“มาย-อาโป” ภูมิใจ สาดความฟินได้รับการยอมรับระดับโลก นับถอยหลังเวิลด์ทัวร์ส่งความสุข

“มาย-อาโป” ปลื้มออกงานไหนทวิตฯ ก็เดือด ขึ้นอันดับ 1 แฟนๆ ทั่วโลกให้การยอมรับ นับถอยหลังเวิลด์ทัวร์ส่งความสุข หวังให้เป็น Soft Power ไปถึงต่างชาติ วอนอย่าขับรถตาม ไม่อยากให้เกิดอันตราย และขอกลับไปใช้ชีวิตเติมความสุข

เป็นคูจิ้นสายวายอีกคู่ ที่ถึงแม้จะผ่านมานาน แต่กระแสก็ยังไม่แผ่ว สำหรับ “มาย ภาคภูมิ ร่มไทรทอง” กับ “อาโป ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์” ที่จับมือกันดังจาก คินน์พอร์ช เดอะซีรีส์ ลา ฟอร์เต้ ล่าสุดทั้งคู่โดดรับงานพรีเซ็นเตอร์ “D7 คอมบูชะ” มีการเปิดตัวที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ก็มีแฟนๆ แห่ไปให้กำลังใจกันเนืองแน่น ซึ่งทั้งสองคนได้เปิดใจว่าดีใจและตื่นเต้นมาก พร้อมบอกข่าวดีเตรียมเวิลด์ทัวร์คืนความสุข
 
มาย : “ดีใจและตื่นเต้นมาก ในชีวิตไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่ว่าวันนี้ขนลุกเลย หลังๆ ไปไหนก็จะมีกำลังใจตลอด วันนี้ก็ตั้งแต่เข้ามาที่ห้างจนมาถึงงานเลย แฟนๆ น่ารักมาก มาหาเราเยอะมากๆ เห็นในทวิตเตอร์ แฟนๆ มารอเราเป็นระเบียบมาก”

อาโป : “หลายๆ ครั้งที่ผ่านมาเราตามฟีตแบ็คกันมาตลอดครับ เราเห็นความเต็มที่ของแฟนๆ บางทีเกิดอุบัติเหตุ เราก็เป็นกังวลแทน แต่ครั้งนี้เราเห็นแฟนๆ ต่อแถวรอกันเต็มที่ วันนี้ก็เลยประทับใจและดีใจมาก และทุกคนก็ได้มาเจอกันอย่างปลอดภัยด้วยครับ”

ปลื้มออกงานไหนทวิตเตอร์ก็ขึ้นอันดับ 1 แฟนๆ ทั่วโลกให้การยอมรับ เตรียมจับมือเวิลด์ทัวร์ส่งความสุข
มาย : “ดีใจและต้องขอบคุณ จริงๆ ไม่ใช่แค่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คนไทย แต่มีต่างชาติด้วย ก็ขอบคุณมากๆ”

อาโป : "แรกๆ เราคิดว่าแค่ขึ้นอันดับ1 มันดูไม่ได้เยอะมาก แต่พอมาเช็กค่าแฟรคจริงๆ ว่าเราขึ้นชาร์ตของหลายประเทศมาก เราก็ดีใจมากๆ ที่แฟนๆ ทั่วโลกให้การตอบรับอย่างดี เราก็เลยอยากขอบคุณแฟนๆ ด้วยการไปเวิลด์ทัวร์ ไปส่งความสุขให้กับแฟนๆ ในคินน์พอร์ช เดอะซีรีส์ 2022 ครับ ก็ใกล้แล้วครับ ทุกวันนี้ก็นับถอยหลัง และมีการซ้อมกันเต็มที่ ซ้อมกันทุกวันเลยครับ เรียกว่าเราไปตามเมืองต่างๆ ดีกว่าครับ เราจะเริ่มที่สิงคโปร์ กรุงโซล หลายที่เลยครับ เพราะเรายังมีดีลไปอีกหลายๆ ที่มากๆ”

มาย : ถามว่าเตรียมตัวยังไง ก็ต้องเตรียมวีซ่านี่แหละครับ ก็ต้องขอบคุณทีมด้วยที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ง่ายขึ้น”

อาโป : “คือมั่นใจได้เลยว่าทุกๆ ที่ที่เราจะไปเราดูแลความปลอดภัยในทุกๆ ด้านพร้อมมากๆ และเชื่อว่าเราจะได้เจอแฟนๆ อย่างเต็มที่มากๆ ครับ โชว์แต่ละที่ก็ต่างกันบ้าง แต่ขอไม่บอกว่าคืออะไร สามารถตามดูได้ในทวิตเตอร์ หรือไม่ก็จองตั๋วเครื่องบินตามไปนะครับ”

มาย : “ก็ได้ยินข่าวว่าหลายๆ คนอาจจะบินตามไปทั้งใกล้และไกล บางคนไปสิงคโปร์ บางคนไปฟิลิปปินส์ คือไปทุกที่ ก็ดีใจมากครับ จะได้เจอกันบ่อยๆ คืองานอีเวนต์สิ่งที่มีความสุขที่สุดคือการได้ส่งความสุขซึ่งกันและกัน”

อาโป : ส่วนที่เลื่อนไปเวียดนาม ก็อยากจะบอกว่าขอให้ตามติดอย่างใกล้ชิด เพราะมันมีเบื้องลึกเบื้องหลังอีกมากมายที่อยากให้ติดตามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไร และการจัดการของเราจะเป็นยังไง ก็ขอให้ติดตามครับ เพราะเราอาจจะได้เจอกันอย่างแน่นอน”

มาย : “คือตอนนี้ใจไปแล้ว แต่ก็ต้องดูความเหมาะสมต่างๆ ต้องให้ทุกอย่างพร้อมครับ เพราะเราคงไม่ได้บินไปบ่อยๆ ครับ”

อาโป : “แต่ต้องบอกว่าทีมและพวกเราพร้อม 100% ครับ”

เตรียมมีหนังไทยเสิร์ฟเอฟซีที่เมืองไทย
อาโป : " ก็ต้องรอดูว่าจะมีกิจกรรมใดๆ แต่เราก็ไม่ได้ทิ้งแฟนๆ ไทยครับ เรายังมีหนังไทย เดี๋ยวจะได้ดูกันครับ”

มาย : “ตอนนี้เริ่มเวิร์กช็อปกันแล้วครับ คือกำลังจัดสรรปันส่วนทุกอย่างให้ดีที่สุด เรื่องของบทด้วย ก็เลยอาจจะล่าช้าเล็กน้อย แต่เป็นความล่าข้าที่ทำให้ทุกอย่างมันดีที่สุด แต่ไม่เกี่ยวว่าเราทำหลายอย่างพร้อมกันนะครับ ความล่าช้าในช่วงแรกมันเป็นเรื่องของการเลือกวัตถุดิบ เลือกคน เลือกบทที่เหมาะสมมากกว่า”

อาโป : “คือเราเลือกคนจากหลายๆ ที่มา และคนที่มาก็คือเป็นคนที่ร่วมงานกับคนทั่งโลกมาแล้ว หลายๆ คนก็ทำงานเกี่ยวกับพวกหนังรางวัลมาก่อน พอคนเก่งๆ มารวมกัน ก็ค่อยๆ ดึงข้อดีของแต่ละคนมารวมกัน ผมว่ามันน่าจะเป็นอีกเรื่องที่ทั้งโปและพี่มายภาคภูมิใจเลยแหละ”

ซ้อมดนตรีไทยกันจนมือด้านเลย
มาย : “ใช่ครับ ผมเล่นตะโพน โปเป็นนายรำ เราซ้อมกันเต็มที่มากครับ จริงๆ ดนตรีไทยหลายๆ คนอาจจะคิดว่ามันไม่ได้ยาก แต่จริงๆ ยาก เพราะความซับซ้อนของแต่ละศิลปะมันมีเสน่ห์ พอผมได้เข้าไปลึกๆ ถึงได้เห็นว่าดนตรีไทยมีเสน่ห์มาก”

คาดหวังให้เป็น Soft Power ไปถึงต่างชาติ
มาย : “จริงๆ ผมคาดหวังนะ ทีมงานก็คาดหวัง”
อาโป : “คาดหวังมากครับ อย่างคินน์พอร์ช เดอะซีรีส์ อย่างวัดอรุณฯ ที่มีความเป็นไทย พอเรื่องฉายออกไป ไม่ใช่แค่คนไทยนะ แต่คนทั่วโลกให้การตอบรับดีมาก ก็มีอีกสิ่งหนึ่งคือดนตรีศิลปะไทย เรารู้สึกว่ามันสวยงามก็เลยอยากส่งต่อด้วยครับ”

วอนอย่าขับรถตาม ไม่อยากให้เกิดอันตราย และขอกลับไปใช้ชีวิตเติมความสุข
อาโป : “ตอนนั้นก็ตื่นเต้นมากครับ แต่ก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก เพราะมันอันตรายมากๆ ตอนนั้นผมก็อยู่กับพี่มาย และเราสองคนก็เห็นตรงกัน คือขอเวลาสักแป๊บนึงให้พวกเรากลับไปใช้ชีวิต ไปเติมพลังความสุขมาก่อน แล้วพอเรามางานก็จะมาส่งความสุขให้แฟนๆ เต็มที่แน่นอน อย่าตามกันเลยนะจ๊ะ”

มาย : “จริงๆ ก็เข้าใจพี่ๆ เขานะครับ แต่เราก็อยากจะโฟกัสงานออกมาให้ดีที่สุด บางทีการมีสเปซมันก็ทำให้เรามีจินตนาการทำอะไรได้เต็มที่ครับ”