xs
xsm
sm
md
lg

“นิ้ง ชัญญา” ไม่ขอลงดีเทล เคลียร์อะไรกับ “พลอย” ยันไม่เป็นมือที่สามใคร เพราะเคารพตัวเองมากพอ! (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“นิ้ง ชัญญา” เคลียร์ปมเป็นมือที่สาม “พลอย-ทู” บอกเคลียร์ใจกันจบไปนานแล้ว พูดไปจะกระทบหลายฝ่าย เคารพตัวเองมากพอ ที่จะไม่เป็นที่สามของใคร เรื่องภาพคู่ก็ผ่านไปนานแล้ว แต่นานเท่าไหร่ขอไม่ตอบ อยากมูฟออนจากเรื่องนี้ “ทู” แค่เพื่อนไม่เคยสานต่อ ยังรักและเคารพ “พลอย” เหมือนเดิม ตอนนี้โสด กับ “ไบร์ท วชิรวิชญ์” ก็เป็นเพื่อนที่เหมือนคู่กัด



หลังเพื่อนสนิทของสาว “พลอย หอวัง”ออกมาหย่อนภาพคู่ของหนุ่ม “ทู สิราษฎร์ อินทรโชติ”และนักแสดงสาว “นิ้ง ชัญญา แม็คคลอรี่ย์”พร้อมระบุข้อความว่า “อ่ะ อักษรย่อค่ะ” ก็ทำเอาชาวเน็ตหลายคนแอบสงสัย ว่าหรือเธอคนนี้ จะเป็นหนึ่งในมือที่ 3 4 5 ที่เข้ามาในความสัมพันธ์ของ พลอย-ทู หรือเปล่า

ล่าสุดวันนี้ (5 ต.ค.) ได้เจอสาวนิ้ง ที่มาร่วมชมภาพยนตร์จักรวาลสัตว์ประหลาดเรื่องที่ 2 “The One Hundred ๑๐๐ ร้อยขา” ในฐานะนักแสดงนำ เจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อ ว่าความสัมพันธ์กับหนุ่มทู เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น เพราะเคารพตัวเองมากพอ ที่จะไม่เป็นที่สามของใคร ส่วนกับหนุ่ม “ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี” ก็เป็นเพื่อนที่เหมือนคู่กัด แค่มีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกันมาก

“ในส่วนของเรื่องนี้นะคะ นิ้งพูดได้แค่ส่วนของนิ้งเนาะ สำหรับพี่เขา พี่เขาก็ยังเป็นพี่ที่เรารักและเคารพอยู่เหมือนเดิม แล้วด้วยความบริสุทธิ์ใจ จริงๆ แล้วเราได้คุยกับพี่เขาตั้งแต่วันนั้นแล้ว แล้วเรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว แล้วมันเคลียร์ไปจบแล้ว มันก็เลยไม่มีอะไรแล้วในตอนนี้ สำหรับเรา”

เคลียร์กันเรื่องอะไร ขอไม่ลงดีเทล พูดไปจะกระทบหลายฝ่าย
นิ้งขอไม่ลงดีเทลในเรื่องนี้แล้วกันค่ะ เพราะว่าถ้าพูดไปมันกระทบหลายฝ่าย

เห็นข่าวเรื่องพลอย แต่ไม่ได้เข้าไปดู ว่ามีคนพูดถึงตัวเองยังไงบ้าง
“นิ้งยังไม่ได้ดูเลยค่ะ ว่ามันมีข้อมูลไหน หมายถึงว่าไม่ได้เข้าไปดู แต่ว่าเห็นบ้าง ว่ามันมีเรื่องนี้ ว่าพี่พลอยพูดแบบนี้ แต่ว่านี่แหละค่ะ คือเรื่องทั้งหมดเนี่ย เราได้เกิดการคุยแล้ว”

เคารพตัวเองมากพอ ที่จะไม่เป็นที่สามของใคร กับ “ทู” ไม่เคยใช้คำว่าแฟน ไม่มีการสานต่อ เป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ
“นิ้งคิดว่า…นิ้งเคารพตัวเองมากพอ ที่จะไม่เป็นที่สามของใครค่ะ แล้วก็สำหรับเรื่องของเพื่อน ก็คือมันไม่มีอะไรจริงๆ ค่ะ พอมันไม่มีอะไรแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เพราะว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ มันไม่มีการสานสัมพันธ์ต่อ มันเป็นแค่เพื่อนกัน (กับทูคือเพื่อนจริงๆ ?) ใช่ค่ะ แล้วหลังจากนั้นก็คือยังไม่ได้เจอ ยังไม่ได้คุยด้วยซ้ำ ไม่ได้รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำอะไรต่อหรือยังไง คือไม่ได้คุยเลยค่ะ ไม่เคยใช้คำว่าแฟนแน่นอนค่ะ”

แจงภาพคู่ที่นั่งอยู่บนรถด้วยกัน เป็นเรื่องที่นานมากแล้ว ได้พูดคุยอย่างบริสุทธิ์ใจไปแล้ว
“มันนานมากแล้วค่ะ เรื่องนี้มันนานมากแล้ว แล้วมันก็ผ่านมานานมากแล้ว เลยคิดว่าจริงๆ แล้วมันได้พูดคุยกันอย่างบริสุทธิ์ใจค่ะ นิ้งก็เลยคิดว่ามันไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว”

อุบตอบที่บอกว่านาน คือนานเท่าไหร่ อยากให้มูฟออนจากเรื่องนี้ได้แล้ว
“นิ้งว่านิ้งพูดไปหมดแล้วค่ะ เพราะมันผ่านมานานแล้ว และเราน่าจะมูฟออนจากเรื่องนี้ได้แล้ว อะไรแบบนี้ค่ะ”

จะหลุดจากข้อครหาหรือไม่ ก็ตอบชัดไปแล้ว ว่าไม่มีอะไร เคลียร์จบไปนานแล้ว
“นิ้งคิดว่าเมื่อกี้นิ้งตอบชัดแล้วนะ ว่ามันไม่มีอะไรค่ะ หมายถึงว่านิ้งได้เคลียร์ ได้คุย แบบสมบูรณ์ แบบบริสุทธิ์ใจกับพี่เขาแล้วค่ะ แล้วมันก็ผ่านมานานแล้ว (นานแล้วที่ว่า คือช่วงที่ทูยังคบกับพลอยอยู่ใช่ไหม?) มันผ่านมานานแล้วค่ะ”

เพิ่งรู้ “พลอย” อันฟอลโลว์ไอจีจากในข่าว ยังเป็นพี่ที่รักและเคารพอยู่ดี ไม่ว่ายังไงก็ตาม
“นิ้งเห็นจากข่าวค่ะ แต่นิ้งบอกตามตรงว่าพี่พลอย ยังเป็นพี่ที่นิ้งรักและเคารพอยู่ดีค่ะ ตอนนิ้งผ่าตัด พี่พลอยส่งผลไม้มาให้นิ้ง นิ้งเจอพี่พลอย พี่พลอยเคยให้บัตร คือพี่พลอยก็ยังเป็นพี่ที่รักและเคารพอยู่ดีค่ะ ไม่ว่ายังไงก็ตาม เราไม่ได้คุยกันค่ะ เพราะว่าจริงๆ แล้วเรื่องก็เพิ่งเกิดเมื่อวานเนาะ แล้ววันนี้นิ้งก็ทำงานทั้งวัน”

บอกเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ต้องคุยกับ “พลอย” มากกว่าสื่อ
“นิ้งว่าเรามูฟออนจากเรื่องนี้ไหมคะ เพราะนิ้งคิดว่ามันเป็นเรื่องที่นิ้งน่าจะต้องคุยกับพี่เขาค่ะ มันเป็นเรื่องที่นิ้งต้องคุยกับพี่เขามากกว่า”

จากข่าวที่เกิดขึ้น ก็ต้องผ่านมันไปให้ได้
“ถามว่าข่าวนี้มีผลกระทบต่อความรู้สึกและจิตใจยังไงบ้าง หนูว่า…มันก็น่าจะเป็นเรื่องที่เราต้องผ่านไปค่ะ หมายถึงว่า ไม่ว่าวันนี้มันจะเป็นยังไง มันก็จะเป็นเรื่องที่เราต้องผ่านมันไป แล้วก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ ไม่ว่ามันจะเป็นยังไง แต่นิ้งรู้สึกว่า ที่นิ้งคุยอย่างบริสุทธิ์ใจ หรือว่าทุกอย่างที่มันเกิดขึ้น นิ้งว่านิ้งเคลียร์มาแล้วนิ้งพยายามทำให้ดีที่สุด เท่าที่ตัวเองจะทำได้แล้วค่ะ อย่างที่บอกว่านิ้งรู้สึกว่า ด้วยความที่เราเป็นเนื้องอก แล้วแบบว่าพรุ่งนี้เราอาจจะมีสิทธิ์ ที่จะไม่ตื่นขึ้นมาได้เลย หลายๆ อย่าง เราเลยมีความรู้สึกว่า ถ้าเราซื่อสัตย์และจริงใจ มันโอเคแล้ว”

ความจริงเป็นยังไงรู้อยู่แก่ใจ เลยไม่ได้อยากบอกอะไร กับคนที่กำลังพูดถึงตัวเองในโซเชียล
“ไม่มีอะไรจะบอกค่ะ คือนิ้งว่าสุดท้ายแล้ว ความจริงเป็นยังไงเรารู้อยู่แก่ใจค่ะ ไม่ว่าเรื่องอะไร ทุกคนรู้อยู่แก่ใจ ว่าความเป็นจริงเป็นยังไง ถามว่ายืนยันได้ไหม ว่าเป็นการเข้าใจผิดเท่านั้น มีเรื่องอื่นจะอัปเดตไหมคะ”

ได้ออกมาพูดแล้วก็ดีขึ้น ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ กับ “ทู” แค่เพื่อน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
“ได้พูดแล้วก็ดีขึ้นนะคะ หมายถึงว่าแบบ เพราะเราก็ยืนยันว่าความบริสุทธิ์ใจของเราคืออะไรตรงไหน และเราพูดถึงตรงไหน นิ้งคิดว่านิ้งพูดไปครบถ้วนแล้ว ว่าเรื่องราวมันประมาณนี้ แล้วสำหรับทูคือมันเป็นแค่เพื่อนกัน มันไม่มีอะไรมากกว่านั้นจริงๆ ถามว่าได้คุยกับทูไหม หลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้นมา เราจะไม่ไปเรื่องอื่นกันจริงๆ เหรอคะ (เสียงอ่อย)”

ตอนนี้โสด ไม่ได้คุยกับใคร กับ “ไบร์ท” ก็เป็นแค่เพื่อนกัน
“นิ้งโสดค่ะ ตอนนี้นิ้งโสดค่ะ แล้วก็ไม่ได้คุยกับใครเลย ถ้าจะถามประเด็นต่อไปเลยก็คือถามต่อไปได้เลยค่ะ กับไบร์ทก็เป็นเพื่อนค่ะ”

แจงใส่เสื้อเหมือนกัน ทำกิจกรรมเหมือนกัน เพราะไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกันมาก
“อ๋อ คือจริงๆ ด้วยไลฟ์สไตล์ บอกตามตรงว่าไลฟ์สไตล์เป็นคนใกล้เคียงกันมาก ด้วยความที่เราก็เป็นคนเล่นกีฬา หรือว่าแอดเวนเจอร์ คือไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกันมาก แล้วเจอกันก็เป็นปกติค่ะ เป็นเพื่อนกัน คือวันไหนว่าง อยากไปนี่ไปนั่น พวกเราก็ชวนกันในกลุ่ม อย่างที่เห็นว่ามีพี่เต ตะวัน ไปด้วยกัน ตามที่เขามีเดย์ออฟของเขา เพราะเขาก็ทำงานทุกวัน พอวันว่างเขาก็อยากจะไปนั่นไปนี่ เราก็เห็นอยู่แล้วว่าไปด้วยกัน หลังจากนี้มันจะได้ไม่ต้องเป็นประเด็น เพราะว่ามันไม่มีอะไร หมายถึงว่าเราก็เป็นเพื่อนกันจริงๆ ค่ะ”

บอกทุกคนสบายใจได้ “ไบร์ท-วิน” คือคู่กัน แต่ “ไบร์ท-นิ้ง” คือคู่กัด
“ถ้า ‘ไบร์ท-วิน’ คือคู่กัน ‘ไบร์ท-นิ้ง’ ก็คือคู่กัดค่ะ เพราะว่าเวลาว่างก็เปิดท็อปปิกขึ้นมา แล้วก็เถียงกันแค่นั้นเลยค่ะ (แล้วเรื่องเสื้อตัวเดียวกัน?) อ๋อ…ถ้าเสื้อก็เป็นของเขาจริงๆ ค่ะ คือวันนั้นใส่ไปดูละครเวทีของ แพรวา (ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์) แล้วหนาว เขามีเสื้อในรถ เขาก็เลยเอามาให้ แค่นั้นเองค่ะ เรื่องมันเบสิกมาก”

ที่ “ไบร์ท” ใส่หมวกอาจจะต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ได้ต้องพรางตัวเพราะมาด้วยกัน
หนูว่าในส่วนของเขาน่าจะอำพรางตัวอยู่แล้ว ไม่ได้เหมือนเรา เขาอาจจะต้องการความเป็นส่วนตัวนิดหนึ่ง ก็ไม่รู้ของฝั่งเขาเหมือนกัน ถามว่าได้คุยกันไหม ว่าเรามีข่าวด้วยกัน โดยจับคู่กันจิ้นเหรอคะ หน้าเหมือนกันใช่ไหม แต่ว่าตลก คือเวลามีคนเห็นอยู่ด้วยกัน รีแอ็กทุกคนก็จะแบบ มึงสองคนหน้าเหมือนกันจริงด้วย ก็โอเค ก็เหมือนค่ะ”

ยันเป็นเพื่อนกันจริงๆ ไม่มีโอกาสพัฒนา
“แต่ว่าเป็นเพื่อนกันจริงๆ ค่ะ โอกาสพัฒนาตอนนี้ไม่มีเลยค่ะ คือด้วยความที่จริงๆ แล้ว เวลาว่างเราก็มาเจอกันด้วยซ้ำ เราไม่ได้คุยกันตลอดเวลา ไม่ได้อัปเดตกันทุกเรื่อง ว่าวันนี้ทำอะไรมา ก็คือว่าวันนี้อยากทำอะไรไหม ว่างก็มาจอยกัน ต่อยมวยไหม ก็มาจอยกัน มันง่ายๆ มากๆ ค่ะ แต่หนูอยากรู้ว่าถ้าหน้าเหมือนกัน คือไบร์ทสวยหรือหนูหล่อ หนูอยากรู้ว่ายังไงสวยหล่อ (จะมีผลงานร่วมกันไหม?) ไม่มีค่ะ ยังไม่มีงานร่วมกันนะคะ เรารู้จักกันนานแล้วค่ะ”

ไม่ได้รู้สึกอะไร กับการกลายเป็นสาวฮอตที่ถูกพูดถึงข้ามคืน เพราะคิดว่าตัวเองคือคนธรรมดา
“ก็ไม่ได้คิดว่ารู้สึกอะไร หมายถึงว่าจริงๆ แล้วเราก็รู้สึกกว่าเราเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ธรรมดามากด้วยซ้ำ เพราะเราก็เป็นเนื้องอก เป็นโรคซัมติง หนูไม่ได้รู้สึกว่าหนูเป็นอะไร

ย้ำชัดหนูโสด ถ้ามีไม่ดี ไม่มีดีกว่า ยังไม่ได้รีบเพราะชอบทำงาน
“หนูโสดค่ะ หนูขอย้ำเลยนะคะว่าโสดค่ะ คือคิดว่าถ้ามีแล้วไม่ดี ก็ไม่มีดีกว่าค่ะ เพราะดีต่อใจใครก็ชอบถูกไหมคะ แล้วถ้ามีแล้วยังไม่ดี นิ้งคิดว่าเราก็ไม่ได้รีบที่จะมี เพราะเราชอบทำงาน ชอบแสดง ชอบเล่นหนัง จริงๆ นิ้งเป็นคนบ้างานมาก ถ้าทำงานจะไม่เอาอย่างอื่นเลย”

ยังไม่มีใครแวะมาขายขนมจีบ ชอบมีความรัก แต่ถ้ามันบั่นทอนก็ไม่มีดีกว่า
“ไม่มีนะคะตอนนี้ ไม่มีเลยค่ะ ถามว่าอยากมีไหม คือจริงๆ นิ้งรู้สึกว่านิ้งชอบมีความรักนะ คือนิ้งว่าทุกคนชอบมีความรักดีกว่า ทุกคนอยากจะมีความรัก อยากฟีลเลิฟ อยากอยู่ในที่ที่รายล้อมไปด้วยผู้คนที่รักเรา ซึ่งนิ้งก็อยากมีสิ่งนั้น แต่ว่าถ้าในเรื่องของแฟนถ้ามีแล้วมันไม่ดี มันต้องมาบั่นทอนหรือต้องมาทำร้ายเรื่องอื่นอีก เลยรู้สึกว่าไม่มีดีกว่า เพราะว่าเราก็ยังมีพี่น้อง ครอบครับ แฟนๆ ที่อยู่ข้างๆ เรา นิ้งรู้สึกว่านิ้งโอเค แค่นี้นิ้งก็ชื่นชมกับสิ่งที่นิ้งได้รับมา หมายถึงว่านิ้งไม่ได้ทำอะไรให้พวกเขาด้วย แต่ว่าพวกเขาก็ยังซัปพอร์ตอยู่ นิ้งเลยรู้สึกว่านิ้งโอเคแล้วกับแค่นี้ค่ะ”

ถ้ามีแฟนก็ไม่เป็นมือที่สามใครแน่นอน
“นิ้งรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ยุ่งเหยิงและวุ่นวายเหมือนกันนะคะ เรื่องนี้ งั้นไม่มีแน่นอนค่ะ มือที่สามมันดูเหมือนหมายถึงว่าเข้าไปพัวพัน ไปยุยง แตกแยกเนาะ ซึ่งนิ้งมั่นใจว่าไม่ใช่ค่ะ (ผู้ชายที่ดีสำหรับเราต้องเป็นยังไง?) นิ้งว่ามันน่าจะเป็นเรื่องของเคมีที่รู้สึก”

ที่จะไม่เอาเลยคือผู้ชายโกหก กล้าทำก็ต้องกล้าบอก
“โกหกค่ะ หนูรู้สึกว่าซื่อสัตย์และจริงใจยังไงก็ดีที่สุด หมายถึงกล้าทำก็บอก คือเรื่องความสัมพันธ์มันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนค่ะ บางคนก็โอเคแบบนี้ ไม่โอเคแบบนี้ แต่ว่ายังไงก็ตามนิ้งรู้สึกว่า ถ้าเราซื่อสัตย์และจริงใจว่าฉันเป็นคนแบบนี้นะ เธอโอเคไหม ถ้าไม่โอเคก็แค่แยกกันไป หรือถ้าโอเคแล้ว โอเคแค่ไหน มันเป็นเรื่องของคนสองคน ซึ่งจริงๆ แล้วหนูพูดอะไรไมได้หรอก เพราะพอถึงหนูจริงๆ ก็อาจจะโอเคในเรื่องนี้ของคนนี้ ไม่โอเคเรื่องนี้ของคนนี้ก็ได้”

ที่ผ่านมายังไม่เคยผู้ชายเจ้าชู้และโกหก เพราะไม่ได้มีแฟนเยอะ โสดมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว
“เจ้าชู้และโกหก อุ้ย…ไม่เคยเจอเลยค่ะ ยังไม่เคยเจอเลยค่ะ ไม่เคยเจอผู้ชายเจ้าชู้และโกหกนะคะ หนูไม่ได้มีแฟนเยอะค่ะ ถามว่าโสดมานานหรือยัง ก็นานแล้วนะคะ ตั้งแต่ต้นปี”













กำลังโหลดความคิดเห็น