เล้งฮู้ชง จอมยุทธแกะดำ
ก๊วยเจ๊งและอึ้งย้งยอมสละชีพรักษาเมืองเซียงเอี้ยง กระทั่งทหารมองโกลจำนวนมากบุกเข้ามาสุดจะต้านทาน เซียวฟงหรือเฉียวฟงกระทำอัตวินิบาตกรรมที่หน้าด่านเยี่ยนเหมิน เพื่อยับยั้งทหารเมืองเหลียวบุกแผ่นดินต้าซ้อง ขณะที่เอี้ยก้วยและเซียวเล่งนึ่งหลังช่วยก๊วยเจ๋งนำทัพออกศึกสังหารข่านมองโกลยุติการรุกรานของมองโกลได้ชั่วคราว ทั้งคู่เลือกเดินทางกลับสุสานโบราณใช้ชีวิตอย่างสงบและมีทายาทสืบเชื้อสายต่อมา จุดจบของวีรบุรุษแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป แต่หลายคนอยากหลีกลี้หนีหายจากความสับสนวุ่นวายของยุทธภพ เพื่อไปใช้ชีวิตสันโดษและสงบสุข หนึ่งในสองคนที่จะกล่าวถึงในตอนนี้คือ ศิษย์เอกแห่งสำนักหัวซาน จอมยุทธผู้ถวิลหาสุรารสเลิศ เล่งฮู้ชง
เล่งฮู้ชง ศิษย์เอกแห่งสำนักหัวซาน หนึ่งในสำนักกระบี่ห้าขุนเขาในยุคนั้น เชี่ยวชาญเพลงกระบี่หัวซาน ซึ่งร่ำเรียนมาจากงักปุ๊กคุ้งอาจารย์ที่เขารักประดุจพ่อ เล่งฮู้ชงยังมีวาสนาได้สืบทอดเพลงกระบี่ไร้พ่ายของจอมกระบี่เดียวดายแสวงพ่ายโดยท่านฟงชิงหยางเป็นผู้ถ่ายทอดให้ และได้เรียนรู้วิชามหาเวทย์ดูดาวของ เยิ่นหว่อสิง เจ้าสำนักสุริยันจันทรา นับเป็นยอดฝีมือแห่งยุคอีกผู้หนึ่ง แต่ในความเป็นจริงนั้น เล่งฮู้ชง ปรารถนาร่ำเรียนวิชาฝีมือชั้นสูงเหล่านี้จริงหรือ
ศิษย์เอกแห่งหัวซานเดิมเป็นเด็กกำพร้าที่งักปุ๊กคุ้งและภรรยาเก็บมาเลี้ยงและเติบโตมาพร้อมกับ งักเล้งซัง บุตรสาวของทั้งสอง เล่งฮู้ชงเปรียบเสมือนลูกคนโต เขาได้รับความรักและเอ็นดูเป็นอย่างดี โดยเฉพาะงักฮูหยิน เล่งฮู้ชงเคารพรักทั้งคู่ดุจบิดามารดา เขาอยู่ที่หัวซาน เป็นเพื่อนเล่นกับงักเล้งซังและศิษย์น้องคนอื่นๆมาตั้งแต่เล็ก หัวซานจึงเป็นเสมือนบ้านของเล่งฮู้ชง
แต่เมื่อเล่งฮู้ชงเติบโต นิสัยของเขากลับไม่เหมือนอาจารย์สักเท่าไหร่ เล่งฮู้ชงชอบดื่นสุราเป็นนิตย์ คบคนไม่เลือกหน้าตั้งแต่ขอทานยังโจรปล้นสวาทเถียนป๋อกวง พูดจาโผงผางไม่ไว้หน้าใครและไม่มีมารยาทกับคนบางจำพวกจนเป็นที่เอือมระอาของงักปุ๊คคุ้ง ซึ่งได้ฉายาว่า กระบี่ผู้ดีแห่งยุทธภพ และด้วยนิสัยเฉพาะตัวของเล่งฮู้ชงทำให้เขากลายเป็น คนไม่ดี หรือเป็น แกะดำ ของชาวยุทธฝ่ายธรรมมะ
สังคมชาวยุทธในยุค กระบี่เย้ยยุทธจักร หรือ เดชคำภีร์เทวดา ท่านกิมย้งได้วาดภาพของกลุ่มคนที่แบ่งแยกเป็นฝักฝ่ายชัดเจน คือ ธรรมมะ กับ อธรรม ฝ่ายธรรมมะประกอบด้วย เส้าหลิน บู๊ตึ้ง เป็นเสาหลัก มีสำนักกระบี่ห้าขุนเขา ประกอบด้วย เหิงซาน หานซาน ซงซาน ไท่ซานและหัวซาน ต่างช่วงชิงความเป็นใหญ่กันภายในจนหลายๆครั้งไม่สนใจเรื่องคุณธรรมและจริยธรรม ส่วนฝ่ายอธรรม มีพรรคสุริยันจันทราเป็นเสาหลัก ซึ่งก็ช่วงชิงอำนาจภายในเข่นฆ่ากันเองเช่นกัน
เล่งฮู้ชงเป็นหนึ่งในวังวนของยุทธภพย่อมหนีไม่พ้นความวุ่นวายสับสนที่ฉาบแฝงไปด้วยอำนาจ วาสนาและผลประโยชน์ เล่งฮู้ชง ศิษย์พี่ใหญ่หลงรักงักเล้งซัง ศิษย์น้องหญิง แต่ต้องผิดหวังเพราะงักเล้งซังหลงรักหลินผิงจือที่ดูสุภาพเรียบร้อยกว่า เล้งฮู้ชงเสียใจมากแต่เขาไม่โกรธ ไม่เกลียดหรือคิดแค้นหลินผิงจือทั้งที่เขามีฝีมือเหนือกว่า งักปุ๊กคุ้งอาจารย์ผู้สงบดั่งน้ำนิ่งของเขาต้องการครอบครองเพลงกระบี่ปราบมารของสกุลหลิน ยอมกระทั่งฆ่าศิษย์ในสำนัก หลอกลวงผู้คนและใส่ร้ายเล่งฮู้ชงว่าเป็นคนฆ่าและเป็นผู้ขโมยคำภีร์กระบี่ไป จ้อแน่เซียง เจ้าสำนักซงซานทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตนเป็นผู้นำแห่งสำนักห้าขุนเขากระบี่ ฆ่าแม่ชีอาวุโสสองคนแห่งสำนักเหิงซาน แม่ชีอาวุโสท่านหนึ่งก่อนสิ้นชีวิตได้ทิ้งภาระให้เล่งฮู้ชงเป็นเจ้าสำนักเหิงซานดูแลเหล่าแม่ชีแทนตน
วาสนาได้นำพาศิษย์เอกแห่งหัวซานเข้าไปเกี่ยวพันกับพรรคมาร ผูกสัมพันธ์กับบุตรสาวของ เยิ่นหว่อสิง และช่วยเหลือเยิ่นหว่อสิงกำจัดตงฟางปุ๊ป้าย หรือ บูรพาไม่แพ้ ยอดยุทธแห่งยุคผู้แย่งชิงตำแหน่งประมุขพรรคสุริยันจันทราจากเยิ่นหว่อสิงไปครอง แต่เขากลับรู้สึกผิดหวังและเสียใจเพราะดูเหมือนว่า เยิ่นหว่อสิงจะเหี้ยมโหดเต็มไปด้วยแรงอาฆาตแค้นพร้อมที่จะสร้างความวุ่ยวายให้ยุทธภพยิ่งกว่า
จ้อแน่เซียงพ่ายแพ้งักปุ๊กคุ้งจากการประลองชิงตำแหน่งผู้นำห้าขุนเขากระบี่กลายเป็นคนพิการตาบอด งักปุ๊กคุ้งถูกแม่ชีน้อยแห่งสำนักเหิงซานฆ่าตาย แม่ชีน้อยแก้แค้นให้อาจารย์สำเร็จ งักเล้งซัง ศิษย์น้องหญิงของเล้งฮู้ชงถูกหลินผิงจือฆ่าตายเพราะหลินผิงจือต้องการแก้แค้นงักปุ๊กคุ้ง เยิ่นหว่อสิงหลังจากชนะตงฟางปุ๊ป้ายกลับมาครอบครองพรรคสุริยันจันทรา เขาคิดจะครอบครองยุทธภพ แต่สุดท้ายต้องเสียชีวิตเพราะสุขภาพร่างกายไม่อำนวย
ชีวิตก็เพียงเท่านี้ เล่งฮู้ชงได้เห็นจุบจบของคนใกล้ชิดทั้งมิตรและศัตรู เขารู้สึกปลงกับยุทธภพ สมัยที่เป็นเด็ก เขาอาจเพียงคิดว่า ได้วิ่งเล่นและรำกระบี่กับศิษย์น้องหญิงที่สำนักหัวซาน เพียงเท่านั้นก็เป็นสุขแล้ว
หลังการตายอย่างปัจจุบันทันด่วนของเยิ่นหว่อสิง เล่งฮู้ชงสะสางภาระต่างๆหลีกลี้จากยุทธภพไปใช้ชีวิตเรียบง่ายและสันโดษกับคนรักของเขา เยิ่นอิ๋งอิ๋ง
...
ประวัติผู้เขียน
ชาติณรงค์ วิสุตกุล ผู้ช่วยศาสตรจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ จบการศึกษาปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยทำงานเป็นนักข่าวและนักเขียนสารคดีที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน และเคยเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำสถานีวิทยุแห่งชาติจีน (China Radio International) ณ กรุงปักกิ่ง(พ.ศ.2550-2551)
เคยได้รับรางวัลสุภาว์ เทวกุล ปี 2552 จากเรื่องสั้น ใบหน้าของโจโฉ รางวัลชมเชยพานแว่นฟ้า ปี2545 จากเรื่องสั้น ภาพเก่า และเข้ารอบสุดท้ายรางวัลนายอินทร์อะวอร์ด ปี2552 จากเรื่องสั้น หนูน้อยกลางถนนกับคนใจยักษ์ และเรื่องสั้น กบฏเพื่อสันติภาพ ได้รับคัดเลือกตีพิมพ์ในนิตยสารราหูอมจันทร์ ฉบับที่ 5 เดือนตุลาคม 2551 มีผลงานหนังสือรวมเล่มมาแล้ว 4 เล่ม ได้แก่
1. นางฟ้าจากไปแล้ว รวมเรื่องสั้น ปีพ.ศ.2549 สนพ.สยามอินเตอร์
2. คน(ไม่)เหมือนกัน รวมเรื่องสั้น ปีพ.ศ.2554 สนพ.บ้านวารสารฯ
3. สาวน้อยบนตึก นวนิยาย ปีพ.ศ.2558 สนพ.บ้านวารสารฯ
4. กลืนกินความมืด รวมเรื่องสั้น ปีพ.ศ.2560 สน.พ.บ้านวารสารฯ
ติดต่อผู้เขียน : โทรศัพท์ 094-9451451 / E-mail : jr.chatnarong@gmail.com