แม้การชุมนุมทางการเมืองช่วงนี้คล้ายจะเพลาๆ ลงบ้างแล้ว แต่ความขัดแย้งทางการเมืองของคนไทยราวกับเริ่มโยนถังน้ำมันใส่บ่อเพลิงเติมพะเนียงไฟให้ร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ
เหตุการณ์ที่ ‘ลุงศักดิ์’ บุกเข้ารัวกำปั้นใส่ ‘พี่ศรี’ อาจไม่ถึงนาทีแต่มีอาฟเตอร์ช็อกอุบัติขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บัดซบที่สุดของสังคมไทยในกรณีนี้อยู่ตรงที่มีผู้คนจำนวนหนึ่งโอนเงินเข้าบัญชีให้ผู้ที่ทำร้ายร่างกายคนอื่น
จะให้พูดอย่างไรได้หากไม่ใช่บอกว่านี่เป็นการสนับสนุนให้คนไทยด้วยกันเองต่อยตีกันอย่างบ้าคลั่ง
คล้อยหลังไม่กี่วัน กลางงานแห่งสติปัญญาและการสร้างสรรค์มันสมอง เค ร้อยล้าน รุดประชิดตัวธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในบูธหนึ่งของงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ จากนั้นล็อกคอจนนักการเมืองรุ่นใหม่หัวคะมำพื้น
แน่นอนว่าทั้งโลกจริง โลกออนไลน์ มีคนไทยแบ่งแยกกันเป็นสองฝักสองฝ่ายใส่กันหนุบหนับผ่านทางปากและมือบนแป้นพิมพ์
บ้ากันไปแล้ว!
ว่าพฤติกรรมของคนก่อเหตุน่าพรั่นพรึง แต่เหล่ากองเชียร์ดูเหมือนเลือดเย็นและจิตใจชืดชากว่า อย่าว่าแต่ชาวบ้านร้านถิ่นเลยครับ ขนาดสื่อบางคนยังออกมาเชียร์เย้วๆ
อาจไม่ได้ลงมือกระทำเอง แต่การสนับสนุนในรูปแบบหนึ่งแบบใดก็ตาม คนนั้นสมควรต้องตรวจสอบจิตสำนึกตัวเองเงียบๆ ก่อน ว่าการทำร้ายคนอื่นด้วยมือเปล่าซึ่งเป็นไปได้ว่าต่อไปอาจมีอาวุธ มันเป็นพฤติกรรมอันสมควร หรือสมเพช?!?
ผู้เขียนชอบดูมวย กระนั้นกลับชิงชังมวยนอกเวทีที่ไม่มีกติกากำกับ
ยิ่งชายตัวใหญ่ไปตบป้าคนหนึ่งซึ่งเห็นต่างทางการเมือง ยิ่งเกิดความรู้สึกว่าสังคมไทยไปไกลเกือบถึงรวันดาขึ้นทุกขณะจิตแล้ว
ใครยังไม่ได้ดูหนัง Hotel Rwanda ต้องรีบไปหามาดูเร็วๆ เลยเชียวครับ
เพราะการเริ่มต้นจากความขัดแย้งทางการเมืองมันแผ่ขยายกลับกลายเป็นสงครามของคนชาติเดียวกันโดยมีความเห็นต่างสร้างให้ถนนบางสายกลายเป็นที่เรียงรายระเกระกะไปด้วยศพที่ล้มตายอย่างสยดสยอง
ผู้เขียนเชยๆ ในคอลัมน์เล็กๆ นี้ ต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบครับ