กำลังเป็นประเด็นร้อนในติ๊กต๊อกเลยทีเดียว สำหรับกรณีที่มีผู้ใช้ติ๊กต๊อกนำคลิป “แอ๊ด คาราบาว” หรือ ยืนยง โอภากุล นักร้องเพื่อชีวิต ที่ซัดเดือดผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี ระบุว่าโดนสั่งไม่ให้คาราบาวเล่นคอนเสิร์ตที่เมืองสุพรรณฯ ลั่นมึงรู้ไหมกูเป็นใคร เรียกขึ้นมาเคลียร์กลางคอนเสิร์ต
“มึงเป็นผู้ว่าฯ มึงคิดว่ามีอำนาจเหรอ ขึ้นมาเคลียร์กันหน่อยดิ อยู่เปล่า ไม่ต้องเล่น (ให้วงหยุดเล่น) ขึ้นมาเคลียร์กันหน่อยดิ มึงรู้ไหมกูเป็นใคร กูเกิดที่นี่ กูตายที่นี่ แล้วมึงเป็นใคร ไม่ให้กูเล่นที่สุพรรณฯ คนกาญจน์ฯ ยังให้กูไปเล่นเลย ไอ้สัxว์ ส้นตีx คิดเหรอ มึงแค่เอาตัวรอด แล้วไม่คิดเหรอคนสุพรรณฯ จะเป็นยังไง เขาไม่ได้ดูคาราบาว (คนปรบมือ) มึงคิดว่ามึงเป็นผู้ว่าฯ มึงมีอำนาจเหรอ กูไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ แต่กูคือแอ๊ด คาราบาว กูไม่มีอำนาจใดๆ ทั้งสิ้น แต่กูพูดความจริง นำเสนอความจริง กูทำเพื่อชาติบ้านเมืองจริงๆ ไม่ได้เป็นข้าราชการแบบพวกมึง ที่เลียกะโปxให้ได้ตำแหน่งและรักษาตำแหน่ง เลียกะโปxไปเรื่อยรักษาตำแหน่ง ไอ้สัxว์ ไอ้เด็กเมื่อวานซืน กูเล่นไม่ได้แล้วเว้ย โมโห”
ต่อมา ก็มีอีกรายโพสต์คลิปที่เจ้าตัวใจเย็นลงแล้ว พร้อมเผยว่า ไม่ได้โกรธเกลียดผู้ว่าฯ สุพรรณฯ แค่สอน อย่าลุแก่อำนาจ
“ไม่ได้โกรธเกลียดผู้ว่าฯ โกรธเกลียดใคร แค่สอนให้น้องๆ ว่าสิ่งอะไรทำผิดพลาดไปแล้วก็แก้ไขซะ บ้านเมืองมีขื่อมีแป เข้ามาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ อย่าใช้แต่อำนาจ อย่าลุแต่อำนาจ เกรงใจชาวบ้านบ้างที่เกิดเป็นประชาชน คนจังหวัดสุพรรณฯ มาก่อนมึง ไม่ใช่มึงเป็นผู้ว่าแล้วใหญ่ คxย กูเกิดมาก่อนมึง อาบน้ำร้อนเมืองสุพรรณฯ มาก่อน กูส่งปิ่นโตให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมัยก่อน จนพี่ชายกูเป็นผู้ว่าฯ จนน้องชายกูเป็นผู้ว่าฯ แล้วมึงไอ้เด็กเมื่อวานซืนมาเป็นผู้ว่าฯ แต่ไม่ให้กูเข้าเมืองสุพรรณฯ มึงคิดยังไงวะเนี่ย แต่หลังจากนี้ไป จะอำนวยอวยพรให้มันจงเจริญต่อไป จะไม่ยึดติดกับมึงอีกต่อไปแล้ว จะสละให้มัน ปล่อยมันไปเถอะ ผมปล่อยมันไปแล้วนะครับ ผมปลดปล่อยแล้ว มีความสุขแล้ว นิพพานแล้ว”
งานนี้ยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุที่แน่ชัดว่าศึกวิวาทะเกิดขึ้นเพราะอะไรกันแน่ แต่ก่อนหน้าที่จะมีประเด็นดังกล่าว ได้มีติ๊กต๊อกรายหนึ่งโพสต์คลิปที่แอ๊ด คาราบาวร้องเพลง “หลวงพ่อคูณ” แต่แปลงเพลงตัวเองท่อนนึงว่า “ชั่วดีอยู่ในกะโหลก มาเขกโป๊กๆ จำไว้ให้ดี เข้ามาพวกรัฐมนตรี นายกฯ ตู่ตัวดี กูจะให้พร ไปนั่งอยู่ในสภา ไปให้เขาด่าจงพึงสังวร แขวนพระเป็นอุทาหรณ์ ประชาชนเดือดร้อน เขาจึงเดินขบวน”