลอด ทำให้มีน้ำคล่ำค้างอยู่ในปอดนิดนึง น้องจะหายใจเร็วกว่าปกติ ก็เลยยังต้องอยู่ในตู้อบให้มีออกซิเจนช่วยนิดหน่อย ก็เลยทำให้ไม่สามารถกอดฟัดเหวี่ยงได้เต็มที่ แต่คุณหมอก็ดูแลและอธิบายทุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอนค่ะ
"ถามว่าหน้าเหมือนใคร คือแม่มองไม่ออก ตายังบวมบวม เด็กเกิดใหม่จะหน้าตาคล้ายกันหมด กล้ามเนื้อหน้ายังไม่ทำงาน แต่น้องเกิดมามีปานตรงข้อมือ ก็เลยจำได้ว่านี่คือลูกฉัน เหมือนเขาใส่นาฬิกาไว้ตลอด ขาวเหมือนแม่ แต่จมูกพ่อเขา หน้าพ่อเขา ตอนอัลตร้าซาวด์มันไม่เห็นสีผิวไง เลยอยากรู้ว่ามีอะไรเหมือนฉันบ้าง”
ยอมรับอาจจะเป็นครอบครัวแม่พันธุ์ เพราะคุณยายก็มีลูกคนสุดท้ายตอนอายุ 50
บุ๋ม : “ต้องบอกว่าแล้วแต่สายพันธุ์นะ เพราะตระกูลดิฉัน เนื้อ นมไข่และไขมัน คุณยาย 50 ก็ยังมีลูกอยู่ คลอดน้าสาวคนเล็กตอน 50 ก็เลยคิดว่าตระกูลเราติดลูกง่ายมากค่ะ แต่เพียงที่ผ่านมาก็มีคุมปกติ แต่ทีนี้ด้วยวัยและอยากมีก็เลยคิดว่ามาก็มา แต่พอด้วยวัยที่ 46 พอท้องสิ่งที่เราจะต้องคิดก็คือลูกจะปกติไหม อันนี้เป็นเรื่องที่เรากังวล เลยไม่บอกใครในช่วงแรกเลย เพราะเรารู้สึกว่าถ้าเขาไม่ปกติ หรือว่าหลุดออกมา อย่างน้อยก็เสียใจเฉพาะในครอบครัว แต่ถ้าเราประกาศไปแล้ว และเขาไม่อยู่กับเรา มีอะไรเกิดขึ้นที่หมอแนะนำต้องเอาออก คนก็จะพูดกันว่าเป็นไงล่ะ ปล่อยให้ท้อง อายุขนาดนี้แล้ว ก็โดนอยู่ดี"
"ก็เลยรู้สึกว่า เราขอไปเงียบๆ แต่ถ้ารู้ก็คือรู้ ไม่ได้ปิดอะไร ทีมงานรู้ค่ะ อย่างหลายช่องก็มาสัมภาษณ์บ่อย ก็ไม่เห็นทักนะ จับไม่ได้ ก็ยืนให้สัมภาษณ์ปกติ บุ๋มอาจจะเป็นคนที่อวบแต่ไหนแต่ไร พอท้องก็ไม่มีใครจับสังเกตุว่าท้องรึเปล่า อาจจะอวบขึ้น ก็ไม่กล้าทักแม่ว่าลงพุง ก็เลยไม่ได้บอก ใจจริงบุ๋มอยากเห็นโมเมนท์เขาก่อนว่าวันที่เขาคลอดออกมา เขาสมบูรณ์ ถึงบอกทุกคน มันเป็นความรู้สึกที่แม่ 40 กว่าหลายคนเป็นเหมือนบุ๋มค่ะ พอมาที่โรงพยาบาล ขั้นตอนคนที่อายุ 40 กว่าท้อง ต้องทำมากกว่าคนอื่นไหม ก็นิดนึง ทางคุณหมอจะเป็นคนอธิบายว่ามีอะไรบ้าง”
หมอ : “คุณบุ๋มเป็นคุณแม่ตัวอย่างที่ดีนะครับ เพราะการที่คนอายุเกินปกติเล็กน้อยในการตั้งครรภ์ คุณแม่ตั้งครรภ์ได้อย่างปกติ น้องอเล็กซ์แข็งแรงสมบูรณ์ ในนามของโรงพยาบาลก็ยินดีที่คุณบุ๋มให้ความไว้ใจโรงพยาบาลในการที่จะทำให้คุณแม่ที่อายุ 30 กว่าขึ้นไปตั้งครรภ์ได้อย่างแข็งแรง ต้องใช้ความร่วมมือกับคุณแม่อย่างสูง บวกกับทีมแพทย์ คุณบุ๋มมีแพทย์ประจำตัวที่ดี”
บุ๋ม : “เราต้องส่งเลือดไปตรวจทางอเมริกาด้วยค่ะ คือการตรวจว่าเขาปกติค่ะ มีการตรวจเลือดเอาผลเลือดทุกอย่างไปตรวจที่อเมริกา ว่าเขาจะเป็นดาวน์ซินโดรมไหม ปกติไหม ทุกอย่างมีขั้นตอนของมัน และลุ้นทุกขั้นเลย ผลที่ได้ออกมาเขาจะอยู่กับเรารึเปล่า คือเราอยากได้เขา อัลตราซาวด์ทุกครั้งมันเป็นการลุ้นว่าเขาโตไหม ผลปรากฎว่าเขาโตมากกว่าเด็กเกณฑ์เดียวกัน กินเก่งมาก แข็งแรงมาก เพียงแต่ว่าในช่วงระหว่างการทาง บุ๋มเป็นโควิด ตอนนั้นท้อง 5 เดือน สหแพทย์ต้องมารุมบุ๋มเยอะมาก ท้อง 5 เดือน ยาปกติเหมือนที่คนติดโควิดก็กินไม่ได้ เพราะว่านี่คือคนท้อง ก็เลยกลายเป็นว่าอาการหนักกว่าคนอื่น และน้ำหนักลงไป 5 กิโล ในช่วงที่เป็นโควิด ตอนนั้นทีมแพทย์ก็เหนื่อยอยู่เหมือนกัน ว่าสุขภาพของแม่และลูกจะเป็นอย่างไร ตอนนั้นเครียดพอสมควรค่ะ”
ท้อง 7 เดือนยังลุยช่่วยน้ำท่วม
“ตอนไปลงพื้นที่ต้องบอกก่อนว่า ทีมงานไม่ทราบว่าบุ๋มท้อง แล้วมันเป็นเรื่องความปกติของพวกเราว่า ยังไงก็ต้องลุยน้ำ เพราะเราต้องเอาข้าวของไปให้ชาวบ้านใกล้ที่สุด ดังนั้นจะโทษเขาไม่ได้ว่าพาลงน้ำ เขาไม่รู้จริงๆ เพราะกระทั่งตอนที่อ่างทองบุ๋มก็ท้อง 7 เดือนกว่าแล้ว ก็ยังลากเรือช่วยชาวบ้านอยู่ เพราะคุณหมอบอกให้ทำตัวตามปกติ เราก็ทำตัวตามปกติ แต่คุณหมอก็มีโทรมาถามว่าไปแช่น้ำมาเหรอ อย่าลงน้ำลึกนะ ไม่เกินเข่านะ หมอบอกว่าให้ทำตัวตามปกติ แต่ปกติของคนทั่วไปไม่เหมือนของบุ๋ม หลายคนมารู้ทีหลังก็ตกใจเหมือนกัน บุ๋มก็ลุยของบุ่มเหมือนเดิม ลูกคลอดมาก็เป็นกู้ภัยเหมือนบุ๋มนี่แหละ"
เป็นสายลุย ไม่บอกใครว่าท้อง ทำกิจกรรมเหมือนเดิมจนถึงวันคลอด
"ถามว่าทำไมไม่เลือกแจ้งให้ทีมงานทราบ ถึงบอกว่าต้องรอดูผลจากอเมริกาว่าเป็นยังไง มันต้องดูหลายๆ อย่าง ไม่อยากจะประกาศให้ใครรู้ ถ้าเราประกาศปุ๊ปกิจกรรมที่เราทำทุกอย่าง งานที่เราทำ คนก็จะเบรก มันน่ารำคาญ บุ๋มไม่ใช่สายเรียบร้อย บุ๋มเป็นสายห้าว ดังนั้นการที่บุ๋มอยากจะทำอะไรเหมือนเดิมก็ต้องไม่บอก เราก็สามารถทำกิจกรรมเหมือนเดิมจนถึงวันคลอดเห็นไหม ไม่ได้ถือเคล็ดอะไรขนาดนั้นด้วย เพียงแค่กลัวถึงความสมบูรณ์ของน้อง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็เสียใจภายในครอบครัวแค่นั้นเอง ไม่ได้ปิดอะไร ใครรู้ ใครถามก็บอก ทีมช่อง9 ที่ถ่ายรายการกันอยู่ก็รู้วันลอยกระทง 2 อาทิตย์ก่อนคลอดเท่านั้นเอง เราบอกตรงๆ ว่าท้องนะ ทุกคนก็ถามท้องเมื่อไหร่ๆ”
เผย “ก็อต” ดีใจมากที่ได้ลูกชาย จะได้มีคนดูแลกิจการต่อ
“เขาดีใจมากค่ะ เพราะเขามีลูกสาว 3 คนแล้ว บุ๋มก็มี 1 คน เป็นผู้หญิงหมดเลย พอมีลูกชาย 1 คน ก็ดีใจ ตอนที่อยู่ในห้องคลอดก็ถามเขาว่ารู้สึกยังไงบ้างกำลังจะเจอลูกแล้วนะ เขาบอกเดี๋ยวรอคนต่อไป เราก็บอกเดี๋ยวๆ (หัวเราะ) ก็พอก่อนๆ คือเขาเองก็อยากได้ลูกผู้ชายอยู่แล้ว เขาทำอสังหาฯ ซื้อที่ไว้เยอะ แต่เวลาเราพาลูกสาว 4 คนไปเที่ยว เขาก็ไม่สายลุย แต่เราสองคนสายลุยก็อยากได้ใครสักคนที่มาดูแลสวน"
ลูกๆ ของทั้งสองคนต่างเห่อน้อง
"ซึ่งพี่ๆ ทั้ง 4 สาวเขาก็เห่อน้องกัน ถึงขนาดจะลาเรียนกันมาเลย เราก็ให้ไปเรียนก่อนค่อยมาเจอตอนเย็น แต่ของอันดามันขาดเรียนเป็นครั้งแรก ปกติแม่จะพาไปต่างประเทศ ทริปจะหรูแค่ไหนก็ไม่ไป ทุกคนรู้ว่าอันดาบ้าเรียนมาก แต่ครั้งนี้ยอมขาดเรียนช่วงบ่ายเพื่อมาดูน้อง แล้วก็เดินตามดูน้องตลอดเลย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ไม่สนแม่ด้วย เดินตามน้องอย่างเดียว แต่เขาบอกว่าอย่างน้อยผิวน้องก็เหมือนแม่ เขาลุ้นอยู่ว่าจะเหมือนพ่อหรือเหมือนแม่มากกว่า เราก็เคยถามตั้งแต่ก่อนท้องแล้วว่า ถ้ามีน้องจะยังไง เราก็ต้องแคร์ความรู้สึกเขา เขาก็บอกมีได้ตามสบาย แต่หนูต้องเป็นผู้จัดการมรดก แต่เมื่อวานพอเจอหน้าน้องก็บอกว่าหนูเป็นผู้จัดการมรดกได้นะ แต่ต้องอายุ 18 ก่อน ดูกฎหมายมาแล้วด้วย (หัวเราะ)”
บอกไม่ได้เลือกเพศ เพราะไม่เคยยึดติดเรื่องนี้อยู่แล้ว
บุ๋ม : "คนนี้มาธรรมชาติค่ะ ไม่ได้เลือกเพศ บังเอิญมากเลย ก็ใช้นามสกุลพ่อค่ะ ก็ถ้าฝ่ายชายคนที่บอกสตรองมากคือชัชชาติ ฝ่ายหญิงก็ปนัดดานี่แหละค่ะ (หัวเราะ) แต่จริงๆ ชายหรือหญิงก็ได้สำหรับบุ๋มนะ แล้วเราอยู่ท่ามกลางคนที่หลากหลายทางเพศ พูดตรงๆ เราไม่สนเลยว่าน้องจะเกิดมาเป็นยังไง แต่เราสนว่าน้องมีความสุขกับชีวิตไหม แข็งแรงสมบูรณ์ไหมขอแค่นั้นเอง ทำหมันเลยไหมเหรอ คุณชายเขาไม่ยอมให้ดิฉันทำหมัน แต่คนที่บ้านบอกให้ทำ เพราะเดี๋ยวติดอีก (หัวเราะ)”
หมอ : "จริงๆ อยู่ที่ความพร้อมของแต่ละคนเลยครับ สมัยก่อนตามตำราก็อายุเกินเท่านี้ๆ ก็ไม่ควรจะมีบุตร แต่เดี๋ยวนี้จริงๆ สำหรับคุณบุ๋มถ้าไม่รู้ว่าอายุเท่าไหร่นึกว่า 25-26 มันอยู่ที่ร่างกายเรา ถ้าร่างกายดีคุมอาหารดีจิตใจแจ่มใสมันก็จะดี"
บอกไม่ขอพักงาน ลุยต่อเหมือนเดิมแน่นอน
บุ๋ม : "จะพักงานไหมเหรอ ทุกคนรู้คำตอบ ไม่พักค่ะ ตอนนี้เตรียมโปรเจ็คหลายอย่าง ผลิตภัณฑ์ที่ทำเอง รายการทีวีที่เพิ่ม ละครที่ค้างอยู่ หนังอีก 3 เรื่อง หนังซีรีส์เกาหลีแถลงข่าววันที่ 30 นี้แล้ว เปิดตัวร้านข้าวแกงนางงามราคา 10 บาท ที่รังสิตคลอง 4 วันที่ 15 ธันวาคมก็เรียนเชิญทุกท่านนะคะ"
"เรามามีลูกอีกทีนึงตอนอายุเยอะแล้ว แล้วเมื่อกี้หอมเขาคือไม่อยากวางเลย น่าฟัดมากบอกเลย แต่ว่าตอนนี้น้องยังมีภาวะหายใจเร็ว เลยยังออกมาเจอพี่ๆ ไม่ได้ ต้องขอโทษพี่ๆ ด้วย เพราะยังต้องมีอ็อกซิเจนช่วยนิดนึง ส่วนคุณพ่อเขานั่งเฝ้านอนเฝ้ามาตั้งแต่วันแรกแล้ว และพยาบาลก็เข้าออกตลอด เขาก็จะตื่นตลอด ตอนกลางวันก็เลยสลบ มาเข็นรถเข็นโชว์ไม่ได้ ภาพที่หลายคนต้องการคุณพ่อเข็นรถเข็นคุณแม่เข้ามาไม่มีนะคะ เดินเองค่ะ (หัวเราะ)”
หมอ : "ต้องบอกว่าภาวะแบบนี้เกิดได้ในเด็กทารกปกติเลย อย่างน้องเรารู้ว่าปกติจากน้ำหนัก จากการทำอัลตราซาวด์ทุกเดือน แต่ว่าพอเปลี่ยนอากาศจากอยู่ในท้องออกมาข้างนอก หายใจเร็วได้ ปกติจะหายได้เอง แต่บางครั้งก็เสริมด้วยอ็อกซิเจนซัก 1-2 วันก็จะดีขึ้น ไม่ต้องกังวลครับ"
เผย 1 เดือนนี้กิจกรรมที่ต้องไปช่วยคนต่างจังหวัดต้องพักก่อน
“ช่วงเดือนแรกคุณหมอไม่น่าจะให้ไป เพราะคงลุยน้ำไม่ได้ มีแผลผ่าตัด เดือนแรกขอก่อนนะ ประชาชนช่วยเหลือตัวเองก่อนนะ แต่เดือนต่อไปก็ว่ากัน แต่ด้วยโปรแกรมหนัง ละครทุกอย่างคือเริ่มมกราคม แต่ปลายธันวาคมก็เริ่มถ่ายแล้วค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ จัดเวลาได้ จากการที่เลี้ยงลูกหลายคน ทั้งลูกสามี 3 คน ลูกดิฉัน 1 คน ลูกเลี้ยงอีก 9 คน ลูกบุญธรรมเนอะ แต่ทุกคนได้ดีนะ ดังนั้นคุณไม่ต้องห่วง น้องอเล็กซ์ดีเลิศแน่นอน"
"เมื่อกี้ขำหน้านักข่าวมาก เดินเข้ามาทุกคนทำหน้าช็อก (หัวเราะ) แม่เดินแล้ว เขาเรียกว่ามิติใหม่แห่งการคลอดไร้ตะเข็บค่ะ (หัวเราะ) คือรู้ว่าท้องวันจันทร์ คลอดวันอังคาร แถลงข่าววันพุธ”
เผยแจ้งความคนที่มาคอมเม้นต์ด่าแล้ว เตรียมฟ้องต่อไป
“ล่าสุดทนายร่างฟ้องเรียบร้อยแล้วค่ะ คือก็มีคอนเม้นต์ต่างๆ จากสำนักข่าวที่เขียนข่าวกัน และบอกว่าเพิ่งรู้ว่าบุ๋มแต่งงาน แต่จริงๆ แล้วเรื่องนี้บุ๋มไม่เคยปิดนะคะ รายการไหนถามหรือใครถามก็บอกตลอด เพียงแต่ว่ารายการที่ไปทอล์ควันนั้น ตอนที่บุ๋มท้องประมาณ 5 เดือน เพิ่งมาออนช่วงนี้ ช่วงที่มีข่าวว่าดาราคนนี้ท้องหรือไม่ท้อง ก็เลยกลายเป็นว่าทุกคนก็เพิ่งมารู้ว่าปนัดดาแต่งงานแล้ว ซุ่มเงียบ แต่ไม่ได้ซุ่มนะคะ คุณลองนึกภาพผู้ชาย 49 ผู้หญิง 46 ไปยืนนานๆ มันปวดเอ็นร้อยหวาย จะยืนรับแขกอะไรเป็นชั่วโมง และเพื่อนดิฉันเยอะจะตาย ดิฉันรู้จักคนเยอะจะตาย คนเป็นพันแน่นอน ก็เอาตังค์ไปจ่ายค่าเทอมลูกดีกว่า ก็แค่นี้เอง"
"ไม่ได้ซุ่มเงียบอะไรเลย ใครถามก็ตอบ เพียงแต่ไม่ได้มานั่งป่าวประกาศหรือว่าลงโพสต์โซเชียลอะไร และพี่ก็อตเองเขาก็ไม่ชอบลงสื่อกับเราสักเท่าไหร่ กลายเป็นคนก็ถามว่า ปนัดดาท้องกับใคร ทำไมถึงมีข่าวนี้เกิดขึ้นด้วย คนก็เลยไปขุดประวัติพี่ก็อตกันใหญ่เลย บางคนก็เขียนเป็นตุเป็นตะว่าพลาดไง ยังไม่ทันจะแต่งงานเลยท้องแล้ว อะไรแบบนี้ คือด่าไปก่อนโดยที่เขาไม่รู้ความจริงว่าแต่งมา 2 ปีแล้ว และตั้งใจมี ถ้ามีได้ก็มี ก็ไม่ได้ซุ่มเงียบอะไร และไม่ได้แอบแต่งงานอะไร เพียงแต่เป็นสไตล์ผู้ใหญ่ๆ ที่ไม่ต้องพิธีรีตองอะไรมาก กินข้าวเฉพาะในครอบครัวเท่านั้นเอง"
"แต่ทางด้านพี่ก็อตเนี่ย คืนนั้นคือเรากำลังไฟว์อยู่ คนนั้นคนนี้ก็เก็บข้อมูลมาให้เรา เป็นเพจจริงไหม หรือเป็นเฟสปลอมไหม ก็สู้กันทั้งคืน ผลปรากฎว่าตอนเช้าคุณก็อตตื่นมาแล้วบอกว่า คุณไปสนใจเรื่องของโซเชียลทำไม อยู่กับความเป็นจริงดีกว่า โลกเราก็แค่นี้ เลยโดนเทศไปหนึ่งกัณฑ์ คุณเขาธรรมะธรรมโม เขาบอกว่าอย่าไปสนใจคำพูดคนอื่น เรารู้ตัวเองดีกว่าเราทำอะไรอยู่ ความเป็นจริงคืออะไร สนใจ ณ ปัจจุบันและตัวเราดีกว่า”
แจ้งความเรียบร้อยแล้ว 8 คน
“ล่าสุดแจ้งความเรียบร้อยแล้วนะคะ เข้ารอบประมาณ 7-8 คน ก็มีติดต่อมาค่ะ แต่ไม่ได้มาขอโทษ แต่ติดต่อมาว่าเป็นเฟสปลอม บุ๋มก็บอกว่า ถ้าเป็นเฟสปลอมคุณต้องเป็นคนไปแจ้งความ เพราะเราไปแจ้งให้ไม่ได้ เราต้องแจ้งความว่าใครเป็นคนมาด่าเรา มันต้องคนละหน้าที่กัน มันถึงจะเป็นการรวมพลังกัน อย่างอาร์สยามเขาก็จะแจ้งของเขา เราก็จะแจ้งของเรา จะได้เข้าไปด้วยกัน คือเขาก็ไม่มีสิทธิที่จะเอารูปคนอื่น หรือเอาโปรไฟล์คนอื่นมาด่าคนอื่นแบบนี้ ของบุ๋มก็ร่างฟ้องไป เรื่องไอพีเราหาเจออยู่แล้ว ใครใช้จริงใช้ปลอม เพราะตอนนั้นที่ดิฉันโดนรูปปลอมก็เจอตัวได้เหมือนกัน"
"แต่ครั้งนี้ทุกคนโทรมาบอกว่าบุ๋มช่วยสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้หน่อยเถอะ และดาราอย่างเราโดนด่ากันแบบนี้ บุ๋มผิดอะไรที่มีลูกกับผัวตัวเอง และโดนด่าว่าสำส่อน เป็นเคอร์รี่บ้างอะไรแบบนี้ มันไม่แฟร์กับบุ๋ม"
"ก็มีลูกกับสามีตัวเองนะคะ บุ๋มผิดอะไร ทำไมต้องด่ากันแรงขนาดนี้ เราก็เลยรู้สึกว่าทำไมต้องมาเจอดราม่าก่อนคลอด ทั้งๆ ที่เราอยากจะสบายใจมากที่สุดก่อนที่จะคลอดเขา แต่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ทำให้คนรอบข้างบอกว่าอย่ายอม ทนายความขององค์กรทำดีก็ร่างให้เรียบร้อย แฟนคลับเก็บข้อมูลในคืนนั้น ก็เลยฟ้องเรียบร้อยค่ะ ผ่อนโทษไม่ได้เพราะทุกคนไม่ยอมค่ะ ทีมงานไม่ยอมหมดเลย”
บอกสเป็กชอบคนมีกล้าม ใครจะทำไม
“เราแค่รู้สึกแย่มากกว่า ว่าทำไมเขาต้องว่าเราแรงขนาดนี้ เพียงแต่เราจะไปบังคับความรู้สึกหรือความคิดคนไม่ได้ แต่ ณ วันนี้สิ่งที่บุ๋มทำได้ก็คือเราอยู่กับความเป็นจริง และถ้าแฟนคลับคนนั้นรักบุ๋มจริงๆ เขาคงอยากเห็นบุ๋มมีความสุข แม้กระทั่งในเรื่องของชีวิตคู่ คงไม่ใช่มานั่งด่าว่ามีผัวอีกแล้ว ผัวใหม่อีกแล้ว ผัวเล่นกล้ามอีกแล้ว เฮ้ย ผู้หญิงทุกคนมีสเป็กของตัวเองนะคะ ก็ฉันชอบแบบนี้ เธอจะให้ฉันไปบอกว่าเธอผอมจังเลยมาคบกันฉันเถอะ ก็ไม่ได้"
"บุ๋มแค่รู้สึกว่าจากประสบการณ์ของชีวิตนะ จากชีวิตที่มันคาดหวัง ทุกๆ ครั้งเราก็คาดหวังกับความสุขนั่นแหละ เพียงแต่ว่าประสบการณ์มันสอนว่าแค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด มีความสุขในแต่ละวันให้มากที่สุด และชีวิตคนเรามันสั้นเหลือเกิน ดังนั้นบุ๋มก็ขอแค่เป็นบุ๋ม ปนัดดาคนนี้เหมือนเดิมที่ทำงานเพื่อครอบครัว เพื่อลูกๆ และเพื่อประชาชนแบบนี้ต่อไป อยู่กับแบบนี้ในแต่ละวันให้มีความสุขพอแล้วค่ะ”