จากการจัดอันดับของ Global Health Security Index : GHS ได้จัดอันดับประเทศไทยมีความมั่นคงทางสุขภาพเป็นอันดับที่ 5 ของโลก โดยมหาวิทยาลัย จอนส์ ฮอปกินส์ สหรัฐอเมริกา และคว้าอันดับ 1 ด้านสถานบริการเพื่อสุขภาพ (Wellness Retreats) ของโลก โดยอ้างอิงจากของ TripAdvisor และ Slingo เว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมสำหรับนักเดินทาง
สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยพิสูจน์ให้ทั่วโลกได้เห็นถึงศักยภาพของระบบสาธารณสุขของไทยในการจัดการกับวิกฤตินี้ และหลังจากนี้แนวโน้มในการดูแลสุขภาพจะเป็นเรื่องสำคัญและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลดีต่อประเทศไทยโดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต ในโอกาสเป็นตัวแทนของประเทศไทยนำโดยภาครัฐ จังหวัดภูเก็ต และทีเส็บ ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงาน Specialised Expo 2028 Phuket, Thailand ภายใต้แนวคิด “ Future of Life: Living in Harmony, Sharing Prosperity พร้อมเสนอโครงการพื้นที่กว่า 141 ไร่ใน ต.ไม้ขาว เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพภูเก็ต สู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก
จากข้อมูลการคาดการณ์ของ Allied Market Research ระบุว่า มูลค่าตลาดท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยในปี 2023 จะมีมูลค่าประมาณ 3.1 แสนล้านบาท และในปี 2027 อาจขึ้นไปแตะที่ระดับ 7.6 แสนล้านบาท ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 13.2% (CAGR ปี 2019-2027) โดยมีจำนวนนักเดินทางเชิงการแพทย์ที่มาใช้บริการด้านการแพทย์ในประเทศไทยประมาณ 7.7 ล้านคน ตัวเลขคาดการณ์นี้คือบทพิสูจน์ให้เห็นว่า การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยได้รับการยอมรับจากนักเดินทางทั่วโลก โดยมีปัจจัยในหลาย ๆ ด้านประกอบกันและที่น่าสนใจคือ ระบบบริการสุขภาพของประเทศไทยมีความเข้มแข็ง ต่างมีความเชื่อมั่นในการรักษาที่ครอบคลุม ครบวงจร ได้ระดับมาตรฐานสากล อีกทั้งความน่าเชื่อถือในความสามารถของแพทย์ไทยในสาขาต่าง ๆ และสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล JCI 60 แห่ง มีจำนวนมากเป็นอันดับ 4 ของโลก และมาตรฐานสากลสำหรับการจัดการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ในโปรแกรมเฉพาะสำหรับ COVID-19 (GHA COVID-19 Guidelines for Medical Travel Program) จาก Global Healthcare Accreditation จำนวน 16 แห่ง จากการรับรองมาตรฐานทั้งหมด 19 แห่งทั่วโลก
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักเดินทางตัดสินใจเข้ามาใช้บริการของไทยง่ายขึ้น คือ ราคาที่สมเหตุสมผลหรือต่ำกว่าประเทศคู่แข่งในระดับมาตรฐานและคุณภาพเดียวกัน ซึ่งจากข้อมูลของ Medical Tourist Association พบว่าค่าบริการทางการแพทย์โดยเฉลี่ยของไทยถูกกว่าประเทศในฝั่งตะวันตกถึง 50-90 % และที่ขาดไม่ได้คือการบริการที่จริงใจและอบอุ่นตลอดระยะเวลาที่พำนักอยู่ในประเทศไทย นอกจากจะได้รับการดูแลสุขภาพที่ดีแล้ว ยังสามารถท่องเที่ยวในประเทศไทย พร้อมกิจกรรมและวัฒนธรรมที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย จึงเป็นแรงดึงดูดให้นักเดินทางต่างชาติปักหมุดประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางได้ไม่ยากนัก
นานาชาติต่างยอมรับการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยในทุก ๆ ด้าน “เรา”ในฐานะคนไทยและชาวภูเก็ตมาร่วมแรงร่วมใจผลักดันให้ จ.ภูเก็ต ได้รับสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพ Specialised Expo 2028 Phuket, Thailand ภายใต้แนวคิด “ Future of Life: Living in Harmony, Sharing Prosperity ชีวิตแห่งอนาคต แบ่งปันความรุ่งเรือง อยู่ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว” เพื่อเปลี่ยนภูเก็ตให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในระดับสากล