“อิงฟ้า” ใจเกินร้อย พร้อมประกวดเวทีมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ประเทศอินโดนีเซีย เล่าเคลียร์ปัญหากับ “ณวัฒน์” หมดแล้ว เข้าใจสิ่งที่บอสทำเพราะความหวังดี ซึ่งตนต้องปรับตัวเพราะส่วนตัวเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง เผยสถานะโสด อยากมีคนคุย ยังไม่คิดจริงจังกับใคร
หลังจากที่ “อิงฟ้า วราหะ” ชี้แจง และเคลียร์ใจดรามาทุกอย่างที่เกิดขี้นไปเรียบร้อยหมดแล้ว ตอนนี้เตรียมตัวฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อเข้าประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ประเทศอินโดนีเซีย จากที่วางไว้ว่าจะเดินทางไปประกวดวันที่ 3 ตุลาคม ก็เลื่อนออกไปวันที่ 4 ตุลาคม ซึ่งอิงฟ้าบอกว่าตอนนี้สภาพจิตใจและทุกอย่างพร้อมเกินร้อย
“เลื่อนจากวันที่ 3 ไปเป็นวันที่ 4 ตุลาคม แค่วันเดียว ตี 4 ครึ่งที่สุวรรณภูมิ ก็อาจจะต้องรอกันตั้งแต่กลางคืนเลย เตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว ก็ซ้อมจนขาหร่อยแล้วค่ะ ด้วยระยะเวลาที่มีเราก็ต้องทำให้เต็มที่ที่สุด กอบโกยวิชา ฝึกให้เต็มที่ที่สุด ก็ซ้อมค่อนข้างหนัก ประมาณวันละ 8 ชั่วโมง มีซ้อมเดินตามรอบต่างๆ จะมีเรื่องสปีช ที่ยากจะเป็นเรื่องของการเดิน เดินยังไงขาก็ยังไม่ค่อยตึง เนื่องจากขาเรามันอักเสบมานานมาก ตั้งแต่ตอนประกวดมิสแกรนด์กรุงเทพฯ รอบพรีลิม สะดุดล้มหลังจากนั้นก็ยังไม่ได้ไปรักษา เพราะทำงานมายาวตลอดไม่เคยได้พักจากส้นสูงเลย
แต่ไม่มีผลต่อการประกวด แค่จริงๆ แล้วมันดีได้มากกว่าแค่ 100 % ตอนนี้ก็พยายามกายภาพให้มันอยู่บนส้นสูงได้แข็งแรง”
ไม่มีเรื่องอะไรให้รู้สึกกังวล ใจพร้อมเกิน 100
“ไม่มีอะไรน่าห่วง มันอยู่ที่ความมั่นใจล้วนๆ เลย ถ้าเราไปอยู่ตรงจุดนั้นแล้วเรามั่นใจ เราจะทำมันออกมาได้ดี ส่วนสปีชจริงๆ ก็ไม่ค่อยมั่นในเรื่องของเวิร์ดเท่าไหร่ แค่เริ่มมั่นใจที่จะพูดคุยกับแฟนคลับต่างชาติมากขึ้น ถูก ไม่ถูกไม่รู้ แต่คุยไปก่อน ล่าสุดก็ฝึกภาษาอินโดฯ แล้ว จะได้ศัพท์สั้นๆ ความพร้อมสำหรับฟ้าในเรื่องจิตใจเกิน 100 นะ”
แจงอาการซึมเศร้าเรื้อรัง
“หลายคนจะเข้าใจว่าเพิ่งเป็นตอนมีดรามาหนัก แต่ถ้าคนที่ติดตามเรามานานๆ จะรู้ว่าเราเรื้อรังมานานมากแล้ว พอได้คุยกับคุณหมอถึงรู้ว่าเหตุการณ์อาฟเตอร์ช็อกในชีวิตเราค่อนข้างเยอะ บางครั้งเรายังมูฟออนจากเรื่องนี้ไม่ได้ ก็มีเรื่องใหม่เข้ามากระทบเราอีก มันส่งผลให้เราบางครั้งหงุดหงิดง่าย กลายเป็นคนก้าวร้าวได้โดยที่เราไม่รู้ตัว ตอนนี้ก็พยายามทานยารักษาเคมีในสมองให้ไม่ลบมากๆ เรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรน่าห่วง พรุ่งนี้จะต้องไปรับยาเพิ่ม ก็โอเคแหละ
ต้องทานยานานแค่ไหน มันอยู่ที่เราเลย และมันก็อยู่กับสิ่งที่เราเป็นอยู่ด้วย ทุกวันนี้ฟ้ารู้สึกว่ามันดีขึ้นมาก ที่มันเรื้อรังเพราะเราไม่เคยเข้าไปหาหมอจริงจังเลย พอเราได้เข้าไปคุย ได้รับรู้วิธีการรักษาจริงๆ ก็เป็นโรคปกตินี่แหละ บางคนทั่วไปเป็นอยู่แล้วอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำ พอเราได้รับการรักษาก็รู้สึกว่าเรากลับมาสดใสกว่าเดิม คิดบวกมากกว่าเดิม สบายใจมากกว่าเดิม แฟนคลับก็คอยใหักำลังใจ พยายามส่งอะไรให้เราดู ให้เรามีกำลังใจอยู่ตลอด”
เผยต้นเหตุดรามาประเดประดังมาพร้อมๆ กันหลายเรื่องจนจัดการชีวิตไม่ได้
“ก็ไม่รู้นะ ชีวิตเหมือนถูกสาป เวลาโดนดรามาทีไม่เคยโดนเรื่องเล็กเลย เป็นเรื่องใหญ่ตลอด จุดเริ่มต้นมันจะเริ่มจากที่ฟ้าเสียคุณพ่อไป เราก็ใช้ชีวิตของเราไป มาประกวดมิสแกรนด์ฯ กรุงเทพฯ มงลง ก็โดนหนัก ตอนไทยแลนด์ก็โดนหนัก ไหนจะเรื่องค่ายเพลงเก่า มันประเดประดังเข้ามาพร้อมๆ กัน จนเราจัดการชีวิตไม่ได้”
ส่วนปัญหากับ “ณวัฒน์ อิสรไกรศรี” เกิดจากสื่อสารผิดพลาด เคลียร์กันหมดแล้ว
“ฟ้าว่าบางทีมันเป็นเรื่องของการเข้าใจผิด ในเมื่อเรื่องมันผ่านไปแล้ว เราไม่อยากออกมานั่งอธิบายเพื่อให้คนเข้าใจในสิ่งที่เราเป็นหรือสิ่งที่เราเจอ ก็ปล่อยผ่านไป ไม่ได้อะไร ส่วนตัวกับบอสก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน บอสก็ยังรักและเป็นห่วง เป็นคนที่ถามตลอดว่ากินยารึยัง ทานยาให้ตรงเวลานะ เขาก็อยากให้เราอยู่กับตัวเองเยอะๆ”
สรุป “โกโก้ อารยะ ศุภฤกษ์” ไม่ได้มานอนที่คอนโดตนด้วย ตามที่ “ณวัฒน์” สั่ง
“ตอนที่คุยกันเขาก็ถามว่าเราอยู่ยังไง เราเครียดเรื่องอะไรบ้าง ก็บอกเขาว่าบางทีมันมีเรื่องส่วนตัว เรื่องครอบครัวเราบ้าง บางทีจะมีเหงาบ้าง ก็เลยถ้าเหงาก็ให้พี่โก้ไปอยู่ด้วย เลยบอกว่าไม่เป็นไร (ทุกวันนี้จะไปไหนมาไหนต้องบอกบอสตลอด?) ที่ผ่านมามันมีการผิดพลาดเรื่องการสื่อสาร รอบนี้ก็ให้ดีลผ่านบอสโดยตรง ไม่ต้องผ่านทีมงานเลย”
เข้าใจสิ่งที่ “ณวัฒน์” ทำเพราะความหวังดี แต่ตนก็ไม่ได้ทำตามทุกอย่าง ซึ่งตนต้องปรับตัวเพราะส่วนตัวเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง
“เราก็เข้าใจ เขาทำด้วยความหวังดีแหละ เป็นฟีลแบบมีลูกสาว ฟ้าก็ไม่ได้ทำตาม 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้าไม่ได้ออกไปไกลมากก็ไม่ได้แจ้ง เพราะบางทีกลัวจะรบกวนเวลาทำงานเขา ถ้าจะออกไปไหนไกลๆ ถึงจะแจ้ง
ข้อตกลงนี้ก็ไม่ถึงกับสร้างความอึดอัด เพราะปกติเราก็เป็นคนโลกส่วนตัวสูงด้วยเพราะเราทำงานเยอะ เวลากลับมาอยู่กับตัวเองก็จะชอบอยู่เงียบๆ ไปไหนมาไหนก็ไม่ได้บอกใคร ตัวเราเองก็ต้องปรับด้วย ปรับเข้าหากัน ต้องปรับเยอะหลายอย่างเลย”
เข้าใจ “ณวัฒน์” ให้โสดไปอีก 3 ปี บอกส่วนตัวแค่อยากมาคนคุย ไม่มีแพลนจะจริงจังกับใคร สถานะตอนนี้คือโสด
“(หัวเราะ) คือจริงๆ เรื่องนี้ด้วยความเข้าใจของเรา ที่ผ่านมาเราก็ทำงาน เราก็มีเหงา เราก็มีคุยบ้าง มันเป็นเรื่องปกติมากๆ เพราะเราก็ 27 แล้ว แต่ว่าเรายังไม่มีแพลนที่จะจริงจังกับใคร การมีแฟนหรือการมีคนคุยสำหรับเราจะเป็นการแต่งงานวันนี้หรือพรุ่งนี้ หรือว่าจะเลิกทำงาน คือบางคนก็เข้าใจผิด มันเป็นการใช้ชีวิต บางทีเราก็อยากมีเพื่อนคุย เพื่อนคิดเฉยๆ แต่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเราก็เข้าใจทางบอส เขาก็กลัวว่าจะส่งผลกระทบถึงอนาคตเรากับงานเราด้วย ซึ่งตรงนี้ก็เข้าใจได้ หลังจากนี้ก็คงต้องโฟกัสเรื่องของการทำงานให้มากขึ้น หรือถ้าเหงาหรืออะไรก้ไลฟ์คุยกับแฟนคลับ (หัวเราะ) สถานะตอนนี้ก็โสดค่ะ”
ตอนนี้ไลฟ์คุยกับแฟนคลับบ่อยกว่าเดิม ตั้งแต่ 8 โมงเช้า
“เหมือนเดิม บ่อยกว่าเดิมด้วย (ไลฟ์ตั้งแต่ 8 โมงเช้า?) ใช่ หลังๆ นอนเร็ว ด้วยยาที่ทานทำให้เราง่วง นอนเร็ว แล้วเราก็จะตื่นเช้า การใช้ชีวิตก็จะเริ่มเปลี่ยน ยาที่ทาน ไม่ได้เป็นยารักษาโดยตรงตั้งแต่แรก เพราะถ้าเป็นยาที่รักษาโดยตรงสำหรับคนที่เป็นซึมเศร้าเรื้อรังจริงๆ มันจะต้องใช้ระยะเวลาเป็นเดือนกว่าที่สารเคมีจะเข้าที่ มันจะเบลอ อาจจะทำงานไม่ได้ ก็เลยเป็นการกินยาที่เยียวยาไปก่อน กลับมาจากอินโดฯ ก็ถึงจะรับตัวยาอีกตัวหนึ่ง”
รอบนี้ได้บทเรียนหลายอย่างจากดรามา
“ก็หลายอย่างอยู่พอสมควร บางคนก็ไม่ได้เข้าใจเราร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่เราเจอแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เราเข้าใจเลยว่าเคยไปคุยกับพี่โอ๊ต (ปราโมทย์ ปาทาน) วันที่ไปถ่ายรายการ เป็นข้อคิดที่เราได้ วันที่คนรักเรา ทำอะไรก็ดีไปทุกอย่าง แต่วันนึ่งที่เราทำอะไรไม่ถูกใจปุ๊บ มันจะขุดคุ้ยและหาข้ออ้างโน้นนี่นั่นที่ทำให้เราดูไม่ดี หรือไม่ชอบเราไปเลย ซึ่งตอนนี้ก็กำลังเจออยู่และกำลังจัดการกับความคิดตัวเอง
ซึ่งเรามาอยู่ตรงนี้ เป็นคนสาธารณะมันก็ย่อมจะมี แต่บางทีก็มีฟาดกลับไปบ้าง บางทีคอมเมนต์จนเกินความพอดี เราก็จะมีบ้าง แต่ไม่ได้ด่ากลับ ก็มีไปแซวเล่น บางทีสื่อมีตัดคลิปเราสั้นๆ ไปลง แล้วคนก็เข้าใจเราผิด ก็เข้าไปคอมเมนต์แซวเล่นๆ เอาอีกแล้ว กูโดนอีกแล้ว อะไรอย่างนี้ แต่ไม่ได้ด่า ไม่ได้ซีเรียส ไม่ได้เครียดอะไร แค่อยากเข้าไปสร้างเสียหัวเราะให้เฉยๆ”
ตอนนี้มูฟออนจากทุกเรื่องทุกคนที่เกี่ยวข้องแล้ว ไม่คิดโทษใครน้อมรับผิดคนเดียว
“ทั้งหมดทั้งมวลก็คือไม่คิดจะโทษใครเลย มันเป็นความผิดของเราคนเดียวทุกอย่างที่เกิดขึ้น เราสื่อสารผิดเอง และจัดสรรไม่ดีเอง ก็ได้แต่ขอโทษคนที่ต้องเดือดร้อนกับเรื่องนี้ไปด้วย ไม่อยากให้ทุกคนรีบตัดสินใคร หรือว่าดึงใครเข้ามาโยงให้เป็นเรื่องเป็นราว หลังจากที่เรากลับมาทำหน้าที่ของเราแล้วก็อยากให้เรื่องมันจบ อยู่กับปัจจุบันและโฟกัสในสิ่งที่เราทำและสิ่งที่เรากำลังจะไปข้างหน้า นั่นก็คือการประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล
ฝากถีงแฟนๆ ที่เปลี่ยนใจไปจากตน ขอบคุณที่ครั้งนึงเคยชอบตน
“สำหรับคนที่เปลี่ยนใจ อยากขอบคุณอย่างน้อยครั้งหนึ่งอาจจะเคยชอบเรา แต่ถ้าผิดหวังในตัวเรา และรู้สึกว่าเราทำไม่ถูกใจก็ไม่เป็นไร สำหรับคนที่ยังอยู่ก็ขอบคุณที่ยังรักและซัปพอร์ต เพราะคนที่ยังอยู่เขาก็ยังเชื่อมั่นในตัวเราเหลือเกิน ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็จะรอฟังจากพี่ฟ้า ยังไงก็จะรอดูก่อน แล้วท้ายที่สุดก็เชื่อว่าเวลาจะทำให้เห็นเองว่ามันเป็นยังไง เขาก็รู้ว่าเรารักเขา”