xs
xsm
sm
md
lg

“นุกเกอร์ กฤษกร” จากหมอลำสู่ดาวติ๊กต๊อก แม่ยกหลงกล้ามแน่น เล่าประสบการณ์คายอ้อ แค่ขยิบตาก็หลงหัวปักหัวปำแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“นุกเกอร์ กฤษกร” เผยเส้นทางชีวิตจากหมอลำอีสานสู่ดาวติ๊กต๊อก จนตอนนี้เข้าวงการขึ้นแท่นเป็นศิลปินแล้ว เล่าโซเชียลเชื่อมหมอลำกับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่ม LGBT แม่ยกในปัจจุบันไม่ได้หลงแต่หมอลำหน้าหวาน แต่หลงหมอลำกล้ามแน่นกันแล้ว ชี้เรื่องนี้มีอยู่จริง หมอลำ ก่อนทำการแสดง เจอแฟนๆ ต้องเป่าคาถามนต์เสน่ห์ให้แม่ยกรักหลง แค่ขยิบตาให้ก็หลงหัวปักหัวปำได้แล้ว

โด่งดังจากการเป็นดาวติ๊กต๊อกหมอลำ ตอนนี้ “นุกเกอร์ กฤษกร บุญมา” เป็นหมอลำอยู่คณะ อีสานนครศิลป์ และได้ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงเต็มตัวแล้วในฐานะนักร้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยนุกเกอร์ กฤษกร ได้เล่าถึงชีวิตเส้นทางกว่าจะได้มาเป็นหมอลำ สู่ดาวติ๊กต๊อก และทำไมหมอลำถึงกลายเป็นที่นิยมของผู้คนในปัจจุบัน

“ผมจบทางด้านวิทยาศาสตร์จากอุบลฯ มา ตอนนั้นร้องเพลงสตริงทั่วไปตามผับ พอเรียนจบก็มาลองสมัครที่หมอลำเลย เราอยากเป็นนักร้อง แต่เขาให้มาเป็นแดนเซอร์ก่อน ตอนนั้นที่มาสมัครก็ไม่ได้ชอบหมอลำเลย แค่อยากมาสมัครเป็นนักร้อง ไม่เคยรู้จักหมอลำด้วยซ้ำ แต่เผอิญว่าใครที่มาสมัครใหม่เขาจะให้เป็นแดนเซอร์ก่อน 2 ปีแรกคือเต้น ปีที่ 3 ก็ได้เลื่อนขั้น อาจารย์ให้มาหัดรำ ถึงได้มาเป็นหมอลำ เราก็ซึมซับความเป็นหมอลำมาเรื่อยๆ เราฟังทุกวันทุกคืน และมีอาจารย์สอนเราด้วย มันเลยทำให้เรารักเราชอบหมอลำขึ้นมา

ผมชอบเล่นติ๊กต๊อกอยู่แล้ว ซึ่งมันก็เป็นช่องทางที่ทำให้คนได้รู้จักผมเยอะขึ้นมากๆ พอยอดคนดูเยอะเราก็ยิ่งกระหน่ำลงเลยในช่วงโควิด ในติ๊กต๊อกก็เริ่มมีแฟนคลับ แต่บางคนก็ไม่รู้ว่าผมเล่นหมอลำจริงๆ ผมมาเป็นที่รู้จักมากๆ ตอนอยู่เสียงอีสาน ช่วงที่เสียงอีสานปังๆ คลิปผมก็เป็นไวรัล พอเริ่มเป็นที่รู้จักมากเข้าก็เลยได้เริ่มเข้าวงการแล้วครับตอนนี้ มีซิงเกิลเป็นของตัวเองแล้ว”

คนรุ่นใหม่เชื่อมกับหมอลำเพราะติ๊กต๊อกและโลกโซเชียล ตอนนี้เป็นที่นิยมมากๆ ในกลุ่ม LGBT
คนรุ่นใหม่เขาฟังภาษาหมอลำไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว เพราะมันเป็นคำศัพท์ลาวแท้ๆ คำลาวสมัยโบราณประมาณ 10% ที่ฟังรู้เรื่อง มันยากมากเลยครับ ภาษาอีสานว่ายากแล้ว ภาษาหมอลำยิ่งกว่าอีก แต่เขาชอบลำเต้ย หมายถึงจังหวะหมอลำที่มันสนุกๆ เร้าใจ เขาจะชอบมาเต้นหน้าเวทีกัน เลยเป็นที่ชอบของคนรุ่นใหม่ที่มารู้จักหมอลำ

หมอลำมาบูมตอนช่วงโควิด เราทำการแสดงแบบกลุ่มปิด และตามติ๊กต๊อกที่เป็นคลิปสั้นๆ พอเขาชอบเขาก็มาตามจากกลุ่มปิด พอโควิดซาเจ้าภาพที่เขาชอบหมอลำ เขากระหายหมอลำ มันก็เลยมาพุ่งตอนที่โควิดหายไป เดี๋ยวนี้มีเจ้าภาพหมอลำจ้างไปตามงานต่างๆ เยอะขึ้นมาก แม้แต่ในบาร์โฮส ก็ยังมีจ้างหมอลำ อาทิตย์นึงจะมีวันนึงที่เป็นของหมอลำเลย เขาจ้างไปร้อง เราก็แสดงเป็นปกตินี่แหละครับ พี่ๆ LGBT เขาชื่นชอบกันมากจริงๆ”

เล่าแม่ยกรุ่นใหม่ไม่ได้มีแต่ชอบหมอลำหล่อหน้าหวาน แต่มีแม่ยกหมอลำโชว์กล้ามด้วย
แฟนคลับที่ติดตามผมจะเป็นกลุ่ม LGBT มากกว่า ด้วยมันเป็นสไตล์ของเราด้วย ที่เราชอบออกกำลังกาย เล่มกล้าม ชอบถอดเสื้อโชว์ว่าเราออกกำลังกายมาไง เขาก็ตามจากตรงนั้น ส่วนมากพระเอกจะเป็นสายหวาน แต่เราไม่ใช่สายหวาน ยิ้มหวานๆ หน้าเวที แบบนี้จะมีแม่ๆ ติดตามมาหน้าเวทีเยอะ ผมเป็นสายโชว์กล้าม เขาก็จะมาจากโซเชียล แล้วมาเจอกันหน้าเวที บางคนก็เจอผมหน้าเวทีแล้วปิ๊งเลย ก็มารอเราหน้าเวที”

เล่าเรื่องนี้มีอยู่จริง หมอลำ ก่อนทำการแสดง เจอแฟนๆ ต้องเป่าคาถามนต์เสน่ห์ให้แม่ยกรักหลง
“ของผมจะบูชาคาถาพุทธคุณก่อนขึ้นเวที พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ปกตินี่แหละ เป็นคำบูชาพระเฉยๆ ผมไม่ได้เล่นอะไรแบบนั้น และผมจะนับถือปู่ย่าพญานาคอยู่แล้ว ก็จะบูชาสายมูทางพญานาค ผมจะมีแค่นี้

แต่ถ้าถามในวงการหมอลำ มันก็มีครับ มันแล้วแต่คนเลย บางคนจะไปลงนะหน้าทอง สาริกาลิ้นทอง เพื่อเพิ่มมนต์เสน่ห์ให้ตัวเอง มันมีหลายวิธีมาก ทางหมอลำจะเรียกว่ารวมๆ ว่าคายอ้อ จะทำให้คนมาหลงในมนต์เสน่ห์ของเรา มาหลงเสียง หลงหน้าตาของเรา เป็นมนต์ให้ตัวเองมีเสน่ห์ก่อนขึ้นเวที พอขึ้นเวทีแล้วจะทำให้คนรัก คนหลง คนชอบ เป็นที่ประจักษ์ แต่ละคนก็จะไม่เหมือนกัน คายอ้อของแต่ละสายก็จะไม่เหมือนกัน มีหลากหลายเลยครับ มีทั้งสายขาว สายดำ”

แนะวิธีไม่ให้ติดคายอ้อ ก่อนดูหมอลำ ให้มองเท้าก่อนมองหน้า อันนี้คือเรื่องจริง
“มีหลายแบบอยู่นะ เรื่องนี้มีอยู่แล้วครับ (บางคนบอกให้มองเท้าก่อนมองหน้า?) ก็มีส่วนครับ ส่วนมากที่เขาลงคายอ้อกันก็จะลงที่หน้า ก็มีส่วนเป็นไปได้ที่ถ้ามองเท้าก่อน อาจจะทำให้หลงน้อยลง เรื่องนี้ผมเคยได้ยินครับ เรื่องนี้มีอยู่จริงอยู่แล้ว บางคนแค่แตะมือ จับมือ มองตา ก็ทำให้หลงได้แล้ว

สำหรับผม เป็นมนต์พุทธคุณ จะเป็นทำนองว่าเห็นหน้าเราแล้วก็จะปิ๊งเลย มนต์พุทธคุณจะไม่ได้หนักถึงขั้นมารักมาหลง เป็นมนต์สำหรับการแสดงเสริมเสน่ห์หน้าเวที ทำให้คนชื่นชอบเรา จะเป็นบทไหนก็ได้ ที่เป็นบทสวดมนต์พุทธคุณ ชินบัญชร ยังได้เลย”

ให้ดีที่สุดคืออย่าไปแตะตัวหมอลำ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อบางทีแค่หมอลำขยิบตาใส่ก็ติดมนต์คายอ้อมาได้แล้ว
“แต่วิธีที่ผมอยากจะแนะนำเลยก็คือ ห้ามไปแตะตัวศิลปินหมอลำ หรือคนที่ใช้มนต์ อย่าให้เขาจับตัวเรา อย่าไปสัมผัสมือ สัมผัสตัว สัมผัสหัว สัมผัสหลัง คืออย่าไปแตะเลย แต่บางคนที่เล่นคายอ้อกหนักๆ แค่มองตา แค่เขาขยิบตาก็หลงได้แล้วก็มี บางทีมันมาแบบกะทันหันโดยที่เราไม่ทันตั้งตัวเลยก็มีนะครับ

วิธีแก้นี่ยากนะครับ ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นคือหลงหัวปักหัวปำจนทำให้มีปัญหากันก็มี เรื่องนี้ปัจจุบันยังมีอยู่จริง หลายๆ คนที่เป็นหมอลำ บางคนเล่นคายอ้อมากๆ เสียสติไปเลยก็มี เป็นการผิดของ ผิดครู ผิดคายอ้อ ไม่ใช่เฉพาะแค่หมอลำ พวกลิเก ก็มีเหมือนกัน ต้องหาหมอที่เก่งๆ มาคลายมนต์ให้

ปกติผมจะเป็นคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องลี้ลับ เรื่องที่มองไม่เห็นด้วยตา เพราะผมจบวิทยาศาสตร์เคมีมา เราอยู่กับวิทยาศาสตร์มาเยอะ เราต้องทดลองและเห็นกับตา ต้องรู้จริงเราถึงจะเชื่อ แต่พอมาอยู่ในวงการหมอลำ เราได้เห็นเรื่องพวกนี้กับตามาหลายครั้ง คือไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะมันเจอมากับตัวเอง”





























กำลังโหลดความคิดเห็น