xs
xsm
sm
md
lg

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ “ครูมืด” บรมครูโขน น้องชายเผยพี่ชายเจ็บปวดและทรมาน รู้ว่าต้องจากไป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ “ครูมืด ประสาท ทองอร่าม” น้องเผยพี่พ่ายมะเร็งปอด เพิ่งรู้ได้ 1 ปี 1 เดือน รักษาจนหายไป แต่เพียงเข้าเดือนที่ 4 โรคก็กลับมาอีกครั้ง ลั่นสุดเจ็บปวดและทรมาน รู้ตัวว่าต้องจากไป สั่งเสียไม่ให้หมอทำอะไรให้เจ็บปวดไปกว่านี้ เตรียมรวมคนในตระกูล แสดงโขนชุดใหญ่อาลัยรักครั้งสุดท้าย

เวลา 16.10 น. วันนี้ (7 พ.ย.2565) สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ “ครูมืด ประสาท ทองอร่าม” ปรมาจารย์ด้านนาฎยสังคีตของไทย ที่ศาลาแสงฉิม วัดบางรักใหญ่ ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปอด เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2565 เวลา 17.21 น. ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

โดยวันนี้ครอบครัวของครูมืดได้ทำพิธีรดน้ำศพ เวลา 14.45 น. จากนั้นเวลา 19.00 น. มีพิธีสวดอภิธรรม และจะมีพิธีสวดอภิธรรมทุกวันไปจนถึง 12 พ.ย. รวมเป็นเวลา 6 วัน หลังจากนั้นจะมีพระราชทานเพลิงศพ วันอาทิตย์ที่ 13 พ.ย. เวลา 17.00 น.

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีครอบครัวและเหล่าญาติมิตร รวมถึงเพื่อนพี่น้องในวงการศิลปวัฒนธรรม มาร่วมไว้อาลัยมากมาย ด้าน “ครูเถิ่ง เกษม ทองอร่าม” น้องชายของครูมืด ได้เปิดใจต่อสื่อมวลชน เผยว่าครูมืดทำใจแล้วว่าตัวเองต้องจากไป หลังพ่ายมะเร็งปอด ที่รักษาหายแล้วแต่กลับมาเป็นอีกครั้ง และครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรง เจ็บปวดและทรมานมาก

“ได้ทำการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ก่อนที่จะเสียชีวิตประมาณ 3 เดือนครับ โดยครูมืดท่านได้ทำใจไว้ก่อนแล้ว ท่านบอกผมว่าตอนนี้ท่านเจ็บปวดมาก ทรมานมากแล้ว รู้ตัวแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องจากไปแล้ว ให้เรียกญาติพี่น้องมาทั้งหมดเลย มาสั่งเสียว่าไม่ให้คุณหมอเจาะ หรือทำอะไรให้ตัวเองเจ็บปวดมากกว่านี้ เพราะครั้งนี้ก็เจ็บปวดมากอยู่แล้วครับ

โดยตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปอด มาประมาณ 1 ปี 1 เดือน และทำการรักษามาโดยตลอด ในขั้นตอนรักษาอยู่ประมาณ 3 เดือน โรคนั้นก็หายไป คุณหมอบอกว่าไม่ต้องให้เคมีแล้ว เพราะว่าเป็นปกติแล้ว ก็หยุดรักษา หยุดให้เคมีไปประมาณ 3 เดือน พอพ้น 3 เดือน เข้าเดือนที่ 4 โรคนั้นก็กลับมาอีก กลับมาครั้งที่สองนี้รุนแรงมากครับ เข้าโรงพยาบาลครั้งสองคุณหมอบอกว่าโรคนี้ร้ายมาก ก็มีการต่อสู้ระหว่างคุณหมอกับโรคมะเร็ง สุดท้ายก่อนท่านจะเสียชีวิตประมาณ 1 สัปดาห์ คุณหมอบอกว่าแพ้กับโรคนี้แล้ว มันดุมากเลย”

ครูมืดทำใจ ยังไงก็ต้องเสียชีวิต เรียกญาติมาสั่งเสียให้พี่น้องรักกัน
ก็เรียกญาติมาประชุม ว่าให้ดูอาการวันต่อวันไป จะกี่วันกี่วันเดือนคุณหมอตอบไม่ได้ คือครูมืดท่านก็ได้ทำใจแล้ว ว่ายังไงก็ต้องสิ้นชีวิตแน่นอน ท่านได้สั่งเสียก่อนจะเสียชีวิต 1 วัน ว่าฝากดูแลพวกหลานๆ พี่ๆ น้องๆ ให้มารวมกัน เหมือนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ คือตอนท่านอยู่เนี่ย เขาจะเรียกพี่น้องมาทานข้าวที่บ้านผม เพราะครูมืดอยู่กับผม ตอนเย็นจะมาทานข้าวกันที่บ้าน แล้วก็จะเป็นคนจ่ายตังค์ ให้ไปทำกับข้าวมา ให้พี่น้องมาทานรวมกัน ก่อนจะเสียท่านก็เลยบอกว่าให้รักพี่รักน้อง เหมือนอย่างตอนที่ครูมืดยังมีชีวิตอยู่ ท่านมีความเป็นห่วงเหลนชาย เจ้ากีต้าร์ ที่เป็นลูกของลูกสาวผม ท่านรักกีต้าร์มาก”

ตระกูลสืบสานศิลปวัฒนธรรมโดยสายเลือดกันทุกคน
“คือปัจจุบัน พวกเราตระกูลทองอร่าม ก็ได้สืบสานศิลปวัฒนธรรม โดยเฉพาะทางโขนหรือละคร มาเป็นประจำอยู่แล้ว สืบทอดต่อๆ กันมา หลานในสายเลือดเขาจะเต้นได้ รำได้ โดยอัตโนมัติครับ หลานผมตอนนี้ เหลนของครูมืด เรียนอยู่ที่โรงเรียนจิตรลดา ครูมืดก็มีโอกาสไปสอนโขนอยู่ที่นั่น ทุกคนในตระกูลเรา เล่นโขนหมด เป็นตัวลิงกันหมดทุกคนเลย ก็สืบทอดกันต่อไป แล้วหลานเราไม่ได้มีการบังคับให้เรียน มันสืบทอดมาโดยสายเลือด เขาเกิดมาเขาก็ได้เห็นแล้ว มันก็ซึมซับมาอัตโนมัติ”

เตรียมรวมคนในตระกูล แสดงโขนชุดใหญ่อาลัย ในวันพระราชทานเพลิงศพ
“ครูมืดเป็นผู้เชี่ยวชาญในการแสดงโขนละครมาก โดยเฉพาะท่านได้ร่วมแสดงลิเกด้วย วันพระราชทานเพลิงศพ วันอาทิตย์ที่ 13 นี้ ก็จะมีโขนและลิเกมาแสดงบนเวทีด้วย ก็จะรวมรวบคนในตระกูล ร่วมกับสำนักงานสังคีต กรมศิลปากร มาแสดงโขนชุดใหญ่เรื่องรามเกียรติ์ครับ

โดยกำหนดการตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันเสาร์ ก็จะมีการสวดอภิธรรมเวลา 19.00 น. ที่วัดบางรักใหญ่ แล้ววันอาทิตย์ที่ 13 พ.ย. จะมีพระราชทานเพลิงศพ เวลา 17.00 น. ครับ”













ครูเถิ่ง เกษม ทองอร่าม น้องชายครูมืด



















กำลังโหลดความคิดเห็น