xs
xsm
sm
md
lg

“ปันปัน สุทัตตา” พอใจจอแบน ประกาศไม่ทำนม โอดเบญจเพส ป่วยปลายประสาทอักเสบ พูดไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ปันปัน สุทัตตา” เผยพอใจจอแบน ไม่ทำนม แต่งตัวง่าย แต่ยอมรับเคยถูกทักจนจิตตก แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ขอแค่อย่าบูลลี่ก็พอ เล่าป่วยปลายประสาทอักเสบ หน้าขยับไม่ได้เหมือน จัสติน บีเบอร์ แคนเซิลงานไปอื้อ

เดี๋ยวนี้เซ็กซี่จัดเต็ม สำหรับสาวร่างเล็กอย่าง “ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์” ล่าสุดออกอีเวนต์ก็ขอแซ่บนิดหน่อย โดยเจ้าตัวเผยว่าถึงจะเซ็กซี่แค่ไหน แต่ก็จะไม่ทำนม เพราะพอใจที่จอแบน แต่งตัวง่าย

“แต่งตัวให้เข้ากับเรามากกว่า เราตัวเล็ก ถ้าใส่มาปิดหมด มันก็จะดูตัน ก็เลยให้มันดูมีอะไรขึ้นนิดหนึ่ง เสื้อผ้าหน้าผมเราก็ต้องให้ความสำคัญกับตรงนี้เพราะว่าเราอยู่จุดนี้ เราออกกำลัง 5 วันต่ออาทิตย์ในช่วงเช้าแต่เล่นในห้องเลย ไม่ต้องเดินที่ยิม ตื่นปุ๊บก็ออกกำลังกายเลย ในคอนโดจะมีดัมเบล และอุปกรณ์นิดหน่อย เปิดทีวีดูแล้วทำตาม เราชินแบบนี้ตั้งแต่โควิดแล้ว เรารู้สึกว่าการที่เราเดินทางไปยิม มันทำให้ชีวิตเสียเวลา แค่เดินไปข้างล่างก็ขี้เกียจแล้ว ชอบเล่นคนเดียว คือพอตื่นขึ้นมาก็ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วก็เริ่มออกกำลังกายเลย ประมาณวันละ 30-40 นาที แล้วก็อาบน้ำออกไปทำงานได้เลย”
 
ไม่ทำนม มีแค่นี้แฮปปี้แล้ว แต่งตัวง่าย
“หมายถึงไปเติมนมใช่ไหม(หัวเราะ) มีแค่นี้คะ แฮปปี้แล้ว ไม่เติมเพราะรู้สึกว่ามันแต่งตัวง่ายและเราตัวเล็กด้วยถ้าเกิดเราใหญ่เราจะแต่งตัวยาก ถ้าใส่ชุดแบบนี้ก็จะดูอู้ เคยคิดสมัยก่อน เห็นทุกคนเขาทำกันแล้วเราต้องทำไหม แต่สุดท้าย ถ้าแต่งตัวแล้วไม่มี มันก็ดันๆ ก็ขึ้นมาอยู่นะ เราไม่ได้แบนราบไปเลย มันก็มีนิดหน่อยค่ะ การใช้ชีวิตประจำวันมันก็แต่งตัวง่าย ดูไม่โป๊ ผู้หญิงบางคนที่ดูหน้าอกใหญ่ มันก็จะดูเซ็กซี่ตลอดเวลา ใส่เสื้อยืดก็จะดูเซ็กซี่ เราแฮปปี้กับตัวเอง คนรอบข้างเคยมีถามเหมือนกัน แต่เรารู้สึกว่าถ้าคุณทำแล้วสวยคุณทำไปเถอะ แต่เรามั่นใจแบบนี้ เราโอเคแบบนี้”

เคยถูกทักจนจิตตก แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว อย่าบูลลี่ก็พอ
“มีเหมือนกัน เวลาไปแต่งตัว เขาก็จะบอกน้องห่อเหี่ยวมากเลย ก็บอกว่าไม่เป็นไรค่ะ พี่ก็หาวิธีให้ก็แล้วกัน สมัยก่อนเคยจิตตกค่ะ ตอนนี้รู้สึกว่าไม่เป็นไรหรอก แบบนี้ก็โอเค อย่าบูลลี่หนูก็แล้วกัน(หัวเราะ)”

เข้าเบญจเพส ป่วยปลายประสาทอักเสบ หน้าขยับไม่ได้ แคนเซิลงานอื้อ
อายุ 25 ก็มันเกิดเหตุการณ์เมื่อ 2-3 เดือนก่อน ป่วยประมาณหนึ่งเป็นปลายประสาทอักเสบ เหมือนอย่างที่ จัสติน บีเบอร์เป็น หน้าขยับไม่ได้ นี่ก็ยังไม่หายดีเลย เป็นแค่ครึ่งล่าง เหมือนกับพูดแล้วหน้าขยับไม่ได้ เป็นด้านขวาครึ่งล่างมันขยับไม่ค่อยได้ แต่ว่าตอนนี้หายแล้ว

มันเกิดเหตุการณ์ที่อยู่ดีๆ วันหนึ่งเราก็พูดไม่ชัด เราก็เลยดูกระจกสงสัยว่าทำไมปากเราไม่ขยับก็เลยไปโรงพยาบาล คำแรกที่คุณหมอถามเลยว่า ไปฉีดหน้ามาหรือเปล่า บอกคุณหมอว่าเราไม่ได้ฉีดหน้ามานานมากแล้ว เพราะว่าคนส่วนใหญ่ที่เป็นเพราะว่าไปฉีดหน้ามา แต่ว่าเราไม่ได้ฉีดหน้าเลย พอวินิจฉัยแล้วก็รู้ว่าเป็นปลายประสาทอักเสบ ก็รุนแรงอยู่ช่วง 2 เดือนนั้น ซึ่งก็ไม่ได้บอกใคร ที่รักษานาน เพราะว่ามันเป็นที่ปลายประสาทอักเสบ ซึ่งงานก็ต้องเลื่อนไปเลยตอนนั้นถ่ายละคร ก็ถ่ายไม่ได้เพราะว่าพูดไม่ได้กระทบงาน ต้องเลื่อนทั้งหมดเลย อย่างที่ไหนที่ต้องมีการพูดไปไม่ได้เลยเพราะว่าหนูพูดไม่ได้

ยกเลิกงานไปเยอะค่ะ อย่างซีรีส์ที่ต้องถ่าย หนูก็ขอเลื่อน และอาการแบบนี้มันต้องใช้เวลาในการรักษานาน ขอเลื่อนเลยหนึ่งเดือน ตอนกลับมาถ่ายผู้กำกับก็ช่วย ถ่ายแค่ครึ่งหน้าให้พูดไม่ต้องเยอะมาก เพราะว่ามันเห็น ถามว่าหายขาดไหม ตอนนี้ก็ถือว่ายังไม่หายมันต้องใช้เวลาต้องค่อยๆ รักษาตัวเอง ถามว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เป็นไวรัสตัวหนึ่งที่คนติด แล้วเราอะไรแบบนี้ยีนส์ตัวหนึ่งที่รับเชื้อไวรัสตัวนี้เพราะกลับจากอเมริกาปุ๊บเป็นเลย มันเป็นเชื้อที่ทุกคนเจอและอาจจะรับเข้ามาได้ถ้าร่างกายเราอ่อนแอมากๆ มันก็อาจจะกลับขึ้นมาใหม่ โอกาสหายก็มีค่ะ แต่มันต้องใช้เวลา บางคน 3 เดือน 6 เดือน ค่อยๆ รักษาไป”

ขอพรแค่สุขภาพดี มีความสุขในทุกๆ วันที่ลืมตาก็พอ
“จริงๆ เบญจเพสมีหมอดูทักเรื่องการป่วยเรื่องของเส้นประสาทแต่ทักคุณพ่อ เราก็รู้สึกว่าอย่าให้พ่อเป็นเลยเป็นได้อยากจะเป็นแทนให้ นั่นไงเรียบร้อยเลย ถามว่าไปมูเสริมดวงไหม จริงๆ เรื่องของการไหว้พระเดี๋ยวนี้เราก็ไหว้อยู่แล้วก็ไหว้ขอพรตอนนี้เลยขอแค่ให้สุขภาพดีและให้เรามีความสุขในทุกๆ วันลืมตาแล้วมีความสุขกับตัวเองมีความสุขกับงานมีความสุขกับการเรียนพ่อแม่มีความสุขคนรอบตัวรักแค่นี้พอแล้วไม่ขออะไรมาก ถามว่าจะกลับไปทำจิตอาสาแบบที่เคยทำไหม จริงๆ ก็ดีนะ เดี๋ยวนี้ก็เริ่มทำบุญมากขึ้นเริ่มศึกษาธรรมมากขึ้นหายใจเบาลง







กำลังโหลดความคิดเห็น