“โก้ วศิน” รับผิด ถูกช่อง 7 ลงดาบประกาศยุติสัญญา ทั้งที่กำลังจะเป็นนักแสดงอิสระในเดือนพ.ย.เหตุรายการร้องข้ามกำแพงออนแอร์ผิดพลาด โอดอยู่วงการมานาน เพิ่งเป็นประเด็นทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ ไม่โทษฝ่ายไหน แต่ยอมรับว่าน้ำตาตกใน
ออกมาเปิดใจถึงสาเหตุที่ฝั่งอดีตต้นสังกัดอย่างช่อง 7HD ตัดสินใจปล่อยจดหมายยุติสัญญาออกมาแบบกะทันหันแล้ว สำหรับพระเอกหนุ่ม “โก้ วศิน อัศวนฤนาท” ซึ่งเจ้าตัวได้มาร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์ Black Adamณ เอ็มควอเทียร์ พร้อมกับเผยว่าจริงๆ แล้วตนเซ็นสัญญากับช่องไว้ทั้งหมด 2 รอบ รวม 8 ปี และไม่ได้เพิ่งต่อสัญญาไปอย่างที่มีข่าวออกไปก่อนหน้านี้ จริงๆ สัญญาจะหมดในเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้อยู่แล้ว และตนก็ได้เข้าไปคุยกับทางผู้ใหญ่ไว้ล่วงหน้าแล้วว่าอยากที่จะออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ แต่ก็เกิดเหตุซะก่อน
“ก็จริงๆ ก่อนอื่นต้องเท้าความก่อนนิดนึงว่า คือเราจะหมดสัญญากับทางช่อง 7 ในเดือนพ.ย.ที่ใกล้จะถึงนี้อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีโอกาสได้เข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ทางช่องแล้วด้วย ว่าเราอาจจะขออนุญาตออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ หรืออะไรอย่างนี้ครับ ก็ได้คุยกัน เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็คุยกันดีเลยครับ ทางนั้นก็เข้าใจเรา ก็แฮปปี้ แล้วก็ขอบคุณทั้งผู้ใหญ่ ทั้งช่องด้วย เพราะด้วยเวลาที่ผ่านมาเราก็อยู่นานเหมือนกัน นับไม่ถูกว่ากี่ปี แต่ก็นาน แล้วก็แฮปปี้ รู้สึกอบอุ่น เขาก็ดูแลเราดี รวมถึงเราก็เหมือนได้ครอบครัวใหม่ด้วย ทั่งพี่ๆ น้องๆ นักแสดง พี่ผู้ใหญ่ในช่อง หรือทีมงานทุกคนครับ ก็รู้สึกอบอุ่นในเวลาที่ผ่านมา
แต่ถ้าจะบอกเกิดแอ็กซิเดนต์อะไร ถึงได้มีจดหมายออกมาก่อนกำหนด คือพูดอย่างนั้นก็ได้ ก็ใช่ครับ เพราะอย่างที่บอกว่าเราได้ไปคุยกับช่องแล้วก่อนหน้านี้ อาจจะขออนุญาตออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งเราจะหมดสัญญาเดือนพ.ย. เราก็เลยเหมือนว่ามีการคิดวางแผนคุยกับผู้จัดการ ออกจากที่นี่ไปเราจะวางเส้นทางของเรายังไง ซึ่งมันก็ประจวบเหมาะกับมีรายการติดต่อมาให้ไปออก”
ยอมรับตกใจ เพราะคิดว่ารายการ ร้องข้ามกำแพง จะออนแอร์ช่วงหลังหมดสัญญา
“ไม่คิดครับ เพราะว่าที่จริงทางฝั่งเราคือผู้จัดการก็ได้บอกกับทางรายการไว้แล้ว ก็เล่าสถานการณ์ว่าจริงๆ แล้วคือยังไม่หมดสัญญานะ แต่ว่าจะหมดในเดือนพ.ย.ช่วงต้นเดือน ซึ่งก็ต้องแจ้งให้เขารู้ ให้เขาทราบแต่แรกเลยว่า ถ้าจะออนแอร์ยังไงก็ต้องเป็นหลังหมดสัญญา เพราะเราไม่เคยอยากจะมีปัญหากับใครไม่ได้อยากจะมีเรื่องมีราวอะไรอยู่แล้ว ซึ่งก็รับทราบตรงกัน
ก็อาจจะเป็นความเข้าใจผิดกัน ก็เป็นไปได้ ซึ่งมันกลายเป็นว่าออนช่วงที่ผ่านมา ก็ตกใจ เพราะว่าวันนั้นเป็นวันที่ผมมีเดินสายไปโปรโมตซิงเกิ้ลของวง roof top ด้วย ซึ่งก็ตอนช่วงเวลานั้น ใกล้ๆ 1-2 ทุ่มก็ไปอยู่ที่คลื่นวิทยุ เดินสายอยู่ ซึ่งก็ไม่ได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมาก เห็นแค่แบบมีคนแท็กมาในโซเชียล ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเราเข้าใจว่าโอเคมันต้องออนหลังพ.ย.อยู่แล้ว ช่วงกลางๆ เป็นต้นไป แต่พอรู้จริงๆ ก็ตกใจ”
บอกรายการได้ขอโทษตนแล้ว
“ไม่หรอกครับ ผมไม่ได้มีความรู้สึกไม่ดีกับฝ่ายไหนเลย เรื่องนี้ อย่างที่บอกส่วนนึงเราก็ต้องขอโทษทางช่อง7 ด้วย เพราะว่ายังไงก็ตามยังอยู่ในสัญญา มันยังเหลือเวลาอยู่ไม่ว่าจะมากจะน้อยยังไง ภาพที่ออกไปมันก็ทำให้ทางช่องเขาก็ต้องออกมาทำอะไรสักอย่าง เราก็เข้าใจ
ถามว่าได้มีการท้วงติงไปทางรายการไหม ก็มีทางผู้จัดการได้ถามไป ว่าทำไม เหมือนเราคุยกันไว้อีกแบบหรือเปล่า ซึ่งเขาก็เคลียร์มา เท่าที่ผมได้ยินจากผู้จัดการ เขาก็บอกว่ามันเป็นความผิดพลาด ทางเขาก็ขอโทษมา คือเขาก็บอกก่อนออนแอร์ไม่นานเท่าไหร่ อย่างที่บอกวันนั้นผมเดินสายโปรโมตเพลงด้วย ก็เลยออกมาแนวกะทันหันนิดนึง”
บอกไม่ได้น้อยใจอดีตต้นสังกัดที่มีจดหมายออกมาแบบนั้น
“ไม่นะครับ ผมเข้าใจทุกๆ ฝ่ายว่าทางช่อง7 เขาก็ด้วยความที่เขาก็ต้องทำอะไรสักอย่างกับเหตุการณ์แบบนี้ ไม่อย่างนั้นนักแสดงคนอื่นๆ ก็จะเกิดคำถามขึ้นมาได้ ซึ่งผมก็ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรที่ไม่ดีกับทางช่อง7 เลย อย่างแรกเลยรู้สึกขอบคุณและรู้สึกดีกับเวลาที่ผ่านมาด้วยซ้ำครับ
ตอนนั้นยอมรับว่าเราไม่ได้บอกทางช่องก่อนว่าจะไปออกรายการ แต่ที่บอกก่อนหน้านี้คืออาจจะไม่ได้ต่อสัญญา อย่างที่บอกว่าก็มีคุยกับผู้จัดการว่าจะไปทำอะไรบ้างดีหลังจากนี้ หลังจากที่หมดสัญญาไป ซึ่งก็ได้ไปอธิบายกับทางช่องแล้วครับ มีโอกาสได้อธิบาย ได้พูดคุยประมาณนึง ผมก็เชื่อลึกๆ ในใจว่าความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้เป็นไปทางลบมากขนาดนั้น”
เผยเหตุการณ์นี้ทำให้ได้เห็นว่ามีคนรักตนมากขนาดไหน
“ไม่ได้ติดใจอะไรใครครับ ผมเข้าใจว่าทุกๆ ฝ่าย ทุกๆ คนเขาก็มีเหตุผลในการกระทำทุกๆ อย่าง เราก็เป็นคนที่อยู่ตรงกลางของเรื่องทั้งหมด ฉะนั้นพอมันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเราก็เข้าใจได้ จริงๆ ถ้าให้ผมมองในแง่ดีในเรื่องนี้ กลายเป็นว่าผมได้เห็นว่ามีแฟนๆ มีคนที่เขาซัปพอร์ตเรา มีคนที่เขาเป็นห่วงเราอยู่มากพอสมควรเหมือนกัน มันก็เป็นแง่ดีในมุมนึงของเรื่องนี้
ถามว่าเรื่องนี้สร้างความเสียหายให้เรามากน้อยแค่ไหน อันนี้ผมยังไม่ทราบเหมือนกันครับ เท่าที่ฟังจากทางผู้จัดการ ณ ตอนนี้ก็น่าจะยังไม่มีอะไรนะครับ เพราะอย่างที่บอกได้คุยกับทุกฝ่ายแล้ว และออกมาไปในทิศทางที่ผมเชื่อว่ามันจะดี จะเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่อีกครั้งไหมเหรอครับ จริงๆ ผมได้เคลียร์ไปประมาณนึงแล้วครับ แต่ถ้าหลังจากนี้ถ้ามีโอกาสได้เจอ หรือทางนั้นอยากพูดคุยอะไรผมก็ไม่ติดครับ ก็คุยได้”
ยอมรับเป็นฝ่ายผิดที่ทำให้เกิดเรื่องทั้งหมด
“ผมก็รู้สึกว่ามันก็มีส่วนที่เราต้องออกมาขอโทษ มันก็มีความผิดแหละ จะบอกว่าไม่มีเลยมันเป็นไปไม่ได้ เราก็เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องทั้งหมดนี้ แต่ยังไงก็ต้องขอขอบคุณทุกๆ ฝ่ายเลย ทั้งทางช่อง ทางแฟนๆ ทุกๆ คน หรือพี่ๆ นักข่าวที่เข้าใจและอุตส่าห์มาสนใจในเรื่องนี้ของผมด้วยถามว่ามันต่างจากที่คิดตอนแรกเรื่องจะต่อสัญญาหรือจะเป็นอิสระไหม จริงๆ มันก็ไม่ได้ต่างมากกับสิ่งเดิมที่คิดไว้นะครับ แต่มันกลายเป็นว่าเรื่องที่คนหันมาสนใจมากขึ้น และมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์หลายแบบ ซึ่งผมก็เข้าใจทุกๆ แบบอยู่แล้ว เข้าใจได้ครับ
ถามว่าการทำงานที่ผ่านมากับช่อง7 มีอะไรที่อึดอัดใจบ้างไหม ผมแฮปปี้อยู่แล้วครับ คือทุกคนน่าจะได้รู้ว่าผมก็อยู่กับช่องมานาน ละครเรื่องแรกในชีวิตของผมเลยก็คือของช่อง 7 HD ก็อยากจะขอบคุณอีกหลายๆ ครั้งเลย เพราะเราก็รู้สึกผูกพันกับตรงนี้ ระหว่างทางที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีอะไรที่ทำให้ผมอึดอัดนะครับ”
เผยรู้สึกโล่งขึ้นที่ได้ออกมาเคลียร์ใจแล้ว
“จริงๆ มันก็มีคนเข้าใจไปในหลายทิศทาง หลายแบบครับ ซึ่งผมจะไปบอกว่าแบบไหนผิดมันก็ไม่ได้หรอก เพราะเขาก็เข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น กับสารที่เขาได้รับในแบบนั้น ซึ่งผมก็เข้าใจถ้าเขาจะคิดแบบนั้นก็ไม่เป็นไร แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกเลยหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ที่ผมได้มาพูด วันนี้ได้ออกมาอธิบายแล้วก็โล่งครับ ก็รู้สึกดีขึ้น จริงๆ ก็รอคอยวันนี้ ตื่นเต้นมากครับ ผมอยู่ในวงการมาค่อนข้างนาน ก็เพิ่งเป็นประเด็นที่ทอล์กออฟเดอะทาวน์
ก็ได้ขอโทษผู้ใหญ่แล้ว และชี้แจงว่าเราไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้มันไปในทางที่ไม่ให้เกียรติอะไรใดๆ เลย วันนี้ผมก็ออกมาเล่าความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ทุกคนได้ทราบ ถามว่าเคว้งไหมที่เหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหันหรือมีค่ายไหนมาจีบไหม อันนี้ผมว่าทางผู้จัดการ คือก่อนหน้านี้เขาก็คงมีลองถามๆ ไว้ประมาณหนึ่งอยู่แล้ว มันก็เป็นเรื่องปกติของนักแสดงว่าถ้าสมมติหมดสัญญาแล้วเราจะทำยังไงต่อ เพื่อเป็นการวางแผนเส้นทางของการงาน”
บอกขอบคุณแฟนคลับที่คอยเป็นห่วงและให้กำลังใจตลอด
“เราก็อยากจะหาประสบการณ์อะไรใหม่ๆ จะได้ทำอะไรที่เราไม่เคยทำ ได้เจอแฟนๆ กลุ่มที่เราไม่เคยได้ไปเห็นเขา ตอนนี้ก็ใช้คำว่านักแสดงอิสระจะใช้อย่างนั้นก็ได้ครับ ตอนนี้เราก็ทำเพลง แต่งเพลง เขียนเพลงทั้งวันเลยครับ ถามว่าห่วงความรู้สึกแฟนคลับขนาดไหน ผมห่วงความรู้สึกแฟนคลับ จริงๆ ณ จุดแรกเลยที่มันเกิดขึ้นผมก็เป็นห่วงเขา เพราะว่ามีแฟนคลับที่รู้สึกช็อกและเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น คือเขาไม่ได้โทษว่า เฮ้ย ทำไมทำแบบนี้ ไม่น่ารักเลย
แต่เขาเสียใจ เหมือนเขาอยากดูละครเราต่อ อยากเห็นผลงานเราต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นกลุ่มแฟนคลับที่สนิทๆ หลังจากนั้นผมได้ไปเล่นคอนเสิร์ตแฟนๆ เขาก็ตามมาเจอก็มีการพูดคุยคร่าวๆ นิดหน่อย ก็พอดีขึ้น แต่ตอนแรกที่มาคือเขาร้องไห้ตาบวมมาเลย เขาบอกร้องไห้ทั้งคืนเลย เสียใจ (เขากลัวโก้โดนด่า?) ใช่ เขาก็เป็นห่วงเราก็ขอบคุณแฟนคลับทุกคนไม่ว่าเราจะเคยเจอกันหรือไม่เคยเจอกัน แต่ว่าผมได้รับกำลังใจจากทุกๆ คน ทุกๆ ฝ่ายเยอะมากจริงๆ แล้วมันก็ช่วยให้ผมก้าวข้ามเรื่องนี้ได้อย่างสวยงามและแข็งแรงได้จริงๆ
บอกน้ำตาตกใน มีหลายอารมณ์มากช่วงที่ผ่านมา
“ถามว่าผมเสียน้ำตากับเรื่องนี้ไหม มันอาจจะอยู่ลึกๆ ครับ (หัวเราะ) อย่าเรียกว่าน้ำตาตกในเลย ผมไม่รู้ว่าคำนั้นมันจะถูกเป๊ะๆ หรือเปล่า มันก็มีหลายอารมณ์เกิดขึ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นมันก็มีทั้งความรู้สึกงง มีทั้งช็อก ตกใจ เสียใจ มันมีหลายอย่างก็เลยไม่ได้บอกว่ามันจะไปในอารมณ์ทิศทางไหนเป็นหลัก มันอึนๆ”
ถามว่าในอนาคตจะมีโอกาสได้ร่วมงานกับช่อง 7 อีกไหม ผมเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเราก็คุยกันประมาณนึงแล้ว จากที่คนจะมองว่ามันต้องไปในทิศทางลบ แต่หลังจากที่คุยกับช่อง ผมว่ามันไม่ได้ไปในทิศทางลบขนาดนั้น มันดีกว่าที่หลายคนเห็น ซึ่งผมก็พร้อมนะครับในอนาคตถ้าทางช่อง 7 เขาอยากจะได้ผมกลับไปร่วมงาน ผมก็ยินดีครับ”