“ดีเจแมน พัฒนพล” หอบเอกสารเพิ่มเติมมาพบเจ้าหน้าที่ DSI โดยนำหลักฐานเส้นทางการเงิน พร้อมชี้แจงถึงความสนิทสนมกับ “อภิรักษ์ โกฎธิ” และเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกัน รับเครียดเพราะมีผลกระทบกับงานและชีวิตคนในครอบครัว ยืนยัน “ทนายเจมส์” ไม่ได้เป็นทนายดูแลคดีนี้ให้กับตน
หลังจากเงียบหาย ให้ตัวแทน “นางพัณณ์ชยา ธนเศรษฐบวรภัค” ที่ปรึกษากฎหมายจากบริษัท บางกอก อินเวสทิเกชั่น แอนด์ รีกัล จำกัด มายื่นเอกสารขอเลื่อนนัดแทนเมื่อคราวก่อน วันนี้ (28 ต.ค.65) “ดีเจแมน พัฒนพล มินทะขิน” พร้อมด้วย “นางพัณณ์ชยา ธนเศรษฐบวรภัค” ที่ปรึกษากฎหมายจากบริษัท บางกอก อินเวสทิเกชั่น แอนด์ รีกัล จำกัด และ “นายเหรียญ เปี่ยมจันทร์” ทนายความ ได้เดินทางมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อเข้าพบ “พ.ต.อรรคริน ลัทธศักดิ์ศิริ” ผอ.ส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อยื่นหนังสือแก้ข้อกล่าวหาและเอกสารชี้แจงเพิ่มเติม และทางเจ้าหน้าพนักงานได้สอบสวนพูดคุยกับ ดีเจแมน นานกว่า 1 ชม. หลังจากเสร็จสิ้น ดีเจแมน ได้ออกมาเปิดใจก้บสื่อมวลชนว่า…
“ขอขอบคุณดีเอสไอที่ให้โอกาสได้มาชี้แจง วันนี้ได้นำเอกสารพยานหลักฐานต่างๆ รวมถึงเอกสารราชการมาชี้แจงให้กับพนักงานสอบสวนดีเอสไอทั้งหมด เป็นเอกสารที่ย้อนไปหลายปี ประมาณ 5-6 ปี มันนานมากๆ และละเอียดอ่อนมาก ที่ล่าช้าเพราะว่าเอกสารทางราชการมันต้องมีเวลาของเขา ก่อนจะนำมาได้ต้องทำเรื่องขอ ดังนั้น วันนี้เรานำมาให้ครบหมด หลังจากนี้อยู่ที่ว่าดีเอสไอกับพนักงานอัยการจะมีดุลยพินิจอย่างไร เเต่วันนี้ถือว่าเรียบร้อยหมด ไม่มีอะไรติดค้าง”
วันนี้นำเอกสารเส้นทางการเงินมาชี้แจงด้วยความบริสุทธิ์ใจ
“เอกสารทางราชการผมนำมามอบหมด เตรียมมาอย่างละเอียดมาก มอบให้พนักงานสอบสวนหมดแล้ว ผมไม่เคยไม่มาเลย มาที่นี่เองทุกครั้ง แต่ว่าอาจจะมาก่อน มีครั้งเดียวที่ให้นางพัณณ์ชยา ธนเศรษฐบวรภัค ที่ปรึกษากฎหมายมาเป็นตัวแทนให้
วันนี้ผมมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ และบริสุทธิ์ใจตลอดทุกครั้ง ถือว่าเป็นการเคลียร์และชี้แจงตัวเต็มที่ จริงๆ แล้วเราอยากเข้ามาทุกครั้งที่เขาเรียก เพราะเราก็อยากชี้แจงด้วยความบริสุทธิ์ใจ เนื่องจากที่ผ่านมามันก็นานหลายปี”
เครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น มีผลกระทบกับงานและชีวิตคนในครอบครัว
“ยอมรับว่าเครียดครับ เพราะข่าวถูกเขียนไปหลายๆ รูปแบบ ทั้งครอบครัวผมด้วย ทั้งพ่อแม่ลูก มันมีผลกระทบหมด ดังนั้น อยากแสดงความบริสุทธิ์ใจและรอดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนและอัยการให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้เคลียร์ตัวเองสักที
เรื่องคดีถือว่ากระทบกับงานของผมมากๆ เพราะสื่อมีการตีข่าวออกไป ทุกคนตกใจหมด ด้วยข้อกล่าวหาเป็นแบบนั้น แต่ความจริงแล้วเรายังเป็นผู้บริสุทธิ์ตั้งแต่วันที่กล่าวหาจนถึงวันนี้ ดังนั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่นายจ้าง เขาอาจจะขอดูก่อน มันมีผลกระทบเยอะ แต่ก็ผ่านมาแล้ว เราก็สู้และก็สู้ด้วยความเป็นจริง พิสูจน์เพื่อที่จะได้กลับมาทำมาหากินเหมือนเดิม
ส่วนในปัจจุบันนายจ้างส่วนใหญ่เป็นพี่น้องของเราเอง ผู้จัดหรืออะไร เราอยากให้เขาสบายใจ ถ้าเขาไม่สบายใจ ก็ไม่เป็นไร เราก็ทำมาหากินอย่างอื่นไป อย่างไรเราก็เข้าใจเขา เพราะมันเป็นผลกระทบในวงกว้าง หากเขาลำบากใจเราก็ไม่เป็นไร ให้เรื่องจบก่อนค่อยว่ากัน”
อธิบายกับพนักงานสอบสวนได้หมดถึงภาพที่สนิทสนมก้บ “อภิรักษ์ โกฎธิ” รวมถึงการเชื่อมโยงเส้นทางการเงินของตนและอภิรักษ์ด้วย
“ส่วนประเด็นความใกล้ชิดกับอภิรักษ์ อันนี้ต้องบอกเลยว่าเรารู้จัก แต่เราได้ชี้แจงไปหมดตามรูปภาพที่ปรากฏ เราชี้แจงด้วยเหตุผล แต่ถ้ามองดีๆ คุณอภิรักษ์ เขามีรูปถ่ายกับหลายคนมาก แต่บางทีพอเป็นเรา ส่วนใหญ่สื่อจะนำรูปเราไปลง แต่ถ้าดูดีๆ เขารู้จักหลายคน ดังนั้น ในเรื่องนี้เราสามารถอธิบายพนักงานสอบสวนได้ทั้งหมด
(พนักงานสอบสวนแจ้งถึงพฤติการณ์ว่ามีความเกี่ยวโยงในเรื่องเส้นทางการเงินกับอภิรักษ์?) ตรงนี้เป็นเรื่องในสำนวน เพราะเอกสารบางอย่างที่สื่อออกไป มันไม่ได้เป็นแบบนั้น หลายๆ อย่างขอเก็บไว้ในสำนวน ผมได้อธิบายไปหมดแล้ว สบายใจขึ้น
ยืนยัน “ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต” ไม่ได้เป็นทนายดูแลคดีนี้ให้กับตน
“ขอยืนยันว่าทนายเจมส์ไม่ได้เป็นทนายความในคดีนี้ให้ตั้งแต่ตามที่มีกระแสข่าว”
เมื่อถามถึงความกังวลใจในเรื่องคดีว่าจะถูกสั่งฟ้องหรือไม่นั้น นางพัณณ์ชยา เสริมแทน ดีเจแมนว่า…
“ในส่วนตรงนั้น จะเป็นดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนและอัยการ เราไม่อาจก้าวล่วงได้ว่าท่านจะมีดุลยพินิจอย่างไร แต่ในหลักฐานที่เราเตรียมมาชี้แจง เราก็ได้ชี้แจงในข้อเท็จจริงที่ท่านสงสัยอย่างละเอียด”
