ฟังว่าหนัง Black Panther : Wakanda Forever หรือชื่อไทย ‘วาคานด้า จงเจริญ’ เป็นหนังค่าย Marvel ที่คอหนังทั่วทุกมุมโลกตั้งตารอคอยมากที่สุดในช่วงท้ายปี ซึ่งหลังจากผู้เขียนได้ดูหนังเรื่องนี้จบลงโดยใช้เวลาเกือบๆ 3 ชั่วโมงในโรงภาพยนตร์ใกล้บ้าน ต้องยอมรับว่าด้วยความรู้สึกหรือรสนิยมส่วนตัว หนังเรื่องนี้ดีและสมควรดูมากโขทีเดียว
ไล่เรียงตั้งแต่ ‘ทีมทำ’ นำโดยผู้กำกับและเขียนบทร่วม ไรอัน คูเกลอร์ แสดงกึ๋นของพวกเขาได้อย่างสุดประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นการรำลึกถึงการจากไปของ แซดวิก โบสแมน ดารานำผู้ถือเป็นตำนานเอกของหนังชุดนี้ที่ใส่มาในตอนปูเรื่องอย่างลงตัวและแน่นอน...เศร้าสร้อยเหลือคณา
ต่อมาก็จินตนาการด้านอื่นๆ ทั้งการผูกเรื่อง ซ่อนปม อารมณ์ขื่น ขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสวยงามวิจิตรตระการตาของสถานที่อันเป็นโลเกชั่นในการถ่ายทำน่าประทับใจมาก
ละเอียดทุกเม็ด!
ยิ่งใหญ่ทุกซีน โดยเฉพาะโลกใต้มหาสมุทร
ดูไปดูมาผู้เขียนไพล่พูดคุยกับตัวเองว่า...หรือเมืองบาดาลบนโลกไพศาลที่เราอยู่นี้ มันมีอยู่จริง...?!?”
เป็นอารมณ์ความรู้สึกแบบเดียวกับที่ได้ดู จูราสสิค ปาร์ค ภาคแรกยังไงยังงั้น
ตามต่อด้วยเหล่าดาราที่ซึ่งนักแสดงหญิงพาเหรดกันมาทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นกลาง และรุ่นเล็ก แล้วทุกรุ่นต่างแสดงศักยภาพทางด้านการเล่นหนังได้อย่างต้องปรบมือรัว
แองเจลา ยาสเซตต์ กับบท ราชินีรามอนดา ทั้งน่าเกรงขาม และลึกๆ ก็ทดระทม
ที่ต้องชื่นชมเป็นการส่วนตัวคือท่านนายพลโอโคเย ดาไน กูริรา เจ๋ง + เด็ดสุดๆ กับตอนที่ไปตามหาตัวยอดนักวิทยาศาสตร์สาวน้อยมหัศจรรย์กับ เจ้าหญิงซูรี รับบทโดย เลทิเทีย ไรต์ ที่ตั้งคำถามลอยๆ ทำนองว่า “เอ้า! แล้วฉันดูแปลกกว่าคนอื่นตรงไหน”
ยอดมุกมากเชียวแหละ
ตบท้ายที่อยากให้หลายๆ คน ที่ผ่านมาอ่านคอลัมน์ได้ดูหนังเรื่องนี้ คือการสร้างสรรค์วิธีเล่าเรื่องของหนังที่หยิบจับเอาโลกที่เราอยู่กับอีกสองอาณาจักรที่มีขนบประเพณี วัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่มาผูกไว้ให้แก้ไขปัญหาที่ซึ่งเป็นที่มา – ที่ไปอันเป็นหัวใจของเรื่อง
อ้อ! อีกอย่างสองอย่างที่ชอบคือการ ‘ปูทาง’ ให้ภาคต่อไป ทำได้เนียน เนี๊ยบ กับเซอร์ไพร์ซเล็กๆ หลังเครดิต อย่าเพิ่งลุกนะครับบอกก่อน
ไม่ถึงกับร้อยเต็มร้อยสำหรับบทหนัง แต่ถ้าให้คะแนนด้วนความพอดิบพอดี กระทั่งนั่งดูอย่างมีความสุขทั้งๆ ที่หนังยาวเกือบสามชั่วโมง
ไม่เจ๋งจริงเอาผู้เขียนไม่อยู่ชัวร์