“มิว ศุภศิษฏ์” แน่นอก อยากอวดครับ! มีคนคุยแล้ว ที่ผ่านมามีตลอดแต่บอกไม่ได้ ปัดจ่อปิดบริษัท เพราะทะเลาะผู้จัดการ

“มิว ศุภศิษฏ์” รับมีคนคุยนอกวงการ บอกถึงเวลาแล้วอยากอวด ไม่อยากโกหก ที่จริงมีมาตลอดแต่บอกไม่ได้ ดีใจแฟนคลับซัปพอร์ต อยากให้มองเป็นเรื่องทั่วไป แฮปปี้กับคนนี้ไม่ได้ปิดไม่ได้เปิด จ่อปิดบริษัทอยู่ในขั้นตอนการตัดสินใจ รอซีรีส์จบเคาะกันใหม่อีกที ปัดทะเลาะผู้จัดการเลยแยกตัว

อยู่ดีๆ ก็มีข่าวว่าหนุ่ม “มิว ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์” กำลังจ่อปิดบริษัททั้งๆ ที่กำลังไปได้สวย ล่าสุดได้เจอเจ้าตัว ในงานเปิดตัวป๊อปอัพสโตร์ Montblanc ก็เลยขอถามถึงประเด็นนี้ พร้อมอัปเดตสถานะหัวใจ หลังตอบแฟนคลับว่ามีคนคุยแล้วกลางทวิตเตอร์

“ตัวบริษัทตอนนี้ ก็อยู่ในขั้นตอนการตัดสินใจอยู่ครับ เพราะก็ยังติดซีรีส์อยู่ ต้องบอกว่าพอหลังโควิดปุ๊บ ก็เริ่มแยกย้ายกันไปเติบโตแล้ว ก็รู้สึกว่าเดี๋ยวเราต้องเริ่มสตาร์ทของเราเองใหม่ ตอนนี้ได้คุณแม่มาคอยดูแลครับ แล้วก็มีน้องสาวมาช่วยดูด้วยครับ บริษัทตอนนี้ยังไม่ได้ปิดตัวเลยครับ แพลนในหัวตอนนี้มันมีหลายช้อยส์มากๆ เราก็ยังไม่แน่ใจว่าจะยังไงต่อดี เพราะทางผู้จัดการเก่า เขาก็จะมีความเป็นพาร์ตเนอร์อยู่ในนั้นด้วย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะปิดดีไหม หรือว่ายังเปิดต่อดี แล้วเราเป็นคนดูเอง แต่เราก็มีแพลนเปิดบริษัทใหม่ด้วยครับ”

มีการคุยกันมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมแล้ว แยกกันไปทำในสิ่งที่มีความสุข
“เรื่องนี้ก็มีการคุยกันมานานมากๆ แล้วครับ ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมได้แล้ว ก็กำลังดูอยู่ว่าเราจะไปในทิศทางไหนดี สุดท้ายแล้วทิศทางนี้ก็น่าจะเหมาะกับทุกคนแล้วครับ การเปลี่ยนแปลงย่อมดีเสมอครับ (หัวเราะ) สาเหตุหลักๆ ก็คือเรื่องวิสัยทัศน์ในการทำงาน ก็เริ่มไปคนละทิศคนละทางแล้ว ก็เลยรู้สึกว่า ไปทำในสิ่งที่เรามีความสุขดีกว่าครับ ก็เลยรู้สึกว่าแยกกันดีกว่า”

รับใช้ทุนไปเยอะกับบริษัทนี้ ถึงแยกกันแต่ก็ไม่ได้ขาดกันไปเลย
“ก็ใช้ทุนไปเยอะครับ แต่ว่าหลายๆ งาน คือเราไม่ได้แยกกันแบบขาดกันเลยนะ เพราะว่าเราก็ยังมีงานที่พัวพันกันอยู่ ซึ่งสามารถทำต่อกันได้ครับ เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีกันได้ครับ ตอนนี้ก็ได้หม่าม๊ามาเป็นคนดูแล ถ้าเรื่องดูคิวส่วนใหญ่จะเป็นน้อง เพราะน้องจะรู้งานพวกนี้เยอะกว่า หม่าม๊าจะมาเป็นคนคอยดูแลครับ 

ส่วนงานที่ยังผูกกันอยู่ตอนนี้ ก็จะมีพวกงานอีเวนต์ครับ แล้วก็งานแฟนมีตฯ ที่รับค้างไว้อยู่ แล้วก็มีพรีเซ็นเตอร์บางตัวครับ แต่เราก็มาดูเองแล้ว ก็เรียกว่าแบ่งให้เขาไป แต่ก็มีหม่าม๊า มีน้องมาคอยดูแลเทคแคร์แทน ซีรีส์ก็ยังอยู่ในนาม Mew Suppasit Studio ครับ แต่ก็มีอีกบริษัทหนึ่งด้วย ก็อาจจะมีเรื่องบริษัทนี่แหละ ที่อาจจะต้องไปแก้ทางกฎหมาย เพราะเอาจริงๆ นะ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้มากเท่าไหร่ เลยต้องให้ฝ่ายบัญชีจัดการ ผมก็มีหน้าที่ทำงานข้างหน้า”

งานต่างประเทศก็ยังมีเข้ามาเรื่อยๆ
“เรื่องงานต่างประเทศปัจจุบันก็มีเข้ามาเรื่อยๆ นะครับ พิจารณาอยู่ว่าจะยังไง หม่าม๊าเขาก็น่ารักแหละ ด้วยความที่เขาดูแลเรามาตั้งแต่เด็ก เขาก็จะมีความเป็นห่วง บางทีเขาก็จะเบลอๆ บ้าง (หัวเราะ) อย่างล่าสุดเมื่อวานไปถ่ายละคร ฝากมือถือไว้ที่หม่าม๊า หม่าม๊าก็ไลน์มาบอกว่าโทร.หาน้องด้วยนะ ซึ่งหม่าม๊าถือมือถือผมไว้ (หัวเราะ)”

แจงเป็นการเปลี่ยนแปลงตามปกติ ไม่ได้จะแยกเพราะมีปัญหากับผู้จัดการ
“ก็ไม่ซีเรียสนะครับ เขามองไปในแง่ลบทางไหน เพราะมันไม่มีอะไรเลยนะ (คนมองว่ามีปัญหากับผู้จัดการหรือเปล่า?) ก็ในรูปแบบของบริษัทเลยครับ มันจะมีการเปลี่ยนถ่ายคนในนั้นอยู่แล้ว เลยไม่ได้รู้สึกว่าแปลกหรือว่าอะไร เป็นการเปลี่ยนแปลงปกติเลยครับ สมมติว่าเราทำงาน แล้วเรารู้สึกว่าเราอยากย้ายงานไปที่อื่นแล้ว ก็แค่นั้นเลย ไม่ได้มีปัญหากันครับ”

ติดต่อโปรดิวเซอร์หลายๆ คน เพื่อมาช่วยทำอัลบั้มสองแล้ว
“แพลนงานตอนนี้ก็เข้าไปติดต่อพี่โปรดิวเซอร์หลายๆ คนแล้ว เพราะเราก็อยากทำเพลงต่อ แต่ว่าทีนี้ตัวอัลบั้มสอง ก็รู้สึกว่าอยากจะใส่ความเป็นตัวเองเพิ่มมากขึ้น ให้เราได้อยู่ในขั้นตอนทุกอย่างจริงๆ ก็ฝากพี่โปรดิวเซอร์แล้ว ว่าฝากเขามาช่วยดูอัลบั้มสองให้หน่อย ปีหน้างานเยอะ ถามว่าหม่าม๊าไหวไหม เอาจริงๆ หม่าม๊าก็จะช่วยดูหน้างานครับ ก็เลยต้องให้น้องมาคอยดูแลจัดคิวต่างๆ ให้ด้วย ก็จะง่ายขึ้น”

สถานะของบริษัท ไม่มีผลต่อโปรเจกต์ใหญ่ๆ ที่จะเข้ามา
“ไม่มีเลยครับ ถ้าถามว่าปิดหรือไม่ปิดเนี่ย สุดท้ายแล้ว ไฟนอลการตัดสินใจก็ต้องจบหลังจากที่ซีรีส์ออนแอร์อยู่ดี ก็ไม่ได้รีบจะปิดเลย ก็ชิลๆ ไป แต่เราก็ปรับตัวเยอะครับ เพราะเราเซ็ตระบบไว้แล้ว ทีนี้ก็จะเป็นการที่ต้องเซ็ตระบบใหม่ ต้องมาดูแลตัวเอง ต้องเรียนรู้ว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา เรามีข้อผิดพลาดอะไรบ้าง แล้วตัวระบบใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้นมา เราต้องปรับปรุงยังไงดี ให้มันเหมาะมากขึ้น ปัญหาหลักๆ ก็น่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ ทั้งจิตใจด้วย ก็อยากดูแลตัวเองมากขึ้น เพราะอายุแล้ว (หัวเราะ)”

มีดูดวงมูเตลู ทำนายไว้แม่นมาก
“ดูเหมือนกันครับ มีหมอดูคนหนึ่งตรงมากเลยนะ แต่ผมจะไม่บอกว่าเป็นใคร เดี๋ยวทุกคนโทร.หาคนนี้ แล้วผมจะไม่ได้ดู ตอนแรกผมคุยกับพี่ผู้จัดการ ว่าเราจะแยกย้ายกันสักเมษายนแล้วกัน เดี๋ยวรอซีรีส์จบก่อน หมอดูบอกว่าเดี๋ยวจะได้แยกกันทำงานตั้งแต่ตอน พ.ย.- ธ.ค. แล้วนะ เขาบอกวัน บอกเดือนมาเลย แล้วผมก็ไม่สนใจ ว่าคงคลาดเคลื่อนบ้างแหละ ว่าเราตกลงกันไว้ว่าเมษาฯ ก็เออ…พฤศจิกายนจริง แต่บอกไม่ได้ เดี๋ยวเขาไม่มีคิวให้ผม กั๊กๆ (หัวเราะ)”

ทำงานหนักจนต้องพบจิตแพทย์ แต่ตอนนี้กลับมาแฮปปี้แล้ว
“ปัญหาสุขภาพคือช่วงที่ผ่านมาพักผ่อนไม่ค่อยพอครับ เอาจริงๆ ก็มีเรื่องจิตใจด้วยแหละ ก็ปรึกษาจิตแพทย์อยู่นะ เพราะก็มีเรื่องเบิร์นเอาต์ด้วย คือหมอเขาบอกว่า ถ้ารู้สึกว่าเราฝืนทำงานต่อไป เขาก็เปรียบเทียบเหมือนเราจุดไฟ ถ้าเราจุดไฟแรงตลอดเทียนก็มอดเร็ว เขาบอกว่าอีกปีสองปีเนี่ย เลิกทำงานแน่ๆ เลย คงไม่ไหวแล้ว เลือกงานที่เราอยากทำจริงๆ แล้วก็พักผ่อนด้วย ก็จะเปลี่ยนระบบใหม่ ที่เราเข้าไปปรึกษาจิตแพทย์ เพราะมันจะมีช่วงหนึ่งที่เรารู้สึกว่า ทำไมทำงานแล้วไม่มีความสุขเลย วงการบันเทิงเราชอบมากๆ เลยนะ อยู่ๆ วันหนึ่งความสุขมันหายไปได้ยังไง ก็เลยต้องไปปรึกษาหมอ

ก็เริ่มตั้งแต่ช่วงทำซีรีส์ เป็นผู้จัดเองหนักมากเลย พอร่างกายล้า เราไม่มีเวลาไปตกตะกอนกับตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ก็เลยคุยกับหมอ เขาก็บอกให้เวิร์กบาลานซ์ดีๆ นะ แล้วก็ให้เปลี่ยนสภาพแวดล้อม ให้อยู่กับคนรอบตัวที่น่ารักๆ แล้วก็ให้หาเวลาพัก ทำอะไรไม่ได้นอกจากพัก ก็หนักมีช่วงนอนไม่หลับเยอะ แต่เราไม่อยากใช้ยานอนหลับ ก็เลยกินเมลาโทนินแทน หาหมอแล้วก็ดีขึ้นนะ ตอนนี้ก็แฮปปี้กับงานมากขึ้นเยอะเลย กลับมาสนุกแล้วตอนนี้”

ดีใจแฟนคลับซัปพอร์ต หลังตัดสินใจบอกว่ามีคนคุย เผยที่ผ่านมาก็มีตลอด แค่มันบอกไม่ได้
“ก็รู้สึกว่าไม่รู้หน้ามันออกหรือยังไง แล้วแฟนๆ เขาก็สงสัยเรื่องนี้ ก็เลยงั้นก็ไม่อยากโกหก ก็เคลียร์ๆ กันไปเลยว่ามีคนคุยอยู่นะ อายุ 31 แล้วก็ต้องมีบ้างเถอะ เออ (ยิ้ม)  มันถึงเวลาที่พูดแล้วกัน ความจริงก็มีๆ มาตลอดนั่นแหละ มันก็เล่าไม่ได้หรือเปล่า ถ้าเล่าได้ก็เล่าไปแล้ว ตอนนี้พูดได้แล้ว รู้สึกแก่แล้ว แฟนคลับซัปพอร์ตเยอะก็ดีใจ โตแล้ว (หัวเราะ) ไอ้พาร์ตซัปพอร์ตดีใจ แต่โตแล้วก็รู้สึกอยากอวดนิดหนึ่ง

แต่ก่อนตัดสินใจบอกก็ต้องหวิวสิครับ ไม่รู้ว่าเขาจะคิดยังไงนะ ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ ยังเซนซิทีฟอยู่ในประเทศไทย สำหรับคนในวงการ ก็รู้สึกว่าเออ…มันก็เป็นเรื่องทั่วไป อยากจะบอกทุกคนว่ามันเป็นเรื่องทั่วไปจริงๆ พอเห็นคอมเมนต์ยินดีแล้วดีใจมากๆ เลยนะ ทุกคนน่ารักมากๆ เลย โชคดีสิครับมีแฟนคลับน่ารักขนาดนี้ แต่ก่อนโพสต์ก็หนักใจ หม่าม๊ายังไม่รู้เลย (หัวเราะ) แต่จะเปิดมากกว่านี้ไหม อันนี้ก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องของเราฝ่ายเดียวไม่ได้ไง คนคุยต้องมีสองคนที่ตกลงกัน เราตกลงฝ่ายเดียวไม่ได้ มันไม่แฟร์กับเขา ถ้าเขารู้สึกว่ายังไม่อยากเปิด ก็ยังไม่อยากเปิด เป็นคนนอกวงการไหม ก็ประมาณนั้น ความจริงคิดว่าหม่าม๊าก็คงรู้แหละ แต่ไม่พูดเฉยๆ”

ชีวิตตอนนี้แฮปปี้มาก ความสัมพันธ์ปกติ ไม่ได้ปิดไม่ได้เปิด
“ก็มีความสุข (หัวเราะ) มีความสุขดีครับ ก็อาจจะมีทะเลาะกันบ้าง แต่ก็ดีกันได้ตลอดเลย มีความสุข แฮปปี้ชีวิตโอเค แฟนคลับน่ารัก (หัวเราะ) ถามว่ากลัวโดนเปิดวาร์ปไหม ก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าเราไม่ได้พูดออกมาก็คงไม่เป็นไร ก็รู้สึกแค่นี้ เดี๋ยวถึงเวลาก็อยากจะออกมาพูดเองครับ ก็ไปไหนมาไหนด้วยกันนะ ก็ไม่ได้ปิด แต่ไม่ได้เปิด (หัวเราะ) ใครเห็นก็ไม่เป็นไรครับ”