xs
xsm
sm
md
lg

“โตโน่ ภาคิน” เปิดใจ ผมไม่ใช่วีรบุรุษ อิ่มเอมใจยอดบริจาค ไม่ยากบริหารจัดการงบบริจาค 68 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“โตโน่ ภาคิน” ดีใจว่ายน้ำข้ามโขงเพื่อระดมทุนช่วยเหลืออุปกรณ์การแพทย์ รพ.ไทย - รพ. ลาว ได้สำเร็จ ไม่ยากในการบริหารจัดการยอดบริจาคใหม่ที่ตอนนี้ทะลุเป้าไป 68 ล้านแล้ว ประชาชนสบายใจได้ มีผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดซื้อมาเป็นกรรมการตรวจสอบ มองเงินสำหรับมนุษย์แล้วเท่าไหร่ก็ไม่พอ แต่ความสุข ความสามัคคี รู้จักคำว่าเสียสละ จะทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้น

ผ่านพ้นภารกิจว่ายข้ามโขง เพื่อระดมทุนช่วยเหลืออุปกรณ์การแพทย์ รพ.ไทย - รพ. ลาว ไปได้อย่างสวยงาม พร้อมยอดบริจาคที่ไหลเข้ามาอย่างถล่มทลาย ซึ่ง “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ได้เปิดใจกับช่องวันบันเทิง ถึงวินาทีที่ถึงฝั่ง ทำภารกิจสำเร็จ มีผู้คนมายืนรอให้กำลังใจล้นหลามว่า….

“จริงๆ แล้วชื่นใจตั้งแต่เช้าแล้วครับ สำหรับผมมันเป็นวันนึงที่เราจะจดจำไปตลอดชีวิต มันไม่ใช่วันของผม มันคือวันของทุกคนครับ เรารับรู้ได้ถึงความรักความสามัคคี ความดีงาม ความมีน้ำใจที่ทุกคนรวมกันเป็นใจเดียว แล้วไม่ใช่แค่ฝั่งไทย ทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว ทั้งมารับและมาส่ง มันเหมือนกับการเอาความรักของพี่น้องชาวไทยเราเอาไปให้ทางฝั่งลาว แล้วก็รับทางฝั่งลาวเอากลับมาในตอนที่ว่ายมาถึง

ผมรู้สึกว่าผมดีใจกับทุกๆ คน ดีใจกับคุณหมอ-คุณพยาบาล ดีใจกับการท่องเที่ยว ดีใจกับพ่อแม่พี่น้องทุกคน รวมถึงพลังงานดีๆ ความรุ้สึกดีๆ ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ที่นครพนม แต่ได้ดูในถ่ายทอดสดในวันนั้น”

จากโปรเจกต์เล็กๆ กลายมาเป็นโปรเจกต์ใหญ่ ให้ความรู้สึกโลกใบนี้น่าอยู่
“ผมว่าเป็นเพราะว่าพวกเรารักกัน ผมเป็นแค่คนตัวเล็กๆ สำหรับผมนะมันไม่ใช่เป็นแค่เรื่องของผม มันมีเรื่องของความรัก ความศรัทธาที่มีต่อคนทั้งสองฝั่งรวมถึงเรื่องของแม่น้ำโขงด้วย มันเป็นเรื่องที่ผมนึกภาพไม่ออก แล้วผมก็เชื่อว่าเราไม่เคยทำแบบนี้ ผมก็นึกไม่ออกหรอกว่าตอนเริ่มงานจะเป็นยังไง ตอนว่ายจะเป็นยังไง ตอนกลับมาจะเป็นยังไง ผมเชื่อว่าเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พี่ๆ ทุกคนก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนั้น

แต่พอมันเกิดขึ้นแล้ว มันเกิดคำถามอย่างนึงที่ผมอยากถามทุกคน ถ้าความรู้สึกของคนที่มาร่วมงานเมื่อวันนั้น ความรู้สึกของทุกคนที่ดูไลฟ์สดอยู่เป็นแบบวันนั้น คิดว่าโลกน่าอยู่ไหมครับ อย่างที่บอกครับ ผมว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของผม ทุกคนมาให้ มันเป็น หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ จริงๆ ครับ โอเคบางคนขับรถมาจากนครศรีธรรมราช บางคนขับรถมาจากภาคเหนือ มารวมกันที่นครพนม

ใครมาไม่ได้ก็ดูไลฟ์สด ซึ่งผมก็เชื่อว่าคนที่ดูทางไลฟ์สดก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกดีๆ เหล่านั้น ทั้งจากฝั่งนครพนมและฝั่งท่าแขก แล้วยิ่งเราได้เห็นบุคลากรทางการแพทย์ของทั้งสองฝั่งประเทศ เขามีความสุข เขาขึ้นมาขอบคุณน้ำใจ ไม่ใช่ของผมนะ ไม่ใช่มาขอบคุณผม ผมเป็นแค่ส่วนเล็กๆ อย่างที่บอก แต่น้ำใจจากทั้งฝั่งไทย-ลาวที่มีให้กัน น่ารัก อบอุ่น ถ้าโลกของเราเป็นแบบนี้มันคงจะอยู่มากเลยครับ ดังนั้นวันที่ 22 ตุลาคม จะเป็นอีกวันที่ผมจะจดจำการให้ของทุกๆ คน และหวังว่าทุกคนที่ดูอยู่ ใครที่ได้มาร่วมงานจะมีหนึ่งวันที่มีความสุข”

ไม่ยากในการบริหารจัดการยอดบริจาคใหม่ที่ตอนนี้ทะลุเป้าไป 68 ล้านแล้ว
“สำหรับผมไม่ยากเลย ในความคิดผมนะครับ เพราะว่าเราไม่ได้มอบเป็นเงิน แล้วต้องมานั่งคอยถามว่าเอาไปทำอะไร เราให้เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ ดังนั้นก็มีการพูดคุยกับ ผอ. ทั้งโรงพยาบาลนครพนม แล้วก็กับของท่าแขกแล้วครับ ท่านก็บอกกับผมมาว่าคงต้องเปลี่ยนลิสต์ (เพิ่มจำนวนหรือเพิ่มที่ราคาสูงขึ้น?) ใช่ครับ บางจำนวนที่เล็กลง เช่น บางอันเป็นหลักหมื่นอาจจะไม่เอา อาจจะเอาเป็นตัวใหญ่ๆ ไปเลย”

ประชาชนสบายใจได้ บริหารเงินบริจาคด้วยความโปร่งใส มีผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดซื้อมาเป็นกรรมการตรวจสอบ
“สบายใจได้ครับ เพราะเงินคนที่จัดการคือ มูลนิธิเทใจ ทุกอย่างเรามีใบและเราต้องได้ราคาที่เป็นธรรมที่สุด (มีผู้เชี่ยวชาญมาเป็นคณะกรรมการด้วย?) ใช่ครับ อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้ทำเพื่อตัวเราเอง คนที่ได้ประโยชน์ที่สุดต้องเป็นคุณหมอ-คุณพยาบาลของทั้งสองฝั่ง เดี๋ยวเราต้องดูว่าลิสต์ใหม่ของทั้งสองฝั่งมีอะไรบ้าง แล้วดูว่าเราช่วยได้ตามความเหมาะสมขนาดไหนของสองที่ครับ แต่ทั้งหมดทั้งมวลผมอยากให้ทุกคนรู้ไปพร้อมกัน ไม่ได้อยากว่า โอเค เรารับเงินมาแล้ว แล้วก็จบอยู่แค่นั้น

ผมตั้งใจนะว่าจะต้องบอกด้วยว่า ลิสต์ใหม่ที่คุณหมอขอมามีอะไรบ้าง เหมือนกับที่ก่อนหน้านี้ผมก็ลงไปแล้วว่าใน 17 ล้านที่เขาอยากได้มันเป็นเงินประมาณเท่าไหร่ แล้วก็เป็นเครื่องอะไรบ้าง อันนี้ก็เหมือนกันครับ ไม่ต่างกัน แล้วผมก็อยากเชิญชวนทุกคนด้วย วันที่มามอบอยากให้มามอบด้วยกัน แต่เข้าใจว่ากว่าที่เราจะได้ครบคงต้องใช้เวลาเป็นเดือน แล้วมันอาจจะไม่ได้ทีเดียว เราอาจจะต้องมาหลายครั้งเหมือนกัน ผมอยากให้ทุกๆ คน ได้มาแล้วก็ได้รู้ข่าว ถ้ามาไม่ได้เดี๋ยวลงในเฟซบุ๊กเก็บรักษ์นี่แหละครับ”

รับการขาดแคลนเครื่องมือแพทย์ ไม่มีวันเพียงพอ ควรปรับเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อร่างกายจะเป็นการแก้ที่ต้นเหตุมากกว่า
“ใจผมอยากจะช่วยทุกที่ครับ แต่ถ้าถามความเห็นผมตรงๆ นะ ผมคิดว่าความลำบาก เครื่องมือแพทย์มันไม่มีวันพอหรอก มันต้องใช้เงินเยอะมากจริงๆ รวมถึงมันไม่ใช่แค่เรื่องของเครื่องมือแพทย์ ถ้าต้องปรับผมว่าคือ สภาพรอบนอก สภาพของอากาศ เรื่องของสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ ถ้าเรื่องของสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติแย่ ก็ส่งผลต่อร่างกายของเรา มันจะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุมากกว่า

แล้วก็เรื่องของ การดูแลตัวเอง ถ้าเราร่างกายแข็งแรง รู้จักดูแลรับผิดชอบตัวเอง เราก็จะเข้าโรงพยาบาลน้อยลง อันสุดท้ายคือ เรื่องของใจ ถ้าใจเราไม่ดีก็ทำให้ข้างนอกเราป่วยไปด้วย ดังนั้นหมายความว่าเราคงจะต้องช่วยกันดูทั้ง 3 เรื่องนี้ครับ”

ขอพักการว่ายน้ำสัพัก
“การว่ายน้ำผมพูดตรงๆ ว่าผมอาจจะต้องพักไปสักพักเลย ยังไม่ได้มีความคิดตรงนั้น แต่ถ้าอะไรที่ผมช่วยได้ ถ้าเป็นไปได้ผมก็จะไม่ปฎิเสธ เดี๋ยวว่ากันครับ ขอทำไปทีละอย่าง ใครทำอะไรได้ช่วยกันลงมือทำ (ความศรัทธา ความเคารพ ความเชื่อของ โตโน่ กับพญาศรีสัตตนาคราช?) ผมเอง ผมเรียนตามตรงนะครับ ผมเป็นคนที่มีเหตุมีผลมาก ผมเป็นคนเชื่อในสิ่งที่เราลงมือทำ แต่สำหรับเหตุการณ์วันที่ 22 ตุลาคม โครงการนี้ตั้งแต่ทีมงานทุกคนเหยียบมาที่นครพนม ต้องยอมรับจริงๆ ครับ ว่าเรื่องบางอย่างมันเหนือกว่าสิ่งที่เราจะนึกออก การว่ายน้ำอุปสรรคไม่ใช่แค่เรื่องของรอบเช้านะครับว่าระดับน้ำจะเป็นยังไง กระแสน้ำจะเป็นยังไง เราทำการบ้านตั้งแต่คืนก่อนว่าย สิ่งนึงที่ผมคิดหนักก่อนที่จะว่ายและนอนไม่หลับ ผมกลัวว่าฝนจะตก ไม่ว่าจะเป็นผู้มีประสบการณ์ที่ดูอากาศมา พวกเราทุกคนเวลาจะทำอะไรจะมีการวางแผน ก็มี 90 เปอร์เซ็นต์ที่เรารู้ว่าฝนจะมาแน่ เพียงแค่ว่าจะมาช่วงเวลาไหน”

ถ้าไม่เชื่อเรื่องพญานาค ก็มองว่าเป็นความบังเอิญ ที่อยู่ๆ ในวันที่ตนว่ายน้ำข้ามโขง ลมก็เป็นทิศทาง
“ถ้าเราจะไม่เชื่อก็บอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญซะ เป็นเรื่องของทิศทางลมก็ได้ แต่ดูน้ำใจของคนที่มารวมกันวันนั้นสิครับ มีใครนึกภาพออกบ้างว่าจะเป็นภาพแบบนั้น ผมถึงมองว่าบางอย่างเราจะเชื่อหรือไม่เชื่อ จะเชื่อมาก เชื่อน้อย หรือคิดไม่เหมือนกันก็ตามก็ได้ แต่สิ่งนึงที่ทุกคนได้เห็นกันแล้วกับตาตัวเอง กับใจตัวเอง กับความรู้สึกของตัวเอง คือวันนั้นทีมงานทุกคน พ่อแม่พี่น้องทุกคนมาที่นครพนม รวมถึงท่าแขกแล้วก็ดูไลฟ์สดอยู่ ทุกคนอิ่มเอมใจครับ ทุกคนดีใจแล้วก็มีความสุข แล้วผมเชื่อว่าเราอยากให้มีวันแบบเมื่อวันนั้นทุกๆ วันเลยบนโลกใบนี้”

ขอบคุณทุกคนจากใจ ลั่นโลกใบนี้จะดีขึ้น ถ้าทุกคนรักกัน สามัคคีกัน และที่สำคัญถ้าช่วยกันทำ
“(ไหว้) ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ ขอบคุณทีมงานทุกทีม ทุกคนที่ซ้อมมาด้วยกัน ทุกคนมาช่วยกันทำ มาช่วยกันให้ ขอบคุณคนไทย ขอบคุณคนลาว ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมกันลงมือทำ ผมแค่เป็นคนตัวเล็กๆ ครับ เป็นแค่ตัวเชื่อมเล็กๆ ที่แค่ต้องออกมาตอบเฉยๆ เป็นยังไง รู้สึกยังไง ทำไปทำไม แต่ทุกสิ่งทุกอย้างที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะว่าพวกเราทุกคนช่วยกันลงมือทำครับ

ขอบคุณทุกคนจริงๆ โลกใบนี้มันจะดีขึ้นได้ครับ ถ้าทุกคนรักกัน สามัคคีกัน และที่สำคัญถ้าช่วยกันทำ เราอาจจะคิดไม่เหมือนกันก็ได้ ชอบไม่เหมือนกันก็ได้ รักไม่เหมือนกันก็ได้ แต่ความสำคัญของเราทุกคนคืออะไร ถ้าเป้าหมายของพวกเราเป็นเป้าหมายเดียวกัน ทำไมมันจะไม่ดีขึ้น ทำไมจะคุยกันไม่ได้ ทำไมจะรักกันไม่ได้

ดังนั้นก็ขอบคุณทุกคนจริงๆ นะครับ (ไหว้) ที่มีน้ำใจ แล้วทำให้วันที่ 22 ตุลาคม เป็นวันที่สวยงามเหลือเกินครับ และนอกจากจะช่วยกันดูแลตัวเอง ช่วยคุณหมอ-คุณพยาบาลแล้ว ถ้าช่วยกันดูแลแม่น้ำสายนี้ (แม่น้ำโขง) ที่มีทั้งความรัก ความเชื่อ ประวัติศาสตร์ ความผูกพัน ผมคิดว่าโลกใบนี้จะน่าอยู่ขึ้นครับ บางทีเราไม่ต้องรอให้มันเกิดขึ้นที่ไหนก่อนบนโลกใบนี้ แต่พวกเราทุกคนช่วยกันทำให้มันเกิดขึ้นที่นครพนมครับ”

ตนเป็นนักร้อง-นักแสดงไม่ใช่ฮีโร่ ผู้เสียสละ หรือวีรบุรุษอะไร
“ผมเป็นนักร้อง-นักแสดงครับ ผมไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านั้นเลย ที่มันดีงามได้เป็นเพราะทุกคนครับ ทุกคนช่วยกันจริงๆ ครับ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่นครพนม ที่ท่าแขก มันสวยงามเหลือเกิน ที่เราได้เห็นน้ำใจของทุกๆ คน ทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว แล้วมันจะเป็นภาพนึงที่ผมจะจำไว้ในชีวิตของผม มันเป็นเพราะทุกคนจริงๆ

วีรบุรุษ ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงครับ สำหรับผม พี่แม็กกี้ (แม็กกี้ จีรโรจน์) ก็เป็นวีรบุรุษครับ อีกไม่กี่วันเขาต้องแต่งงาน แต่เขามาเป็นพิธีกรไม่ได้รับเงินสักบาท เขามาเหนื่อยกับผม เขามาพูดตลอด ต้องเตรียมข้อมูลทุกอย่างในหัวเพื่อถ่ายทอดให้ทุกคนได้รู้ ทีมพายเรือ ต้องมาเหนื่อยสอนทีมพายอีก 3 คนที่เพิ่งมาฝึกไปพร้อมๆ กัน โดยที่ไม่ได้อะไรสักบาท เต็มที่ก็เลี้ยงข้าวเขา บางทีเขาก็ต้องออกเอง

คุณยายที่ผมไม่รู้จักชื่อ แต่พาลูกหลานมาตะโกน โตโน่ สู้ๆ สำหรับผมนั่นก็คือวีรบุรุษครับ เด็กน้อยตัวเล็กๆ ที่เดินเอาเค้กมาให้ผม แล้วบอกว่า พี่โตโน่ วันเกิดหนู ขอให้พี่ว่ายน้ำสำเร็จนะคะ สำหรับผมแล้วทุกคนคือวีรบุรุษครับ มันจะเป็นวันที่ดีแบบนั้นไม่ได้ถ้าทุกคนไม่ช่วยกัน มันไม่ใช่แค่เรื่องของยอดเงิน”

เงินสำหรับมนุษย์แล้วเท่าไหร่ก็ไม่พอ แต่ความสุข ความสามัคคี รู้จักคำว่าเสียสละ จะทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้น
เงินมนุษย์เท่าไหร่ก็ไม่พอหรอกครับ จะมาหามาเป็นร้อยล้าน พันล้าน หมื่นล้าน ความลำบาก ความยากจน ความรวย ความจน มันมีทุกวันครับ เดี๋ยวคุณก็รวยขึ้น เดี๋ยววันนึงคุณก็จนลง มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่สิ่งนึงที่ปฎิสธไม่ได้เลยคือความสุขของทุกคนที่นครพนม ท่าแขก ในวันนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ว่าคุณจะมีเงินเท่าไหร่ คุณไม่มีทางหาเจอได้ในวันที่ 22 ตุลาคมครับ ทุกคนคือสุดยอด ทุกคนคือวีรบุรุษตัวจริง ขอบคุณที่ทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ ถ้าพวกเรารักกัน พวกเราช่วยกันทำในสิ่งที่ทำได้ พวกเรารู้จักคำว่าเสียสละแบบเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม โลกใบนี้มันจะน่าอยู่ขนาดไหน ขอบคุณครับ”







กำลังโหลดความคิดเห็น