“กัสเบล” เผยเส้นทางรักสามี อภิมหาเศรษฐีชาวอิตาลี โวเรื่องบนเตียงแซ่บมาก ไม่แซ่บไม่เลือก!

“กัสเบล” อดีตนักแสดงช่อง 7 เล่าเส้นทางรักสามีอภิมหาเศรษฐี อายุห่าง 20 ปี โวเรื่องบนเตียงแซ่บมาก ต้องมีสตอรี่ ไม่แซ่บไม่เลือก พร้อมเผยนาทีเปิดตัวคบผู้ชายกลางไอจี ทำพ่อไม่แฮปปี้ เหตุไม่ทันตั้งตัว ถูกคนรอบตัวถามลูกเป็นเกย์ ลั่นชีวิตตอนนี้โคตรมีความสุข

โบกมือลาวงการ ไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ สำหรับ “กัสเบล พีรกร โพธิ์ประเสริฐ”อดีตนักแสดงช่อง 7 ก่อนที่เจ้าตัวจะทำฮือฮาเปิดตัวคบหาแฟนหนุ่มชาวอิตาลี เข้าพิธีแต่งงาน และใช้ชีวิตด้วยกันที่สหรัฐอเมริกา ล่าสุดกัสเบลกลับเมืองไทย ก็ได้มาออกรายการคุยแซ่บshow พร้อมเผยถึงประเด็นนี้

“พอเปิดตัวในอินสตาแกรม ทุกคนก็ช็อก แล้วก็เริ่มเปิดตัวจริงๆ กัสเริ่มเปิดตัว 14 กุมภาพันธ์ เพราะเรารู้สึกว่าเขาให้เราคุยกับพี่เขา น้องเขา เขาพาเราไปรู้จักกับเพื่อนเขา ลงเราในโซเชียล สไตล์อเมริกันคือถ้าเขาคิดว่าคนนี้ใช่ เขาจะเริ่มเปิดตัวเรามากขึ้นก็เลยรู้สึกว่าอยากให้เกียรติเขาเหมือนกัน เราเลยโพสต์ช่วงวาเลนไทน์ ฟีดแบ็กฝั่งครอบครัวเขาก็แฮปปี้ครับ เพราะว่าทุกคนอยากให้เขามีใครสักคน เพราะเขาก็อายุเยอะในระดับหนึ่ง

รูปที่กัสลง ทุกคนก็เข้ามาแสดงความยินดีเป็นในทางบวกประมาณ 90% น้อยมากที่มีแบบไม่ดี เพราะช่วงนั้นกัสรู้สึกว่า LGBTQ ในเมืองไทยมันเริ่มโอเพ่นขึ้นเยอะ”

รับพ่อไม่แฮปปี้
“พ่อไม่แฮปปี้ครับ เหมือนเขาก็รู้แหละว่ากัสเป็นอะไร เพราะเขาเลี้ยงเรามา แต่เป็นเพราะเราไม่ได้บอกเขาเลยว่าเราจะเปิด แต่คือเขาไม่เคยคุยกับแฟนกัสด้วย กัสว่าเขาไม่แฮปปี้เพราะด้วยเพื่อนร่วมงานสมัยนั้นของเขาเข้ามาถาม เป็นอารมณ์สังคมคนไทยที่แบบเฮ้ย...ลูกเป็นเกย์เหรอ ลูกคบผู้ชายเหรอ มันทำให้เขาตั้งรับไม่ทันกับการที่จะต้องตอบคำถาม ทั้งๆ ที่ตัวเองเขารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นยังไง

สุดท้ายพ่อก็เข้าใจครับ เพราะว่าเหมือนกัสพยายามทักหาเขา ตอนแรกไม่รับโทรศัพท์ ไม่ตอบแชต กัสแบบเอาแล้ว โกรธกัสแน่ๆ เลย กัสเลยพิมพ์ความรู้สึกไปเลย ถ้าเกิดกัสทำอะไรให้ไม่สบายใจ หรือสิ่งที่กัสเป็นมันทำให้ลำบากใจ กัสอยากจะบอกว่าสิ่งที่กัสทำ กัสตัดสินใจดีแล้ว แล้วกัสก็ทำทุกอย่างดีหมดแล้ว ซึ่งก็น่าจะข้อความนี้ เขาก็โทร.มาบอกไม่เป็นไร เพราะเขารู้ว่าเราเหนื่อยมามาก เขาแค่ตั้งตัวไม่ทัน”

ไม่แคร์คนทั้งโลก แต่แคร์คนในครอบครัว
“รักครอบครัวมากครับ เราไม่ได้ต้องการให้คนรอบข้าง หรือคนทั้งหมดบนโลกเข้าใจเราในสิ่งที่เราเป็น แต่เราแค่ต้องการคนที่เขารักเรา เรารักเขา เขาเข้าใจเราในสิ่งที่เราเป็นไม่ว่าเราจะเป็นอะไร กัสรู้สึกว่ามันโคตรมีความสุข ก็อยากจะบอกว่ารักพ่อมากนะครับ อยากให้พ่อดูแลตัวเองดีๆ อยากให้ไปเที่ยว เขาไม่ยอมไปเที่ยวที่นิวยอร์ก เพราะเขาไม่อยากนั่งเครื่องบินนานๆ แต่วันนี้กัสอยู่นี่แล้ว เดี๋ยวจะดูแลทุกอย่างเองครับ”

เล่าเส้นทางรัก ได้แต่งงานกับมหาเศรษฐีชาวอิตาลี อายุห่างกัน 20 ปี
“ตั้งแต่เริ่มเดต แต่งงาน ทั้งหมดรวมๆ 3 ปีแล้ว ช่วงก่อนโควิด แล้วแต่งงานช่วงระหว่างโควิด เขาขอแต่งงาน 2 ครั้ง คือครั้งแรกผมเขินมาก เราไปโรงแรมอยู่กลางภูเขา ที่นิวยอร์ก ก็เหมือนภาคเหนือของเรา แล้วมีร้านอาหาร คือเรารู้อยู่แล้วว่าเราต้องโดนขอแต่งงาน แต่เราไม่รู้ว่าวันไหน เพราะเราไปลองแหวนมาแล้ว พอไปเสร็จปุ๊บช่วงนั้นโควิดเขาไม่ค่อยให้นั่งกันเยอะ แต่ก็มีคนเต็ม เขาก็คุกเข่าขอแต่งงานตรงนั้น เราก็ตกใจเพราะเราไม่ได้เตรียมตัวเลย แล้วทุกคนแบบ เซย์เยสๆ มันยิ่งทำให้ผมตื่นเต้น แต่ก็เซย์เยสไปตั้งแต่รอบแรก แล้วเหมือนรูปมันไม่ค่อยสวย เราอยากได้รูปสวยๆ เขาขออีกครั้ง ครั้งที่สองเกิดขึ้นบนเครื่องบินส่วนตัวของเขา ไม่มีคนเลย เราเลยไม่รู้สึกตื่นเต้นมากเท่าไหร่ เลยแลกแหวนกันบนเครื่อง ลงมาถ่ายรูปกันหน้าเครื่องบิน”

จุดเริ่มต้นความรัก ตอนนั้นผมไปอยู่นิวยอร์ก ไปเรียนแล้วเราก็ต้องทำงานด้วยเพราะเราไม่อยากใช้เงินเก่าของเรา แล้วค่าใช้จ่ายที่นั่นมันสูงมาก ก็เลยไปทำร้านอาหารไทย เขาก็เหมือนเป็นลูกค้า แรกๆ เราก็เทคแคร์เขา เหมือนเขาเริ่มมาบ่อยขึ้น ทุกอาทิตย์ แล้วกินเมนูเดิมๆ เขาก็มีท่าทีจีบครับ เขาถามว่าวันนี้เป็นยังไง เหนื่อยไหม แต่ฝรั่งสไตล์เขาจะเป็นคนกินอาหารเดิมๆ พอเขามาเราก็รู้แล้วว่าเขาจะกินอะไร เหมือนเขาชอบในความที่เราจำเขาได้ด้วย เขาก็ให้ทิปเรา สมมติอาหาร 100 เขาก็วาง 100% เลยครับทุกครั้งเลย ครั้งแรกคิดว่าเขาคงเอาเงินทอน หรือขอแลกแบงก์ก็เอาแบงก์ไปให้เขา เขาบอกเอาไปเลย แรกๆ รู้จักเพราะลูกค้า หลังๆ เริ่มแลกเบอร์กัน

ช่วงที่ไปเดตกัน ช่วงนั้นกัสกลับมาที่ไทย แล้วพอดีเขาต้องมาภูเก็ตเหมือนกัน แต่เขาปวดหลังหรือปวดขาสักอย่างก็เลยไม่ได้มา ก็เลยบอกว่า เดี๋ยวยูมานะ ฉันจะพายูไปภาคเหนือของนิวยอร์ก ไปอัปสเตทอีกรอบ คือเราบินถึงนิวยอร์ก 2-3 วันเขาก็มารับไปเที่ยว เราก็ไม่ลังเลครับ ก่อนหน้านั้นไม่มีไปเดตครับ คนนี้คือคนแรกที่เราคุยแบบจริงจัง แต่คนอื่นก็มีเข้ามา แต่เรารู้สึกว่ามันเฟคกี้อเมริกันสไตล์ ตื่นเต้น ตื่นเต้นเพราะเขาด้วย เพราะสถานที่ด้วย เหมือนเราอยู่นิวยอร์ก เราไม่ค่อยได้ออกไปภูเขา ไปอะไรแบบนี้ เหมือนเขาพาเราไปเปิดโลก เรารู้สึกว่าไม่ได้ไปถ้าไม่มีรถขับออกไปหรือนั่งรถไฟออกไป”

ตรงใจเพราะมีความโรแมนติก
“ก็ตรงใจครับ เพราะว่าความเป็นอิสตาเลียนเขาจะมีความโรแมนติกสูงมาก เขาจะมีดอกไม้ มีของที่ทำให้เรารู้สึกว่าว้าว ถามว่าอายุห่าง 20 ปี มีปัญหาไหม ปกติกัสเป็นคนชอบคนอายุเยอะ ชอบมีเพื่อนอายุมากกว่า เหมือนเราอยากจะโต อยากจะมีมุมมองที่มันเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เราเลยรู้สึกว่าง่ายกับการที่จะเปิดใจกับเขา

โวเรื่องบนเตียงแซ่บมาก ไม่งั้นไม่เลือก
กัสเบล : ก็มีคนถาม ต้องบอกก่อนเราห่างกันมาก ด้วยวัฒนธรรมด้วย อายุด้วย ออริจินัลเขาเป็นอิตาเลียนแล้วมาอยู่อเมริกา แล้วเราเป็นไทย ความหลากหลายทางวัฒนธรรมมันเยอะมาก แรกๆ ก็ลำบาก ด้วยความที่คนไทยมีความขี้งอน เอาแต่ใจเขาจะไม่เก็ตตรงนี้ แต่พอถามเรื่องเซ็กซ์บนเตียงเป็นยังไง เราจะบอกได้เลยว่า แซ่บมาก ไม่งั้นกัสไม่เลือกคนนี้นะ ตื่นเต้น และแอดเวนเจอร์มากๆ มีสตอรี่ บางทีรู้หน้าไม่รู้ใจ บางทีก็จะมีอุปกรณ์บ้าง แบบสร้างสตอรี่ขึ้นมา ต้องมีการละคร เพราะเขารู้ว่าเราคือนักแสดง เขาก็ยิ่งชอบ คือมันไม่ถึงกับห้องเชือด มันคือห้องนอนนั่นแหละครับ เขาก็จะมีกุญแจมือ แต่ไม่ถึงกับแส้นะ แต่ก็สไตล์นั้น แต่หลังๆ ไม่ค่อยได้ใช้แล้ว เหมือนต่างคนต่างยุ่ง”

ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นอภิมหาเศรษฐี
“ไม่รู้ครับ ส่วนใหญ่เขาจะกินผัดไท ปอเปี๊ยะ หมูสเต๊ะ แค่นั้น มารู้ตอนเคาต์ดาวน์ เขาพาไปที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง เราเดินตามเขาไป ทุกคนทักเขาเหมือนเขาคือเซเลบคนหนึ่ง ตอนแรกเราไม่คิดว่าเป็นเจ้าของร้าน คิดว่าเขามาบ่อย แล้วเขาก็มีที่ของเขา คือปีใหม่ที่นั่นทุกร้านอาหารต้องจอง ถ้าไม่จองคือไม่ได้เข้า เพราะมันเต็มหมด เขาก็พาไปกินข้าว ร้านอยู่ที่ไทม์สแควร์ แล้วบอกว่าร้านฉัน แต่ไม่ใช่ที่เขา เขาเช่าเอา แล้วปกติไทม์สแควร์ต้องไปรอตั้งแต่ 11 โมงเช้าไรอย่างนี้ แต่เขามีตำรวจพาไปเลยตอนประมาณ 5 ทุ่ม 45 แล้วเราก็เดินไปอยู่ตรงไทม์สแควร์เลยแบบแอ็กคลูซีฟมากๆ มันทำให้เรารู้สึกว่าตื่นเต้นมากๆ ทุกอย่างที่เขาเซอร์ไพรส์เรามันทำให้เรารู้สึก โห เราชอบเขาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะว่าด้วยการเทคแคร์เขาหลายๆ อย่าง มันทำให้เรารู้สึกว่าคนนี้น่ารักดี ไปรับไปส่ง ตลอด โดยที่เราไม่รู้อดีตเขามาก่อน พอรู้แบบนี้ก็ยิ่งบวก เลเวลอัปเลย เขาก็ให้ของขวัญวันสำคัญ ให้ดอกไม้ตลอดเวลา”

ยันรักตัวตนอีกฝ่ายมากกว่าเงิน
“จริงๆ รักคนมากกว่า เพราะเหมือนก่อนที่เราจะเจอเขา พอเราไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเราก็ต้องทำงาน คนที่นั่นเขาไม่ชอบอยู่บ้าน ทุกคนออกไปทำงาน แต่อาจจะทำน้อยวันหน่อย ตอนนี้แฮปปี้มากครับ”