“แอน จักรพงษ์” แจงปมดรามาแฟนนางงามบางกลุ่มออกมาไม่เห็นด้วยกับการให้ผู้หญิงเคยแต่งงานและผู้หญิงข้ามเพศประกวด MU ลั่นเพียงเปิดประตูให้ เข้ามาสุดท้ายก็ต้องไปต่อสู้กัน ลั่นเวทีมิสยูนิเวิร์สจะมองไปข้างหน้า ไม่ทำให้ผู้หญิงถูกมองเป็นเพียงวัตถุ แย้มมงกุฎ มิสยูนิเวิร์ส ปีนี้ มูลค่า 200 ล้าน เป็นเพชรบลูไดมอนด์
กระแสแรงต่อเนื่อง หลังจากออกมาประกาศว่า “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” เจ้าของ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือครองสิทธิ์ Miss Universe Organization (MUO) คนใหม่
ล่าสุด JKN ได้จัดงานแถลง MISS UNIVERSE EXTRAVAGANZA โดยมีนางงามจากเวที Miss Thailand Universe มาร่วมงานแล้ว ยังมี 5 สาวงามเจ้าของตำแหน่ง Miss Universe ไม่ว่าจะเป็น ไลลา โลเปซ (Miss Universe 2011) , นาตาลี เกลโบวา (Miss Universe 2005) , แคทรีโอนา เกรย์ (Miss Universe 2018) , แอนเดรีย เมซา (Miss Universe 2020) และ ฮาร์นาซ สันธู (Miss Universe 2021) มาร่วมเฟรมบนเวทีเดียวกันด้วย ซึ่งถือเป็นภาพประวัติศาสตร์เวทีนางงามเลยทีเดียว โดยแอนเปิดใจว่า
แอน : “ประกาศไว้ตรงนี้เลยว่า Miss Universe เราจะปรับปรุงและพัฒนาก้าวไปในทิศทางที่ถูกใจแฟนคลับมากขึ้น เราจะพัฒนาทั้งภาพลักษณ์และแบรนด์ดิ้งให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นไป Miss Universe จะ 70 ปีแล้วนะ ที่เราไม่ได้พัฒนาทั้งในเรื่องผลิตภัณฑ์ และไลฟ์สไตล์ทั้งหลายที่สามารถพัฒนาขึ้นมาได้ ในส่วนของชาติก็สามารถพัฒนาขึ้นมาได้ด้วยในเรื่องของซอฟต์พาวเวอร์ การประกวด Miss Universe ในแต่ละครั้งก็สามารถนำความเป็นไทยออกสู่สากล ทำให้คนทั่วโลกอยากจะมาเที่ยวได้เช่นเดียวกัน อยากให้ทุกคนมีส่วนร่วม จักรวาลนี้เป็นของพวกเราทุกคน ในมาตรฐานนานาชาติ แน่นอนว่ายุติธรรม บริสุทธิ์ ได้มาตรฐานคุณภาพชีวิตของผู้หญิงทุกคนบนโลกค่ะ เราอยากจะทำให้ประเทศไทยเป็นบ้านแห่งที่ 2 ของ มิสยูนิเวิร์ส”
พอลล่า : “ความรัก และความชื่นชมของคนไทยสื่อสารมาถึงแบรนด์มิสยูนิเวิร์ส ซึ่งขณะที่ปัจจุบันนี้เราตั้งอยู่ที่นิวยอร์ก หลังจากนี้เราก็จะถือว่าอยู่ที่กรุงเทพฯ ด้วย เพื่อนำมิสยูนิเวิร์สไปสู่อีกระดับ และจะเป็นการเปิดตัวประเทศไทยสู่โลกด้วย เพราะโลกกำลังเฝ้ามองอยู่ในขณะนี้ และจะจับตามองต่อๆ ไปเรื่อยๆ”
เอมี่ : “แบรนด์นี้มีเป้าหมายอยู่แล้ว และเป้าหมายนั้นก็คือพลัง เราจะยกระดับอย่างที่คุณแอนต้องการ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ชมของประชาคม และเพื่อการสร้างเวทีที่จะสร้างสรรค์โดยผู้หญิงโดยเฉพาะ เราแทบจะไม่ไหวที่จะใส่พลังเหล่านี้ และทำออกมาในทางของเราเอง”
กับประเด็นมีแฟนนางงามบางกลุ่มออกมาไม่เห็นด้วยกับการให้ผู้หญิงเคยแต่งงานและผู้หญิงข้ามเพศมาประกวด “แอน จักรพงษ์” เผยว่า แค่เปิดประตูให้ แต่สุดท้ายก็ต้องไปต่อสู้กันเอง
พอลล่า : “มันคงต้องใช้เวลา และเราเป็นใครถึงไปมีสิทธิ์ไปบอกว่าคุณไม่สามารถเข้ามาประกวดได้ ทุกคนควรจะมีโอกาส มันไม่ได้หมายความว่าคนทั้งหมดความสามารถเข้ามาประกวดได้ แต่ตอนนี้ก็เหมือนกับผู้หญิงในการทำงานที่สามารถทำงานหนัก สามารถบริหารธุรกิจ สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจ เราไม่ควรจะไปบอกว่าคุณทำไม่ได้หรอก มันควรจะเป็นสิทธิ์ของคุณเอง คุณควรจะได้ทำตามความฝัน มันยากอยู่แล้วที่จะเป็นที่หนึ่งในจักรวาล เพราะฉะนั้นเราเปิดโอกาสให้ทุกคนได้พยายามจะดีกว่า”
แอน : “เปิดประตูเกตเวย์ให้ แต่สุดท้ายก็ต้องไปต่อสู้กันเอง”
เอมี่ : “ฉันพยายายามผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว ฉันทำอะไรเร็ว เราจะไม่รอ เมื่อเรารู้ว่าคุณแอนฝันอยากจะทำอะไร ฉันจะทำให้มันเกิดขึ้น ฉันเห็นพลัง ฉันเคารพผู้หญิงเหล่านี้ที่กล้าหาญกันมากๆ และควรจะได้รับความเคารพจากคนทั่วโลกด้วย นี่คือสิ่งที่ฉันจะสู้เพื่อให้เกิดขึ้นให้ได้ ในฐานะคนที่เพิ่งจะเข้ามาในกองประกวดนี้ ฉันยังเชื่อว่าควรจะเปิดโอกาสให้คนทุกๆวิถีชีวิต ฉันอยากให้ลูกสาวฉันมีตุ๊กตาของมิสยูนิเวิร์สทุกคน เพื่อที่เธอจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมต่างๆ จากประเทศของทุกๆ คน และอย่างที่คุณแอนบอก ฉันยังมองว่าผู้เข้าประกวดไม่ว่าจะจากประเทศอะไร สามารถเปลี่ยนไปสู่บทบาทของผู้นำ และฉันยังจะใช้ประสบการณ์ที่มีทั้งหมด รวมถึงในฐานะแม่ของลูกสาว รวบรวมเพื่อแบรนด์และธุรกิจนี้”
เวทีมิสยูนิเสิร์สจะมองไปข้างหน้า ไม่ทำให้ผู้หญิงถูกมองเป็นเพียงวัตถุ
พอลล่า : “ผู้หญิงทุกคนที่ก้าวขาขึ้นมาบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส ทำงานอย่างหนักมากกว่าจะมาถึงตรงนี้ สิ่งนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงไป และข้อกล่าวหาตั้งแต่ในอดีต เรื่องการมองผู้หญิงเป็นวัตถุ ฉันไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว ฉันไม่เชื่อเรื่องนั้นอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็ไม่มีอะไรต้องเปลี่ยนแปลง และผู้หญิงจะต้องทำงานอย่างหนักต่อไป เราจะเติบโตขึ้นไปอีก เราจะรวมพลังกัน นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในบทต่อไปของเรา ส่วนเรื่องความเห็นเรื่องการมองผู้หญิงเป็นวัตถุ ฉันไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว เพราะผู้หญิงทุกคนบนเวทีนั้นมั่นใจในตัวเอง และยิ่งมั่นใจขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ ซึ่งสิ่งนี้จะไม่เปลี่ยนอย่างแน่นอน”
เอมี่ : “ฉันยังอยากจะพูดถึงเรื่องการมองผู้หญิงเป็นวัตถุด้วยผู้หญิงในประเทศอะไรก็ตาม เราถูกเลี้ยงดูมาให้ตั้งคำถาม และตัดสินตัวตนของเราเอง โดยเฉพาะเรื่องรูปร่างของเราเอง จนกระทั่งมีมิสยูนิเวิร์ส นี่คือเวทีที่ทำให้เรามีสิทธิ์ มีพลังในรูปร่างของเราเอง นี่คือเรื่องของสิทธิในการเลือกที่จะเข้าสู่การประกวด เลือกที่จะโชว์พลังจากความงามของเราเอง รวมถึงผู้หญิงที่มีรูปร่างทุกแบบ ฉันจึงมองว่าสำหรับคนที่มองว่าการประกวดนี้มองผู้หญิงเป็นวัตถุ นี่ไม่ใช่เรื่องของการตัดสินผู้หญิงด้วยรูปร่าง แต่เป็นการเลือกผู้หญิงที่จะมาเป็นตัวแทนของแบรนด์ที่ว่าด้วยความสวย และความมั่นใจ ไม่ว่าภายนอกคุณจะเป็นยังไง แต่มันเกี่ยวกับภายในของคุณ”
แย้มมงกุฎ Miss Universe 2023 มูลค่า 200 ล้าน เป็นเพชรบลูไดมอนด์
แอน : “ใครอยากเห็น Miss Universe 2023 จัดที่ประเทศไทยบ้าง ยังไม่ประกาศค่ะ เดี๋ยวขอไปคุยกับรัฐมนตรีก่อน แอนจะทุ่มทั้งตัวและหัวใจไปดีลมาให้ได้ แอนให้ใจเรื่องนี้ 100% แต่อยากให้รัฐมนตรีให้ใจกลับ ล้านเปอร์เซ็นต์ ความเป็นไปได้สูง และเราอยากให้เป็นอย่างนั้น (พูดถึงมงกุฎที่จะทำใหม่ในปีนี้ มูลค่า 200 ล้าน?) ตอนเดือนธันวาคมจะได้เห็นกัน เราจะเปิดตัวกันริมน้ำที่เมืองไทยที่แรก มูลค่า 200 ล้าน เป็นบลูไดมอนด์”
