“จั๊กจั่น อคัมย์สิริ” เผยพยายามจะมีลูกในช่วงที่ผ่านมา แต่ไม่สำเร็จ เลยตัดสินใจปล่อยตามธรรมชาติ ไม่อยากเครียดแล้ว เลยขอกลับมาทำงานก่อน บอกช่วงที่ผ่านมาถึงขั้นต้องพบจิตแพทย์ เพราะเครียดมากที่ต้องคอยตอบคำถามที่ไม่เป็นความจริง ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว
กลับมารับงานละครอีกครั้งในรอบ 2 ปี สำหรับสาว “จั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข” ซึ่งบอกว่าก่อนนี้อยากพักเพราะอยากจะมีลูก แต่สุดท้ายพอไม่สำเร็จก็เลยเครียด พร้อมกับปัญหาสารพัดอย่างก่อนหน้านี้ เลยขอกลับมาทำงานก่อน เรื่องลูกปล่อยเป็นเรื่องธรรมชาติ
“ที่ผ่านมาเราพยายามแล้ว เพราะมีคนบอกว่าเราเกิดปีจอมีลูกปีเถาะจะดี ก็พยายามแล้ว แต่มันไม่สำเร็จ ก็เลยรู้สึกว่าเครียดเกินไปหรือเปล่า ก็เลยคุยกับแฟนว่าถ้าเกิดอย่างนั้นเราปล่อยธรรมชาติเลยดีกว่า ก็ถึงค่อยรีแล็กซ์ขึ้น แต่ว่าเราได้เข้าไปฝากไข่ไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแค่ว่าเรากดดันตัวเองมากเกินไป
ยังไม่มีแบบติดแล้วหลุดค่ะ เพราะว่ามันยังไม่ติดไงก็รู้สึกว่าปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า เพราะว่าสองปีที่ผ่านมาจั่นมีปัญหาเรื่องหัวเข่า ขึ้นลงบันไดไม่ปกติ แต่ตอนนี้โอเคแล้ว ก็เลยรู้สึกว่ากลับมาทำงานได้ ก็ไปตรวจสุขภาพแล้ว แข็งแรงดีค่ะ แต่เป็นเครียดไม่รู้ตัว”
เผยถึงขั้นต้องพบจิตแพทย์ เพราะเครียดไม่รู้ตัว
“ยอมรับว่าต้องเข้าไปหาจิตแพทย์ เพราะรู้สึกว่าทำไมเราต้องมาเจอเรื่องที่เราไม่ควรที่จะต้องเจอ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องจริง ทำไมเราต้องมาตอบคำถาม แล้วทำไมเราต้องออกรายการค้นหา เราต้องตีออกเหรอ เราซึ่งทำอาชีพสุจริต คือมันค่อนข้างกดดันหลายอย่าง มันเคยมีความรู้สึกที่ว่าเราไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว ทำไมเราต้องมาตอบคำถามในเรื่องที่มันไม่จริง ไม่อยากทำงานตรงนี้อีกแล้ว มันเป็นถึงขั้นนั้นเลย อันนั้นคือเป็นตอนช่วงที่มีข่าว เพราะเรารู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงทำไมเราจะต้องมาตอบ
ก็ไปพบคุณหมอทุกเดือนเลยช่วงนั้น ที่ตัดสินใจไปหาคุณหมอ เพราะว่านอนไม่หลับ จะคิดว่าทำไมอยู่ตลอด ทำไมต้องมาตอบคำถามอย่างนี้ พี่นักข่าวที่สนิทกันโทร.ไปหา จั่นไม่รับ เพราะว่าไม่อยากพูดซ้ำๆ ก็กลายเป็นเสียมารยาท เรารู้สึกว่าเราไม่ได้อยากเป็นคนแบบนี้ พอคิดได้ว่าปล่อยให้มันเป็นเรื่องของคดีความเรื่องของชั้นศาลไปดีกว่า”
บอกกำลังจะแต่งงาน แต่กลับมีข่าวเมียน้อยโผล่ ทำเครียดจัด
“มันก็เครียด ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจะแต่งงาน กำลังจะใช้ชีวิตมีความสุข แต่กลับมีข่าวว่าเป็นเมียน้อยคนอื่น ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องจริง แล้วสังคมก็เชื่อด้วย สังคมส่วนใหญ่เชื่อในโลกออนไลน์ ก็วิพากษ์กันไปต่างๆ นานา เรารู้สึกว่าทำไมต้องพูดถึงเราแบบนี้ ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องจริง แล้วก็โดนหลอกกันทั้งวงการอย่างที่รู้กันอยู่
จริงๆ จั่นก็ไม่ได้ถึงกับจะออกจากวงการ ยังอยากทำงานอยู่ แต่แค่อยากพัก ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากไปไหน เพราะไม่อยากตอบคำถามในเรื่องที่มันไม่จริง ประกอบกับเป็นช่วงโควิดและเดี๋ยวเรื่องหัวเข่าด้วย ก็เลยได้พักไป จนตอนนี้เข่ากลับมาปกติแล้ว สุขภาพใจก็โอเค”
เผยยังอยู่ในขั้นวิตกกังวล ยังไม่ถึงขั้นซึมเศร้า
“เหมือนระบายให้กับคุณหมอฟัง คุณหมอให้เราเล่าว่าเรารู้สึกอย่างไรบ้าง เราเจออะไร ทำไมเราถึงได้รู้สึกอย่างนั้น คุณหมอก็ช่วยกับความคิดเรา แรกๆ ก็มีทานยาเหมือนยาคลายเครียด ทำให้เราไม่ต้องคิดเยอะ พอจะมีน้องก็หยุดยา แต่ยังไม่ถึงขั้นซึมเศร้า แค่วิตกกังวล
จุดไหนที่ทำให้รู้สึกว่าต้องไปหาจิตแพทย์แล้ว คือเราไม่คิดว่าเราจะมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ ถ้าเกิดมันเป็นเรื่องจริง หรือว่ามีมูลความจริงฉันจะไม่ว่าเลย แต่นี่มันไม่ใช่เรื่องจริง แล้วเราต้องมาตอบ ผู้หญิงเราพอฟังว่ากลายไปเป็นเมียน้อยใคร มันเป็นเรื่องใหญ่นะ แต่ตอนนี้หายดีแล้วค่ะ คือเวลามันจะช่วยเยียวยา เพราะเราตัดสินใจได้แล้วว่าปล่อยผ่าน ก็ให้ปล่อยเรื่องราวเป็นในชั้นศาล ให้ทนายที่นิด้า (ศรันยา หวังสุขเจริญ) จัดการ คดีตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนของศาล มีความคืบหน้าเรื่อยๆ ค่ะ สงสัยอะไร ถามพี่ทนายนิด้าได้เลย ตัวจั่นไม่อยากพูดอะไรถึงเรื่องนี้ เพราะไม่รู้ว่าถ้าพูดไปจะส่งผลอะไรในชั้นศาล”
เผยแพลนมีทายาทปีหน้า
“ตอนนี้ก็ต้องถ่ายละครก่อน ทำตรงนี้ให้เต็มที่ก่อน กระบวนการผลิตช่วงนี้ก็ต้องชะลอไว้ก่อน ซึ่งสามีก็โอเคค่ะ คือต้องคลอดปีหน้าค่ะ ภายในเดือนมี.ค. ถึงจะดี แต่ตอนนี้ไม่ได้ซีเรียสแล้ว แต่ก่อนหน้านี้อาจจะซีเรียส เรารู้สึกว่าอยากที่จะรีบมี แต่ตอนนี้รู้สึกว่าถ้าเกิดเขาอยากจะมา ก็มาคือตอนนี้ไม่ดูฤกษ์แล้ว
จริงๆ สามีก็ไม่ค่อยอยากให้กลับมาถ่ายละคร เพราะด้วยบทของจั่นที่ได้รับนั้นค่อนข้างที่จะเครียด กลัวว่าจะส่งผลต่อสุขภาพ แต่ตอนนี้บทยังใสๆ ยังไม่มีใครติดต่อมาเลย บทใสๆ ติดต่อมาได้นะคะ พิธีกรก็รับได้นะคะ ละครตลกก็ทำได้เคยเล่นมาก่อน (หัวเราะ)”