“ธัญญ่า อาร์สยาม” กล้าทำก็กล้ารับ ยอมรับโพสต์จัดหนัก “อ๊อฟ ศุภณัฐ” สร้างเฟซสำรองไว้ระเบิดความคลั่ง เมนต์แฉฝ่ายชายคบซ้อน แขวะ “มินดา” ไม่เกี่ยว ไม่รู้จะออกมาพูดทำไม แต่ถ้าอยากคบต่อก็ตามสบาย วันนี้จบ อโหสิกรรมให้ บอกความสุข 3 ปีที่ผ่านมามีมากกว่าความทุกข์ ขอบคุณที่เข้ามาทำให้รู้จักความรักเป็นอย่างดี
ต้องออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่อชี้แจงให้หายสงสัย สำหรับนักร้องลูกทุ่งสาว “ธัญญ่า อาร์สยาม” หลังจากที่ออกมาคอมเมนต์ในเพจเจ๊มอย 108 จนกลายเป็นประเด็นโยงไปต่างๆ นานา ซึ่งชาวเน็ตก็ยังคงหาอยู่ว่ามือที่ 3-4 ของอดีตแฟนหนุ่มอย่าง “อ๊อฟ ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ” คือใครกันแน่ ล่าสุดสาว ธัญญ่า เลยขอเปิดใจแบบหมดเปลือก ณ ร้านหมอก คาเฟ่ ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม
“ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. ที่หนูได้ประกาศยุติความสัมพันธ์ไปกับอดีตแฟนของหนู คือหนูก็ยังไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับพี่ๆ สื่อเลย เพราะทุกคนก็โทร.มาตลอดว่าอะไรยังไง วันนี้เป็นวันแรกที่หนูจะได้ออกมาพูดในส่วนของหนู เพราะครั้งแรกที่หนูโพสต์ไปคนก็ถล่มหนูใหญ่เลย ว่าเราไปทำจมูกมาแล้วหน้าเปลี่ยน ทิ้งผู้ชายหรือเปล่า อันนั้นเราก็เลือกที่จะเงียบไป แล้วพี่เขาก็ๆ ได้ออกมาพูดในส่วนของพี่เขา
พอเขาออกมาพูดว่าเขาตามหารอยยิ้มอะไรอย่างนี้ ก็มีการโพสต์แขวะต่างๆ นานาจากคนรอบข้างของเขา หนูก็อดทนอีกหนึ่งสเต็ปเพราะว่ามันเป็นการโพสต์ของคนรอบข้างของเขาที่เรารู้สึกว่า เฮ้ย เรื่องของเราเป็นเรื่องตลกเหรอ แค่เราโดนนอกใจ แค่เราโดนซ้ำสอง มันก็หนักมากพออยู่แล้ว แต่คุณให้คนรอบข้างมาโพสต์แขวะ โพสต์แซะ เกี่ยวกับเรื่องแฮชแท็กตามหารอยยิ้ม รอทัวร์ลง อะไรแบบนี้ค่ะมันชัดมาก แล้วหนูแคปไว้ทุกอย่าง หนูเลยรู้สึกว่าตรงนี้มันไม่ยุติธรรมกับความรู้สึกของหนู แต่หนูก็อดทนมาตลอด
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้หนูจะขอเล่าในส่วนของที่พี่เขาบอกว่าเขาได้ออกมาพูดความจริงทั้งหมดแล้ว จริงๆ มันไม่ใช่ความจริงทั้งหมดเพราะว่าพี่เขาบอกแค่ว่าแค่คุย ไม่ได้มีอะไร แล้วพี่เขาใช้คำว่ากฎเหล็ก ซึ่งเป็นกฎเหล็กของหนู แต่จริงๆ แล้วผู้หญิงเราทุกคน อาจจะเป็นแค่คำขู่ก็ได้ของคำว่ากฎเหล็ก เพราะว่าเรารักอยู่แล้ว เรารักของเรามากๆ มีครั้งที่หนึ่ง มีเหรอคะที่ผู้หญิงจะไม่ให้อภัย
วันที่ 24 ก.ค. หนูจับได้ว่าเขาไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนนึง โดยแฟนคลับของหนูเป็นคนแคปภาพหน้าจอสตอรี่ไอจีของผู้หญิงคนนั้นมาให้หนูดูทั้งหมด โดยที่หนูไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้ค้นหรือไม่ได้ไปเจอเอง แล้วเขาก็มีการขอโทษและขอโอกาส แล้วก็ได้โทร.บอกเลิกผู้หญิงคนนั้นแล้วเรียบร้อย หนูก็คิดว่าเขาเลิกกันแล้ว
แต่วันที่ 25 ก.ย. หนูได้มารู้อีกครั้งนึง คือเขาได้ไปหากันตอนตี 1 หนูเลยตัดสินใจโพสต์เฟซบุ๊กยุติความสัมพันธ์ในวันนั้น แล้วก็จบไปค่ะ แต่ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่มันเป็นปัญหาในตอนนี้ ที่หนูอยากจะออกมาชี้แจง ก็คือโพสต์ล่าสุดที่พี่เขาโพสต์ ที่เขาบอกว่าเรื่อง ป้าโอ๋ ที่ในติ๊กต๊อกที่มีคนจับมาโยงว่าเป็นผู้หญิงคนนี้หรือเปล่าที่อยู่ในติ๊กต๊อก แล้วเขาก็โพสต์ว่าใครที่อคติคิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ ตรงนี้หนูรู้สึกว่าใครที่เห็นโพสต์ก็ต้องรู้สึกว่าเป็นหนูที่ปล่อยข่าวพวกนี้
ซึ่งติ๊กต๊อกเขาสองคนเป็นคนเล่นเอง จับมือถือแขนกันเอง เล่นกันเอง แล้วที่สำคัญเขาปิดคอมเมนต์กันเอง ทำให้คนสงสัยกันเอง หนูไม่รู้เรื่องอะไรเลย หนูอยู่ในส่วนของหนูมาตลอด ก็เลยอยากจะโยนคำถามกลับไปว่า หนูผิดอะไร ณ ตรงนั้นเหรอคะ แล้วคนรอบข้างหนูทำอะไร ก็ประมาณนี้ค่ะ
ที่อยากจะออกมาพูดวันนี้ก็คือ อยากให้ยุติทุกอย่าง เพราะว่าหนูรู้สึกว่าหนูเหนื่อยมากๆ แล้วหนูอยู่เฉยๆ มาตลอด หนูไม่อยากจะออกมาพูดเรื่องอะไรแบบนี้เลย เพราะว่ามันหนักมากๆ กับการที่หนูจะต้องเข้มแข็ง หนูจะต้องทำใจ แค่หนูเห็นแชตหรืออะไร รูปภาพทุกสิ่งต่างๆ ที่หนูจะต้องเจ็บหนูก็หนักมากพออยู่แล้ว หนูไม่ได้อยากออกมาพูด แล้วหนูรักเขามาก หนูไม่อยากออกมาพูดแบบนี้ให้คนจะต้องรู้เรื่องของเขาแบบนี้เลย แต่วันนี้หนูเห็นชัดแล้วว่าเขาก็ไม่ได้รักเราแล้วจริงๆ เขาถึงกล้าโพสต์แบบนั้น หนูก็เลยต้องออกมาพูดแบบนี้ค่ะ”
บอกไม่รู้ตั้งแต่คบกันมีนอกใจกี่ครั้ง
“จริงๆ ก็ไม่เคยมีนะคะ หนูไม่รู้หรอกว่าเคยมีหรือไม่เคยมี เราอาจจะจับได้หรือไม่จับได้ แต่ที่หนูรู้ก็คือมีเรื่องการลบแชตค่ะ มีเรื่องการลบแชตมา 2 ครั้ง (คนเดือนก.ค.หรือเปล่า) คนละคนค่ะ คนที่เป็นข่าวด้วยมีมากกว่า 1 คนค่ะ คนวันที่ 24 ก.ค.กับคนที่ 25 ก.ย.คือคนเดียวกันค่ะ แต่ว่าคนที่ลบแชตนี่คนละคนค่ะ ถามว่าคนที่ลบแชตคือคนในวงการหรือเปล่า ก็ประมาณนั้นค่ะ
การที่มีคนโยงกับที่หนูแชร์สตอรี่กับที่โพสต์ที่ว่าเป็นคนใกล้ตัว ถ้าอย่างนั้นก็เป็นการเชื่อมโยงกับโพสต์ที่พี่เขาโพสต์อีกค่ะ ที่บอกว่าน้องคนสนิท วันนั้นยอมรับว่าระเบิดจริงๆ กับการที่แชร์โพสต์นั้นมา จริงๆ เราขาดกันไปแล้ว หนูก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปหึงหวงอะไรหรอก แต่เราก็เหมือนเป็นการร้องเพลงแล้วแชร์โพสต์ เพราะว่าเราก็สงสัยจริงๆ เพราะเราเคยมีปัญหากันเรื่องผู้หญิงคนนี้ เราเคยเห็นการลบแชตตลอดในการที่คบกันมา 3 ปี เห็นลบแชตมา 2 ครั้ง เราไม่โอเคกับคนๆ นี้อยู่แล้ว”
งง ไม่รู้ “มินดา” ออกมาพูดทำไม เพราะได้เกี่ยวข้องด้วย
“ถามว่าสาเหตุที่เลิกกันเพราะคนเดือนก.ค.หรือคนในวงการคนนั้น คือเป็นคนก.ค.ค่ะ น้องสาวคนสนิทของเขาไม่ใช่มือที่สาม ไม่ใช่ต้นเหตุอยู่แล้ว เพราะว่าหนูก็ไม่ได้ไปพูดถึงเขาแต่แรก ถามว่าหนูรู้จักมือที่ 3 คนนี้หรือเปล่า ไม่รู้จักค่ะ เขาเป็นคนนอกวงการ เขายอมอยู่เงียบๆ เลยค่ะ เขาก็รู้ว่าหนูกับพี่อ๊อฟเป็นอะไรกัน อันนั้นเขายอมอยู่เงียบๆ เขาอยู่ในส่วนของเขา ซึ่งถามว่าน้องคนสนิทคนนั้นมาเกี่ยวอะไรกับหนู จริงๆ ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรนะคะ อยู่ดีๆ ก็ออกมาพูด หนูก็งงเหมือนกัน
แต่ที่หนูคอมเมนต์ว่าแฟนใหม่หน้าคุ้น คนก็เลยมีการโยง ก็เพราะมีเรื่องลบแชตนั่นแหละค่ะ แล้วอยู่ดีๆ ก็มีภาพว่าเขาไปทานข้าวด้วยกัน เราก็เลยแค่สงสัย แต่เราก็ไม่ได้ไปปรักปรำอะไรเขาเลยค่ะว่าเขาเป็นมือที่สามอะไร ยังไม่มีใครพูดอะไรเลยค่ะ ถามว่าสงสัยเขาไหม ไม่ค่ะ แต่ว่าเรื่องการลบแชต หรือเรื่องที่เรากับเขามีปัญหากันเรื่องผู้หญิงคนนี้ ตัวเขารู้ดีอยู่แล้วค่ะ หนูเชื่อว่าเขาสองคนรู้ดีอยู่แล้วค่ะว่ามีอะไรหรือไม่มีอะไร จริงๆ ตรงนี้หนูไม่ขอตอบคำถามเกี่ยวกับเขาสองคนนี้เลย เพราะหนูก็รู้ดี แต่หนูไม่พูด ตัวเขาสองคนก็รู้ความจริงดีอยู่แล้ว ถึงเขาจะพูดอะไรยังไง ตัวเขาก็รู้ความจริงดีอยู่แล้วค่ะ”
บอก “ป้า” ที่ฝ่ายชายพูดถึงคือคนที่ติดต่องานให้จริงๆ
“อันนั้นคือป้าที่เขาติดต่องานให้กัน แล้วมีคนส่งมาให้หนูดูตลอดเลย หนูก็บอกตลอดเลยค่ะว่าไม่ใช่ หนูบอกทุกคนตลอดที่ส่งมาให้หนูดู หนูบอกว่าไม่ใช่ค่ะ อันนี้คือป้าเขาค่ะ แต่ว่าเขาเล่นติ๊กต๊อกแล้วปิดคอมเมนต์กันเอง แล้วอยู่ๆ ขึ้นโพสต์มา ก็มาหาว่าหนูอคติปล่อยข่าว หนูก็เลยงงว่าเธอจะมาโพสต์ทำร้ายเราทำไม เราอยู่ของเราเฉยๆ ถามว่าคุยกับเขาไหม ไม่ค่ะ”
บอกตอนที่คบกัน “มินดา” ไม่ได้มีบทบาทอะไร แต่มีการลบแชตจริง
“ก็ไม่มีบทบาทอะไรนะคะ จริงๆ เรื่องลบแชตมีประมาณตั้งแต่ปี 2564 ปี 2565 ประมาณ 2 ครั้งค่ะ หนูมีขอดูจริงด้วย เขาก็ให้ดูค่ะ แต่ไม่รู้นะ มันก็บอกไม่ถูก มันก็สามารถลบหรืออะไรได้ อันนี้ไม่รู้นะคะ เหตุผลที่ขอดูก็เพื่อความบริสุทธิ์ใจค่ะ เพราะคนของเราลบ ที่รู้เพราะเราเห็นค่ะ เพราะแชตมันขาด เราก็สงสัยอยู่แล้ว มันเป็นปกติของแฟน
แล้วกฎเหล็กของพี่เขา อย่างที่พี่เขาบอกเลยค่ะ พี่เขาจะไม่ให้หนูค้นโทรศัพท์ แต่พี่เขามีรหัสเฟซบุ๊ก รหัสแฟนเพจของหนูหมดทุกอย่าง หนูบริสุทธิ์ใจหมดเลยค่ะ ถามว่าตอนที่คบกันมินดาไม่ได้มีส่วนทำให้ความสัมพันธ์เราแย่ลงใช่ไหม ไม่มีค่ะ มีแค่เรื่องลบแชตแค่นั้นค่ะ หนูก็งงเหมือนกันว่าเขาออกมาพูดทำไม (เหมือนร้อนตัวหรือเปล่า) หนูไม่ได้ว่านะคะ”
ยอมรับเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “ดากเป็ด เป็ดน้อย” เป็นของตนเอง ไม่ใช่แอ็กหลุม
“ใช่ค่ะ อย่าเรียกว่าแอ็กหลุมเลยค่ะ เพราะว่ารูปโปรไฟล์ก็คือรูปหนูเอง (หัวเราะ) เพราะจริงๆ เรื่องที่น้องดากเป็ดพูดก็คือเป็นเรื่องที่หนูกำลังพูดกับพี่ๆ อยู่ทั้งหมดเลยค่ะ เป็นเรื่องจริงทั้งหมด คือมันเป็นเฟซส่วนตัวที่หนูจะมีเพื่อนอยู่ประมาณไม่ถึงร้อยคน เอาไว้โพสต์ระบาย ระเบิดสมองหนูเวลาที่หนูคลั่ง (หัวเราะ) หนูก็เลยเอาแอ็กเคานต์นั้นมาคอมเมนต์ในเพจเจ๊มอย เพราะวันนั้นก็ยอมรับว่าระเบิดจริงๆ ว่า เฮ้ย จะอะไรกับเรานักหนา ก็คือคนที่เป็นมือที่สามเป็นคนนอกวงการ ไม่ใช่คนในวงการค่ะ
อยากจะบอกเขาไหมเหรอ ก็ตามสบายเลยค่ะ เพราะก็เห็นอยู่แล้วว่าสถานการณ์ ณ ตอนนี้มันแย่ขนาดไหน และหนูโดนทำอะไรบ้าง ก็ถ้าเกิดสบายใจที่อยากจะคบกันหรืออยากจะเริ่มต้นใหม่หรืออะไรยังไงกันก็แล้วแต่เลยค่ะ หนูหลุดพ้นจากตรงนั้นแล้ว และหนูก็ต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ในส่วนของหนู หนูมีหน้าใหม่ มีจมูกใหม่แล้วเรียบร้อยค่ะ (หัวเราะ)”
เผยมีคนเข้ามาคุย แต่ยังไม่พร้อมมีแฟน
“หนูก็มีคนเข้ามาคุยเป็นเพื่อนประปรายเลย แต่เรายังไม่พร้อมที่จะเป็นแฟน เราตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง เพราะสภาพจิตใจเราค่อนข้างที่จะยังแย่อยู่ ถามว่ามูฟออนได้ไหม ได้นะคะ เพราะว่าต้องมูฟเลย ลบทุกสิ่ง บอกตัวเองว่าไปต่อ ตอนนี้ก็บล็อกเขาหมดเลยค่ะเพราะไม่อยากเห็น
ได้เคลียร์กับพี่อ๊อฟไหม ก็ไม่เคลียร์ค่ะ เลือกที่จะออกมาพูดวันนี้วันเดียวและขอให้ทุกอย่างจบเลย ที่เห็นช่วงแรกเขายังใช้โปรไฟล์ที่เป็นรูปคู่อยู่ ถามว่าเพราะยังมีเยื่อใยหรือเปล่า วันนี้เชื่อว่าไม่มีแล้วค่ะ ไม่มีรูปนั้นแล้วค่ะ เพราะว่าดูโกรธมากที่เฟซดากเป็ดไปคอมเมนต์แบบนั้น ดูรับไม่ได้ค่ะ ส่วนของขวัญที่เขาให้ยังเก็บไว้อยู่ค่ะ ไดร์เป่าผม ตอนแรกก็ว่าจะไม่ใช้ค่ะ แต่ทีนี้มันใช้ดี ก็เลยใช้ (หัวเราะ)”
บอกขอบคุณที่เข้ามาในชีวิต พร้อมอโหสิกรรมและให้อภัยทุกอย่าง
“ก็อยากให้จบเท่านี้เลยค่ะ เรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างหนูขอบคุณพี่เขามากๆ (ยกมือไหว้) ที่เข้ามาในชีวิตหนู ความทรงจำดีๆ ที่หนูเคยได้พูดออกสื่อไปทุกอย่างมันคือความจริง และความสุขทุกสิ่งที่พี่เขาได้เข้ามามันมีความสุขมากจริงๆ ในตลอดระยะเวลา 3 ปี จริงๆ ความสุขมันมากกว่าความทุกข์ ความเจ็บปวด หรือสิ่งไม่ดีอยู่ดีนะคะ ถ้าให้หนูเทียบหรือชั่งน้ำหนัก หนูก็ยังมีความรู้สึกดีๆ ให้พี่เขา
แต่ว่าขออย่างเดียวเลยนับตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไป หนูอโหสิกรรมทุกอย่างให้กับทุกคน (ยกมือไหว้) เพราะว่าหนูเชื่อและศรัทธาในบารมีปู่กับย่า เชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อะไรที่ไม่ดีหรืออะไรที่ผิดสัจจะวาจา ท่านก็แค่คัดออก และเรามีหน้าที่อโหสิกรรม และเราเก็บแต่สิ่งดีๆ ของกันและกันไว้ดีกว่า
วันนี้คือหยุดทำร้ายซึ่งกันและกัน หรือใครจะออกมาดิ้นพรวดพราดอีกก็แล้วแต่เลย หนูขออยู่นิ่งๆ ในส่วนของหนู และทำงาน ทำหน้าที่ของหนูต่อไป เพราะว่าตอนนี้หนูก็มีความสุขกับการทำงานมากๆ สิ่งดีๆ กำลังเข้ามาหาหนูเยอะมากๆ ขอบคุณพี่เขาที่มาทำให้หนูเรียนรู้กับคำว่ารักในช่วงอายุ 22-25 คือมันเป็นการสอนคำว่ารักในทุกๆ รูปแบบจริงๆ ค่ะ กับชาวเน็ตที่ยังแซะเราอยู่ ไม่เป็นไรเลยค่ะ เพราะหนูเลือกที่จะไม่อ่านแล้ว”
บอกดีที่มี “ลาล่า อาร์สยาม” และเพื่อนอยู่ด้วย ยังมีร้องไห้บ้าง แต่ไม่บ่อยแล้ว
“หนูอภัยค่ะ หนูกล้าพูดได้เต็มปากว่าหนูอภัย เพราะว่าก่อนที่หนูจะมาหนูก็ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้ปู่กับย่า ไหว้องค์พ่อพระพิฆเนศแล้วว่าหนูขออโหสิ และหนูขอออกมาพูดวันนี้ในส่วนที่หนูยังไม่ได้พูด และหนูขอจบทุกอย่าง วันที่เจ็บที่สุดหนูอยู่กับพี่ลาล่า กับเพื่อนหนูอีกคนตลอดเลยค่ะ และบางครั้งพี่ล่าก็จะชี้หน้าหนูแล้วบอกว่า หยุด อย่าร้อง (หัวเราะ)ร้องไห้คนเดียวบ้างก็มี
วันนี้ก็ยังมีร้องอยู่บ้างค่ะ แต่ก็ต้องเข้มแข็งให้มากขึ้นในทุกๆ วัน จากที่หนึ่งอาทิตย์ร้องครั้ง อาจจะเป็นสองอาทิตย์ร้องครั้ง แต่เราเข้มแข็งขึ้น ใช้ชีวิตได้ในทุกๆ วัน ออกกำลังกายได้ ตื่นมาทำงานได้ ไม่ได้เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ไม่ได้ขังตัวเอง ไม่ได้ไม่กินข้าว กินน้ำเหมือนช่วงแรกๆ คือเรารู้สึกว่าเราดีขึ้นเยอะมากๆ”
ขอโทษแฟนคลับที่ต้องจบลงแบบนี้
“ก็มีอยู่ช่วง 1-2 อาทิตย์แรกที่หนูเข้าไปอ่านคอมเมนต์ในช่อง AY channel ที่เขาดรามากันเยอะๆ ที่เขาคิดถึงคู่เรา หนูเป็นคนรักแฟนคลับมากๆ หนูอ่านแล้วหนูรู้สึกว่าทำไมหนูเหมือนทิ้งพวกเขาไว้ตรงนี้จังเลย หนูก็อยากบอกพวกเขาว่าหนูขอโทษจริงๆ ที่มันต้องจบแบบนี้ แต่วันนี้ทุกคนคงได้เห็นชัดเจนแล้วว่าทุกอย่างมันเป็นยังไง ตอนแรกเราอยากจะจบกันดีๆ ด้วยซ้ำ แต่หนูก็ไม่รู้ว่าทำไมทุกสิ่งถึงต้องเดินทางมาถึงการจะต้องออกมาพูดอะไรขนาดนี้
ยืนยันว่าสิ่งที่ออกมาพูดวันนี้คือความจริง 100% ทุกอย่าง แม้กระทั่งคนที่บอกว่าแอ็กเคานต์ปลอม อาจจะคิดว่าหนูไม่กล้ายอมรับ หนูกล้าพูดหมดเลยค่ะว่าคือของหนู (ยิ้ม)และสิ่งที่หนูโพสต์ลงไปก็คือสิ่งที่หนูมาพูดให้พี่ๆ ฟังนี่แหละค่ะ”