อีกเพียง 2 วัน แล้วที่ “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” จะปฎิบัติภารกิจว่ายน้ำข้ามโขง ในโครงการ “One Man And The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้” ระดมทุนช่วยเหลืออุปกรณ์การแพทย์ รพ.ไทย - รพ. ลาว วันที่ 22 ต.ค. นี้
ท่ามกลางกระแสดรามารายวัน ความกดดัน รวมไปถึงคนในสังคมต่างออกมาตั้งคำถาม ทำไมต้องว่ายน้ำ ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเพจ เก็บรักษ์ ได้เผยภาพ โตโน่ ภาคิน ร้องไห้ ด้วยความตื้นตัน หลังได้รับกำลังใจจากคนในพื้นที่ จ.นครพนม และ ได้ค่อยๆ ทยอยโพสต์คลิป แจกแจงเหตุผลทำไมโตโน่ต้องว่ายน้ำข้ามโขง เป็นข้อๆ ดังนี้
คำถามข้อที่ 1 จุดมุ่งหมายของการว่ายน้ำในครั้งนี้
“ผมอยากช่วยโรงพยาบาลทั้งสองฝั่ง คือนครพนมและท่าแขก ในเรื่องของการช่วยคุณหมอ คุณพยาบาลหาเครื่องมือที่เขาต้องการมากที่สุดเพราะเขาขาด แล้วอีกอย่างหนึ่งคืออยากช่วยเรื่องของจิตสำนึกในการช่วยกันดูแลแม่น้ำ โดยเริ่มจากแม่น้ำโขง
พอเราได้เห็นด้วยตาตัวเอง เราไม่รู้จะปล่อยผ่านยังไง ก็ในเมื่อผมเห็นแล้ว ผมเห็นแล้วว่าเขาขาด อย่างเตียงไอซียูเด็กที่มีแค่ 6 เตียง เตียงที่อายุมากกว่า 10 ปีขึ้นไปด้วยนะ การใช้งานเป็นแบบเก่า แต่เด็กป่วยมีวันละ 8 คน แล้วผมเห็นคุณแม่เขาอุ้มลูกรอเพื่อที่จะต่อคิวได้ใช้ ผมก็เลย..ถ้าเราช่วยเขาได้จะเพิ่มขึ้นเตียง สองเตียงก็ยังดีเนาะ”
คำถามข้อที่ 2 ทำไมต้องเป็นโรงพยาบาลนครพนม กับ โรงพยาบาลแขวงคำม่วน
“นครพนมเป็นจังหวัดที่กำลังขยาย มันมีเรื่องของการก่อสร้าง มีเรื่องของรถไฟความเร็วสูงที่จะสร้างที่ลาวไปจีนด้วย มันมีเรื่องของแรงงานที่เข้ามาแล้วก็โรคติดต่อ ส่วนใหญ่แล้วเราจะชอบแก้ปัญหาในตอนที่มันเกิดขึ้นแล้ว แต่สิ่งที่ผมได้ไปรู้มามันมีทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว และ ผอ.บอกกับผมว่ามันกำลังจะเกิด
เดี๋ยวเครื่องมือจะไม่พอแบบมากๆ เพราะคนมันจะเยอะขึ้น ทั้งแรงงานที่เข้ามาและนักท่องเที่ยว รวมถึงคนนครพนมอยู่แล้วและจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงพี่น้องฝั่งลาวด้วย อย่างเช่น น้ำท่วมเราไปมุ่งที่น้ำท่วม PM2.5 เรามุ่งที่ PM2.5 เราตื่นตัวกับวันต่อวัน แต่สิ่งที่เราอยากจะช่วยเขาแล้วเรารู้มา มันคือเราจะช่วยแก้ได้ในปัญหาระยะยาวด้วย กับการช่วยเครื่องมือแพทย์ในครั้งนี้”
คำถามข้อ 3 เมื่อโรงพยาบาลมีอุปกรณ์ไม่เพียงพอ ทำไมถึงไม่สามารถจัดหาอุปกรณ์เหล่านั้นเองได้
“ปัญหาเหมือนกับเกือบทุกโรงพยาบาล คืองบมันไม่พอ จำนวนคนป่วยมากขึ้นทุกวัน แล้วโดยเฉพาะจังหวัดนครพนมมันไม่ได้แค่หมายถึงเรื่องของคนนครพนมนะ มันเป็นเรื่องของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกปี รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงด้วย แล้วเวลาที่เคสที่หนักของทางฝั่งลาวเขาก็ส่งมาที่โรงพยาบาลนครพนมนี่แหละ ผมว่าเกือบทุกโรงพยาบาลแหละ มีการรับบริจาคนะอยู่หลายโครงการ แต่เราคิดว่าพอเราได้ไปเห็นกับตา ผมพอจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง อาจจะทำให้เสียงของเราอาจจะไปถึงหูคนได้มากขึ้น เราหวังอย่างนั้น”
คำถามข้อที่ 4 ทำไมถึงเลือกที่จะว่ายน้ำ
“เราขาดอยู่เยอะประเทศเรา ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ โอเค ผมเห็นว่าการว่ายน้ำดึงความสนใจได้ แต่ตอนนั้นเป็นเรื่องของสัตว์มันไกลตัวคน เป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อม แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องของคนโดยตรง แล้วเราจะเชื่อมยังไงให้คนเข้าใจด้วยว่าถ้าสิ่งแวดล้อมมันแย่คุณแย่ด้วยนะ แล้วผมรู้สึกว่าการว่ายน้ำมันเกิดการตั้งคำถามมากที่สุด คอนเสิร์ตที่ผ่านมาเดือนเมษายน ‘เล่นเปลี่ยนโลก’ ไม่มีใครมาด่าผมสักคน แล้วมีคนรู้จักไหมว่าผมทำ แต่ครั้งนี้เขาขาดเยอะทั้งนครพนมและท่าแขก มันเป็นเรื่องที่ใหญ่เกินตัวผม แล้วไหนจะเรื่องระบบนิเวศน์ในแม่น้ำโขงอีกที่มันกำลังจะพัง ผมเลยคิดว่า โอเค! ผมรู้ว่าต้องโดนแหละ แต่ในการโดนนี้เราจะได้อธิบายถ้าใน 100 คน ฟังผมสักคนนึง ผมก็ดีใจแล้วครับ”
คำถามข้อที่ 5 ทำไมถึงยอมเสี่ยงว่าย ทั้งที่คนมองว่าเป็นช่วงมรสุม
“ผมก็รักชีวิตผม ผมไม่ได้คิดจะว่ายก็ว่าย เราคำนวณและวางแผนมาเป็นอย่างดีแล้วว่ามันมีความเป็นไปได้ไหม ช่วง 22 ตุลาคม เป็นช่วงปลายมรสุม เป็นช่วงนึงที่แม่น้ำโขงของนครพนมและท่าแขกสวยที่สุด เราจะได้ในเรื่องของการท่องเที่ยวด้วย แล้วกระแสน้ำจะช่วยผม มันเลยทำให้การว่ายครั้งนี้มันเหมือนกับมีแรงส่งผมด้วย เพราะจริงๆ ระยะทาง 15 กิโลเมตรผมไม่เคยว่ายมาก่อน เราคำนวณแล้วว่ามันเกิดขึ้นได้กับทีมที่เราฝึกมาด้วยกัน ตั้งแต่ ONE MAN AND THE SEA เรามั่นใจในทีมเราและเรารู้ว่าเราจะได้ไม่ต้องไปรบกวนคนอื่นๆ”
สามารถร่วมบริจาค โครงการ One Man And The River ได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 ตุลาคม 2565
ช่องทางรับบริจาค -บัญชี ธนาคารกรุงศรี สาขาถนนเพชรบุรีใหม่ 034-0-04773-2 ชื่อบัญชี: มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยฯ เพื่อโครงการเทใจ -หรือ https://taejai.com/th/d/onemanandtheriver/
