“เกรซ กาญจน์เกล้า” เผยจับโจรได้เรียบร้อย ถูกฝากขังรอดำเนินคดีต่อไป ส่วนของได้ครบหมดทุกชิ้น ขอบคุณชาวโซเชียลที่ช่วยกันกระจายข่าว บอกตนอยากเข้าไปเห็นตอนรวบตัวคนร้ายเอง เลยวางแผนล่อซื้อกับทางตำรวจและเจ้าของร้าน แต่ตนแอบดูอยู่ห่างๆ เผยตอนนี้ต้องเพิ่มมาตรการป้องกันมากขึ้น เพราะคนในบ้านก็ขวัญเสียกันหมด
ตอนแรกก็ทำเอาหลายคนตกใจที่นางเอกสาว “เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า” โพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรมว่าถูกขโมยขึ้นบ้านกลางดึก และนำทรัพย์สินออกไปได้หลายอย่าง แต่เพียงแค่ 2 วันก็สามารถรวบตัวคนร้ายและได้ของคืนครบทุกอย่างแล้ว ซึ่งสาวเกรซแถลงเปิดใจถึงเรื่องนี้ ณ ห้องโถง อาคารออกอากาศ ช่อง 9 อสมท. บอกขอบคุณพลังโซเชียลที่ทำให้ทุกอย่างคลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว
“อัปเดตคดีก่อนแล้วกันนะคะ ตอนนี้จับตัวคนร้ายได้แล้วและของก็ได้คืนหมดแล้วค่ะ และตอนนี้ผู้ร้ายถูกฝากขังอยู่ที่ศาลเรียบร้อยแล้ว วันที่ทราบเหตุการณ์ก็คือเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว วันที่เกรซโพสต์คือวันที่รู้ และคุณแม่โทร.มาบอก ตอนนั้นเกรซอยู่ที่คอนโด ก็คือรู้เช้าวันศุกร์ โดนคืนพฤหัสบดีประมาณช่วงตี 3 ตี 4 ประมาณนั้น
คืนนั้นก็คือแกรนด์ (กรณ์ภัสสร ด้วยเศียรเกล้า) ได้ยินเสียง คือพอได้คุยกับทางตำรวจที่เขาสอบข้อมูลมา โจรก็เปิดประตูห้องแกรนด์ด้วย แกรนด์ก็เห็นเป็นเงาตะคุ่ม เลยตะโกนไปว่า ใครน่ะ แล้วโจรก็เลยหนีไป คือเขาก็ตกใจเหมือนกัน แต่ก็วิ่งตามออกไป แต่ไม่เจอค่ะ โจรหนีไปแล้ว ก็ยังคิดอยู่เหมือนกันว่าใจกล้ามากที่วิ่งตามไป แต่วันนั้นอยู่กับหมดทุกคนเลยค่ะตอนกลางคืน”
เผยนัดแนะกับทั้งตำรวจและร้านรับซื้อ เพื่อทำการล่อซื้อจับโจร
“ในสถานการณ์ตอนนั้นก็แอบตื่นเต้นนิดนึง เพราะปกติเราไม่ได้เจอเรื่องอะไรแบบนี้บ่อยๆ และตัวเองก็อยากไปดูให้เห็นกับตาด้วยว่าเป็นคนใกล้ตัวหรือเปล่า เพราะความจริงแล้วก็มีความกังวลเหมือนกันว่าไม่อยากให้เป็นคนใกล้ตัว แต่ก็มีการพูดคุยกับร้านรับซื้อว่าเราจะมีการหลอกล่อกันนะ เพราะด้วยความที่มันเป็นของร้อน ของที่โจรเอามาเป็นของร้อน และเขาปล่อยที่นั่นหมดเลย ก็เลยจัดการรวบหมดเลยและได้ของทั้งหมดกลับมาเลย
ก็มีวางแผนกับเจ้าหน้าที่และกับทางร้านรับซื้อค่ะ ว่าเราจะทำการล่อซื้อนะวันนี้ ที่ไหนอะไรยังไงก็แล้วแต่เขาสะดวก และให้สืบสวนปลอมตัวไปเป็นบุคคลธรรมดาไปอยู่แถวนั้น ก็ได้เห็นของเราหมดเลย ก็รู้สึกว่าเก่งมากๆ เรารู้ตั้งแต่วันที่เขาเข้าบ้านแล้วล่ะค่ะ เพราะประตูมันถูกง้างไว้เลย เพราะเขาวิ่งหนี และประตูบ้านก็ถูกง้างไว้หมด ทางบ้านก็เลยรู้ว่าถูกขโมยขึ้น”
กลายเป็น “นาตาชา โรมานอฟ” ไปเรียบร้อย แต่ไม่ได้เข้าไปรวบโจรเอง แค่ดูอยู่ใกล้ๆ
“ใช่ (หัวเราะ) เพราะเราอยากที่จะสืบ อยากจะรู้ และด้วยความที่เราลุยเอง บางคนอาจจะบอกว่าไม่กลัวอันตรายเหรอ ก็กลัวแหละ แต่เราไม่ได้ไปนาทีที่เขาบุกจับเลย คือเราอยู่ใกล้ตรงนั้น เรารอสแตนบายบนรถ และพอเขารวบได้แล้วเราก็เข้าไป ไม่ได้เข้าไปรวบเองค่ะ ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สืบสวนไป
สรุปว่าไม่ใช่คนใกล้ตัวค่ะ เป็นโจร 100% เท่าที่คุยกับเขาว่าทำไมถึงรู้ว่าเป็นบ้านเกรซ เขาบอกว่าเขาสืบรู้เองว่าบ้านนี้เป็นบ้านของเกรซ ซึ่งร่องรอยนอกจากประตูที่เขาเปิดทิ้งไว้ ก็มีรอยเท้าค่ะ ที่ทำให้รู้ว่าเป็นรอยเท้าของผู้ชายเลย ถามว่าที่บ้านมีระบบรักษาความปลอดภัย มีรปภ.ไหม ก็มีนะคะ แต่ก็ผ่านมาได้”
บอกตอนนี้เหลือของอีก 2-3 ชิ้นที่ยังไม่ได้คืน
“ตอนนี้คดีล่าสุดคือฝากขังโจรไว้ที่ศาลเรียบร้อยแล้วค่ะ และทางเกรซได้รับกระเป๋าและของทุกอย่างคืนหมดแล้วค่ะ เหลือเพียงบางส่วนเท่านั้นที่พยายามตามกลับมาจากร้านรับซื้อ ซึ่งที่เรารู้ว่าเป็นคนนี้ เพราะได้คุยกับร้านรับซื้อในนาทีที่เกรซตัดสินใจว่าจะประกาศลงโซเชียล ก็เลยลงมูลค่าของของตัวเองในตลาด รวมถึงลงรายละเอียดของกระเป๋า เพราะว่ามันไม่ได้เป็นรุ่นที่หาได้ทั่วไปในตอนนี้ เพราะว่าเป็นกระเป๋าที่ซื้อไว้นานแล้ว ราคามันก็จะขึ้น เราก็เลยลงไปเลยว่ารุ่นไหนอะไรยังไง สีอะไรบ้าง รวมถึงหารูปลงไปตามร้าน ก็เลยได้มาค่อนข้างเร็ว
ตอนนี้ก็ยังเหลือแบนโก้ เป็นกำไลอีก 2-3 อันค่ะที่ยังไม่ได้คืน แต่รู้แหล่งรับซื้อแล้ว ก็ต้องขอขอบคุณทุกคน ขอบคุณพลังโซเชียล สื่อมวลชนทุกคนที่ช่วยกันกระจายข่าว รวมถึงทุกกำลังใจด้วย เพราะว่ามันมีส่วนมากๆ เลยในพลังโซเชียล ในกรุ๊ปร้านรับซื้อของแบรนด์เนม อันนี้ต้องขอบคุณทุกคนเลยจริงๆ ที่เห็นแล้วช่วยกันติดตามค่ะ
ซึ่งกำไลที่ยังไม่ได้คืน เพราะทางร้านเขาบอกว่ารับซื้อไปแล้ว แต่เขาบอกจะยินดีคืนให้ แล้วตามของกลับมาให้ได้ทั้งหมดเลย เพราะในกลุ่มของคนขายของแบรนด์เนม เขาก็เหมือนจะรู้กัน มีเครือข่ายกันเป็นระบบอยู่แล้ว เขาสามารถที่จะคืนของ คืนเงินลูกค้า แล้วก็นำของกลับมาได้ ตรงนี้ก็โชคดี ขอบคุณทุกคนมากๆ”
บอกตอนรวบตัวไม่ได้พูดคุยกับคนร้าย เพราะไม่ได้ให้ค่า
“รู้สึกแอบมีความกลัวว่าจะเป็นคนใกล้ตัวไหม เพราะว่าเป็นผู้ชาย 2 คน เราก็ไม่ได้ถึงขั้นจะสงสัยว่าเป็นใคร แต่เราก็รู้สึกว่า เฮ้ย มันต้องเป็นคนใกล้ตัวหรือเปล่าในตอนนั้น รู้สึกว่าทำไมถึงรู้ว่าวันนั้นเราไม่กลับบ้าน เพราะปกติแล้วเกรซจะแบกกลับระหว่างคอนโดกับบ้าน ก็ได้สอบถามไปทางตำรวจเหมือนกันค่ะ ก็มีสอบถามว่าที่มาที่ไปอะไรยังไง เขาก็ยอมรับ คนร้ายคนนี้เป็นคนร้ายที่มีคดีติดตัวมาอยู่แล้ว เสิร์จชื่อก็จะเจอ เป็นคดีวิ่งราวเหมือนกัน
คือนาทีที่เข้าไปรวบตัว ไม่ได้รู้สึกว่าอยากจะไปทำอะไรเขา เขาก็ได้รับในสิ่งที่เขาทำแล้วในผลตรงนั้นแล้วก็พอแล้ว ไม่ได้พูดอะไรกับเขาสักคำเลยค่ะ ไม่ได้ให้ค่าอะไร เราก็เดินไปดูของของเรา ตรวจเช็กว่าเป็นของเราจริง ไม่ได้มีของคนอื่นมาด้วยนะ โอเคในเมื่อมันเป็นของเราทั้งหมดก็จบตรงนั้น ที่เหลือเป็นกระบวนการทางกฎหมาย”
เผยคนร้ายงัดทุกห้อง และจากนี้คงต้องเพิ่งมาตรการความปลอดภัยมากขึ้น
“คิดว่าน่าจะรู้ว่าเป็นบ้านของนักแสดง เขาก็คงคิดว่าน่าจะมีทรัพย์สินที่เขาน่าจะเอาไปขายได้ เขาเช็กทุกห้องเลย คือเขาเข้าทุกห้อง เขาอาศัยช่วงที่คนในบ้านหลับสนิทช่วงตีสามตีสี่ เข้าเช็กห้องไหนมีคนเขาก็ไม่ได้เข้า เขาใช้การงัดประตู มีร่องรอยในการงัด ก็มีกล้องวงจรปิด รวมถึงของทางหมู่บ้านด้วย เหมือนทราบว่าเขาเข้ามาตอนนี้ประมาณนี้
จากนี้ก็มีมาตรการป้องกันเพิ่มเติมค่ะ แต่ความจริงเราก็มีมาตรการแน่นหนาอยู่แล้วนะคะ เพียงแต่ในเรื่องของการงัดบ้านการปีนเข้าบ้านมันเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้อยู่แล้ว หลังจากนี้ก็ต้องทำให้รัดกุมมากขึ้น ก็ต้องเก็บของมีค่าให้แน่นหนา ความจริงมันอยู่ในตู้ของเรา อยู่ในที่ปลอดภัยอยู่แล้ว เกรซว่าอันนี้มันเป็นเรื่องเจตนาของแต่ละคน มันน่าจะห้ามกันยาก ในเรื่องความปลอดภัยเราก็เต็มที่”
เผยคิดว่ายังไงก็น่าจะได้ของคืน เพราะเป็นรุ่นที่ไม่น่าจะขายได้ง่ายๆ
“ตอนแรกคิดว่ามันจะได้คืนไหมนะ แต่ใจมีความมั่นใจว่ายังไงเราต้องตามกลับคืนมาได้ เพราะมันไม่ได้เป็นของที่จะขายออกไปได้ง่ายขนาดนั้น ด้วยราคา ถ้าไม่ได้ขายตัดทุนจริงๆ มันก็จะแอบยาก เพราะว่ามันเป็นรุ่นลิมิเต็ด รุ่นพิเศษ
เอาจริงๆ ตอนที่โพสต์ก็กลัวว่าจะทำให้โจรรู้ตัวเหมือนกัน ก็ตัดสินใจนานมากว่าจะโพสต์ดีไหม เพราะถ้าโพสต์แล้วมันจะเป็นการกระโตกกระตากรู้ตัว แต่เราก็คิดว่าไม่เป็นไร ลองกระจายข่าวดีกว่า เผื่อว่าร้านที่เขารับซื้อแล้วมันจะได้เกิดการปกป้อง ป้องกันได้หลายทาง เพราะสมมติว่าถ้าตำรวจมาตามทีหลัง ทางร้านก็จะมีความผิดด้วย ก็เลยคิดในแง่ส่วนรวมว่ามันน่าจะดีกว่าในการที่เราลงสื่อบอกแจ้งให้ได้ทราบทันทีที่เรารู้ดีกว่า”
บอกขอบคุณพลังโซเชียลที่ทำให้ได้ของคืนเร็วขนาดนี้
“หลังโพสต์ไปเป็นเย็นวันนั้นเลยที่สามารถสืบได้ แล้วก็ตามจับ แต่เรื่องราวกระบวนการทางกฏหมายกว่าจะเสร็จสิ้นก็เป็นเย็นวันเสาร์ วันอาทิตย์เมื่อวานนี้เกรซเลยรวบรวมลงรายละเอียดต่างๆ ส่วนตอนไปล่อซื้อคือช่วงวันศุกร์ตอนกลางคืนค่ะ น่าจะเป็นช่วงที่เขาได้ของมาแล้วอยากจะปล่อยแล้วอะไรแบบนี้
คือเรารู้ตัวคนร้ายเร็วมาก ต้องขอบคุณพลังโซเชียลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนๆ ที่ช่วยเป็นสายกัน รวมถึงร้านรับซื้อที่แจ้งมาทางเกรซด้วย ยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจเต็มที่เลย แล้วก็ช่วยกันตามของทุกชิ้นกลับคืนมาให้ได้”
แม่ยังหวาดกลัว แต่ดีขึ้นแล้ว
“คืนวันแรกก็มีความกลัว เพราะความจริงแล้วมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอุกฉกรรจ์ และค่อนข้างอันตรายด้วย ถ้าสมมุติว่าตอนที่โดนขโมย เรายังโชคดีที่หายแค่ของ ไม่ได้มีใครเป็นอะไร ก็มีความหวาดระแวงอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้ทุกคนสภาพจิตใจดีขึ้น โอเคขึ้นแล้วค่ะ พอได้ของกลับคืน รวมถึงจับตัวคนร้ายได้แล้ว คนร้ายก็ให้ความร่วมมือกับทางตำรวจ
หลังจากนี้เป็นไปตามกฎหมายค่ะ เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมายที่จะเกิดขึ้น ตอนนี้คนร้ายถูกฝากฝังไว้ที่ศาล ถูกขังไว้ ไม่แน่ใจ 8-14 วัน ก็จะมีการขึ้นศาล แล้วก็จะมีการเรียกร้องค่าเสียหายกันอีกทีระหว่างร้านรับซื้อกับทางคนร้าย แต่ในส่วนตัวของเกรซไม่ต้องไปศาลแล้ว เพราะในส่วนของเรา เราได้รับทรัพย์สินทุกอย่างที่เป็นของเรากลับคืนมาอีกแล้ว และคนร้ายเขายอมรับทุกอย่าง สิ่งที่เขาต้องเคลียร์คือทางร้านรับซื้อที่เป็นผู้เสียหายต่อไป ก็คือตอนนี้ตัวเรากับคนร้ายเรื่องคดีก็จบแล้วค่ะ”
เผยได้ฉายาใหม่ “นาตาชา โรมานอฟ”
“(หัวเราะ) คือก็มีเพื่อนๆ หลายคนถามว่าไม่กลัวเหรอ เราก็รู้สึกว่านาทีตรงนั้นของที่มันเป็นของเราจริงๆ เราก็อยากเห็นว่ามันเกิดกระบวนการอะไรบ้าง เราอยากเห็นสิ่งที่มันเกิดขึ้น เลยรู้สึกอยากที่จะลุยเอง แต่ในขั้นตอนการรวบเกรซไม่ได้อยู่ตรงนั้น หลายๆ คนก็ส่งกำลังใจมา ส่งความเป็นห่วงมาอะไรแบบนี้ก็ขอบคุณไว้ ณ ที่นี้
มีคนบอกเหมือนกันว่าไม่ต้องเป็นนักร้องแล้ว ไปทำงานตามจับโจรดีกว่า (หัวเราะ) ไม่เป็นแล้วมั้งนักร้อง แต่ช่วงนี้โปรโมตเพลงอยู่นะคะเพื่อน จาก I don’t know ก็เป็น Know แล้วเนอะ เราก็ขำๆ เข้าเพลงไป เรียบร้อยแฮปปี้ (หัวเราะ)”