เมื่อมีใครเตือนก็ควรฟังและเก็บมาพิจารณาจริงๆ เพราะบทเรียนที่ “เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์” ได้รับ ทำเอาเจ้าตัวนึกเสียดาย หลังจากที่เพื่อนสาวอย่าง “อเดล” นักร้องชื่อดัง เคยเตือนเธอไม่ให้รับเล่นหนังอวกาศ
เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ นักแสดงสาววัย 32 ปี ที่เป็นเพื่อนสนิทกับ อเดล นักร้องดังวัย 34 ปี ได้เปิดเผยว่า อเดล เคยเตือนเธอว่าอย่ารับเล่นหนังเกี่ยวกับอวกาศเรื่อง Passengers ถึงแม้จะประสบความสำเร็จในบ็อกซ์ออฟฟิศ แต่ก็โดนวิจารณ์หนักยับเยิน ซึ่งเจ้าตัวเผยอยากย้อนอดีต เพราะควรเชื่อเพื่อนตั้งแต่แรก แต่ที่เธอรับเล่นก็เพื่อแฟนๆเท่านั้น
“ฉันแบบ ‘โอ้ ไม่นะ พวกคุณมาที่นี่ก็เพราะฉัน และฉันเล่นก็เพราะพวกคุณ เดี๋ยวก่อนนะ ใครเป็นคนตัดสินว่าหนังเรื่องนี้มันเป็นหนังที่ดีเหรอ? ( ฉันเสียใจ ) เรื่อง Passengers อเดล เคยบอกฉันว่าอย่าเล่นนะ! เธอบอกว่า ‘พวกหนังอวกาศตอนนี้มันเป็นเหมือนหนังแวมไพร์ยุคใหม่’ ฉันควรรับฟังเธอจริงๆ!”
เธอยอมรับอีกด้วยว่าเธอได้สูญเสียการควบคุมไป เพราะความสำเร็จที่ได้จาก Hunger Games เพราะชื่อเสียงและความสำเร็จ ทำให้คนเข้ามามีส่วนในการตัดสินใจเกี่ยวกับอาชีพของเธอมากขึ้น
"ฉันว่าฉันสูญเสียการควบคุมไป ช่วงที่ The Hunger Games ออกมา และฉันก็ชนะรางวัลออสการ์ ( จากภาพยนตร์ Silver Lining Playbook 2012 ) ฉันก็กลายมาเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ทุกๆการตัดสินใจมันคือเรื่องใหญ่ และการตัดสินใจมันเป็นเรื่องของคนกลุ่มใหญ"
"พอฉันกลับมาคิดๆดูตอนนี้ ฉันไม่อยากคิดถึงช่วงเวลาตอนนั้นเลย เพราะว่ามันควบคุมไม่ได้เลยจริงๆ"
ตอนนี้เจ้าตัวได้กลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง ถึงขั้นระบุว่้า "มันรู้สึกเป็นส่วนตัวมากๆ หลังจากไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแล้ว"
ตอนนี้ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ นักแสดงสาวดีกรีออสการ์เป็นคุณแม่แล้ว เธอได้เข้าพิธีแต่งงานกับ คุก มาโรนีย์ เมื่อปี 2019 และมี ไซ ลูกชายวัย 9 เดือนด้วยกัน 1 คน ซึ่งเธอได้เผยด้านสตรีนิยมที่เธอรู้สึกอย่างแรงกล้า หลังจากต้องเปลี่ยนไปใช้นามสกุลสามี แม้จะสะเทือนใจแต่ก็ไม่เสียดายมากนัก เพราะเธอได้สร้างชื่อให้กับนามสกุลของเธอให้เป็นที่รู้จักแล้ว นับตั้งแต่ที่เธอได้รับการยอมรับจนมีชื่อเสียงไปทั่วโลกจากภาพยนตร์ The Hunger Games ตั้งแต่อายุได้เพียง 21 ปี
“พระเจ้า ฉันมีความเป็นเฟมินิสต์เรื่องที่ต้องเปลี่ยนนามสกุลตามสามี เพราะว่ามันคือตัวตนของฉัน มันเป็นสิ่งที่ติดตัวฉันมาตั้งแต่แรก แต่ฉันก็ไม่ได้ล้มเลิกอะไรนะ เพราะฉันได้สร้างชื่อนี้ไว้ให้กับพวกเขาแล้ว”