“บีม กวี” ซึ้งแฟนคลับเหนียวแน่น ช่วยดูแลพ่อแม่ “บิ๊ก ดีทูบี” บ้านทาสีใหม่ทุกครั้งที่เจอ รับห่วงเรื่องเงิน พร้อมช่วยเหลือ แต่ครอบครัวบิ๊กยังไม่ได้ต้องการขนาดนั้น บอกมีแหล่งรายได้ที่สามารถดูแลได้ก็สบายใจ แจงดรามาเอาลูกมาหากิน ลั่นลูกช่วยพ่อแม่ขายของ ซึ่งเป็นสินค้าของครอบครัว ทำเพื่อความเจริญของครอบครัวก็ไม่น่าแปลก ไม่รู้ทำไมถึงดรามา แต่มีภูมิคุ้มกัน ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย
แฟนคลับเหนียวแน่นและน่ารักมากๆ แม้ “ปาณรวัฐ กิตติกรเจริญ” หรือ “บิ๊ก ดีทูบี” จะจากไปนานแล้ว แต่ยังเผื่อแผ่ความรักและการดูแลไปถึงพ่อแม่ของหนุ่มบิ๊กอยู่เสมอ ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ “บีม กวี ตันจรารักษ์” ได้เผยระหว่างร่วมงาน “KING POWER CELEBRATION 2023..HAVE A NEW BESTINATION” ณ ลานน้ำพุ FOUNTAIN SQUARE คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ซึ้งที่แฟนคลับคอยช่วยดูแลกัน ทำให้พ่อแม่ชื่นใจ มีแรงใจให้อยู่ต่อไป
“จริงๆ เรื่องแฟนคลับดูแล ผมดีใจมาก ซึ้งใจที่แฟนคลับเหนียวแน่น คอยดูแลตลอด ผมไปทุกครั้ง ที่บ้านพ่อแม่บิ๊ก บ้านอายุหลายปีแล้ว ค่อนข้างที่จะเก่า แต่ผมไปทุกครั้ง มักจะมีการเปลี่ยนแปลง ทาสีใหม่ มันไม่ดูเป็นบ้านเก่าเลย ผมถามคุณพ่อ ว่าใครเป็นคนดูแล จัดการให้ พ่อก็บอกว่าแฟนคลับมาช่วยดูแล คือของอะไรที่ง่ายๆ แบบนี้ เวลาเรามองหรือผู้ใหญ่มอง เขารู้สึกชื่นใจครับ และมันเหมือนแรงใจให้เขาอยู่ต่อไป
คุณพ่อมีอุบัติเหตุนิดหน่อย ผมไปเยี่ยม ดีใจที่คุณพ่อหายแล้ว เมื่อวานยังคุยโทรศัพท์กันอยู่ ว่าอาการดีไหม ก่อนออย (ภรรยา) จะไปคลอดน้อง ผมก็ไปดูที่บ้านด้วยตาตัวเอง คุณพ่อยังเดินเหินได้ปกติ ยังคุยได้ ก็ดูแลปกติ และที่ไปวันนั้นมีคนดูแลเหมือนกัน ผมก็ถามคุณพ่อว่าเราจะสามารถช่วยเหลือ ดูแลอะไรได้บ้าง เขาก็บอกว่าผมไม่ต้องเป็นห่วง เขาก็บอกโอเค และเมื่อวานที่คุยกัน คุณพ่อก็บอกว่าดีขึ้นเยอะแล้ว ก็โอเค
คือถ้าเรามีเรื่องอะไรที่เป็นห่วง ก็จะไปหา ซึ่งทางไปบ้านผมก็คือทางไปบ้านบิ๊ก และถ้าได้ยินเรื่องอะไรที่น่าเป็นห่วง ก็จะไปหา แต่ไม่ได้ไปประจำ แต่ด้วยภาระหน้าที่ของเรา ก็อาจจะไม่ได้ไปหาตลอด ยังคุยกับแดน (วรเวช ดานุวงศ์) อยู่เลย แต่ช่วงนี้แดนเขามีภาระหน้าที่ แต่ถ้ามีโอกาส หรือมีอะไร เราก็จะไปหา
อีกอย่างเราเป็นห่วงเรื่องเงิน เรื่องอะไรแบบนี้ เราก็ถาม แต่พ่อเขาก็บอกว่ามีแหล่งรายได้ที่สามารถดูแลได้ เราก็โอเคสบายใจในส่วนนั้น แต่ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นมา ผมกับแดนก็พร้อมจะทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะจัดคอนเสิร์ตหรืออะไร ผมว่าทุกคนพร้อมจะช่วย และทุกคนก็พร้อมจะช่วย แต่คุณพ่อยังไม่ได้ต้องการอะไรขนาดนั้น และใกล้วันครบรอบ ก็ถามคุณพ่อเหมือนกัน ท่านก็บอก ยังมีนะ ในวันที่ 9 ธ.ค. ก็ยังมีนะ เดี๋ยวเจอกัน เดี๋ยวไปทำบุญที่วัด ที่เดิมครับ คุณพ่อบอกว่าจะไปด้วย แต่พอถึงเวลาก็ต้องดูหน้างานอีกที”
บอกลูกช่วยพ่อแม่ขายของ ซึ่งเป็นสินค้าของครอบครัวก็ ทำเพื่อความเจริญของครอบครัวก็ไม่น่าแปลก ไม่รู้ทำไมถึงดรามา
“ส่วนดรามา วันนั้นเราถ่ายรูปลูกสาว ลูกชายเราก็ถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึก แม่เขาก็เห็นว่าน่ารักดี ก็เลยถ่ายรูปกับโปรดักส์ที่บ้านที่เราทำ ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นดรามา ผมว่าการที่เราช่วยพ่อแม่ขายของ มันก็ไม่น่าจะแปลกอะไร ถ้าผมเป็นลูก ผมก็ยินดีจะช่วยพ่อแม่ผม แต่ก็นานาจิตตังครับ ก็แล้วแต่ (ไม่ใช่เป็นสินค้าของคนอื่น?) เป็นสินค้าของครอบครัวเราเอง เราก็ทำเพื่อความเจริญของครอบครัว ผมไม่ได้ใช้เงินกันอะไรแปลกประหลาดมากมาย ปวารณาตนว่าจากนี้ไปมีเงินมีทองก็เพื่อดูแลคนที่บ้าน”
ดรามาที่เจอยังไม่ใช่เรื่องเลวร้าย
“เรื่องภูมิคุ้มกันดรามาในครอบครัวเรา ลูกเรายังเล็กอยู่ ไม่น่าจะรู้เรื่องอะไร แต่ความเป็นพ่อแม่ คือจะตอบยังไงดี คือผมรู้ว่าการเป็นคนมีชื่อเสียงเป็นยังไง ผมเคยดังมากๆ มันเป็นแค่ช่วงหนึ่งในชีวิตแค่นั้นเองครับ การมีชื่อเสียงจริงๆ ไม่ได้อยู่กับเรานานหรอกครับ ผมดังจริงๆ ประมาณ 3-4 ปีเอง จากนั้นเดินไปไหนไม่เห็นมีใครรู้จักเลย ผมเลยรู้สึกว่าจากประสบการณ์ผมเอง ที่ผ่านมาผมไม่ได้เจอเรื่องไม่ดี ผมก็ใช้ประสบการณ์ที่เราผ่านมาเป็นตัวตัดสิน ผมไม่รู้จะตอบยังไง ผมคิดว่าสิ่งที่ผมเจอมันไม่ใช่เรื่องเลวร้าย
ถามว่าเซ็งไหม เจอดรามารายวัน การเป็นคนที่คนสนใจมากขึ้น ก็จะมีเรื่องแบบนี้เข้ามาอยู่แล้ว มันก็ต้องรับตรงนี้ไป ผมว่าดูแลลูกให้ดีที่สุดแหละ ผมว่าเด็กจริงๆ มันดังแค่ 3-4 ปี ลูก 7 ขวบคงยังไม่รู้เรื่องอะไร แต่ตอนนี้ช่วยพ่อแม่นิดนึง ครอบครัวเราจะได้มีความเจริญรุ่งเรือง หนูจะได้สบายในอนาคต พ่อกับแม่จะคอยดูแลหนูเป็นอย่างดี ไม่ต้องกลัวนะครับ”