xs
xsm
sm
md
lg

“กุ้งพลอย” สาบานให้ตายห่x! ไม่รู้เป็นเบอร์ “ศรราม” ลั่นหมดเยื่อใยแล้ว ไม่อยากดรามา กลัวไม่ได้เจอลูก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“กุ้งพลอย” ลั่น! สาบานให้ตายห่x จำไม่ได้ว่ามีกี่เบอร์ เซ็นมอบอำนาจซิมให้ “ศรราม” ไปแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับโพสต์ด่า 2 ปีผ่านมามีชนักติดหลัง แต่พยายามแก้ไข เรื่องนี้ไม่รู้ผิดอะไร กลับเป็นเชลยสังคม ไม่อยากให้เกิดดรามา กลัวไม่ได้เจอลูก ทุกวันนี้ 1 เดือน 2 ครั้งก็น้อยมากแล้ว ปัดยังมีเยื่อใย ใครจะสร้างเรื่องให้โดนเหยียบ

หลัง “หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์” ออกมาโพสต์ฟาด อดีตภรรยา “กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ” หรือ “ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” ในทำนองว่าเบอร์โทรศัพท์ตัวเองมีปัญหา ไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากอีกฝ่ายไปทำเรื่องขอซิมใหม่ โดยไม่มีการบอกกล่าว พร้อมทิ้งท้ายขออยู่อย่างสงบ อย่ามาวุ่นวาย ก็ทำให้สาวกุ้งพลอย โดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนต้องออกมาไลฟ์ติ๊กต๊อก ยืนยันว่าเป็นการเข้าใจผิด แต่งานนี้ดูเหมือนเรื่องจะไม่จบ เพราะดรามายังร้อนแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้เจ้าตัวต้องออกมาไลฟ์อีกรอบ โดยเผยว่าสังคมให้ยอมรับว่าผิด ทั้งที่ไม่ผิด ถ้าตัวเองฉลาดขนาดนั้นคงไปเป็นแฮกเกอร์ และที่ยอมอีกฝ่าย เพราะเป็นพ่อของลูก

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 ก.ย.) ได้เจอ “กุ้งพลอย” ในงานครบรอบ 2 ปี TOPONE 2nd Anniversary เจ้าตัวก็เลยขอออกมาเคลียร์ประเด็นนี้ให้ฟังแบบชัดๆ ว่าไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี แต่จำไม่ได้จริงๆ สาบานให้ตายห่x ไม่ได้พูดโกหก

“จะเรียนทุกคนแบบนี้เลยค่ะ คือว่ามือถือเนี่ยหายจริงๆ แล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก็ไปที่สถานีตำรวจ เขาก็ถามว่าเบอร์อะไร เราก็บอกเขาไปว่าเบอร์นึง แต่ส่วนเบอร์นี่เหลือจำไม่ได้ เพราะไม่ได้ใช้แค่เบอร์เดียว เสร็จแล้วก็ไปทำบัตรประชาชนเพื่อจะขอซิม พอไปที่ทรูฯ เขาก็ถามว่าพี่เอากี่เบอร์ เลยบอกว่าเอาทั้งหมดเลยที่มีอยู่ ก็ไม่ได้คิดไงคะ ว่าเบอร์ที่เราซื้อแล้วก็ใช้เนี่ย หนึ่งเบอร์เป็นเบอร์ที่ให้พี่หนุ่มใช้ เพราะมันนานมากแล้ว 4-5 ปีแล้ว

แต่เจตนาคือพอเอาซิมกลับมาบ้านเสียบมือถือ ก็มีคนหนึ่งโทร.เข้ามา คือพี่หนึ่งเป็นน้องพี่หนุ่ม เราก็ถามว่าหนึ่งไหน เขาเลยบอกว่าพี่หนึ่งหนุ่ม เราเลยถามว่าหนุ่มไหน ก็คืองง พอพี่หนึ่งเขาบอกว่านี่คือเบอร์พี่หนุ่มนะ เราก็เลยเก็ต ก็บอกโอเคพี่หนึ่งขับรถมาเอาไหม ที่สุขุมวิท 31 หรือจะให้หนูขับรถเอาไปให้เลย ก็ขับรถไปเลยค่ะ แล้วซิมก็ถอดออกจากเครื่องไม่ได้ใช้ ใช้เวลาจากสุขุมวิท 31 ไปถึงลาดพร้าววันนั้นประมาณชั่วโมงกว่าค่ะ แล้วช่วงที่ขับไป ไม่ได้เห็นนะคะว่าพี่หนุ่มเขาโพสต์อะไร เพราะยังไม่ได้เข้าอะไรสักอย่าง

พอเอากลับไปเสร็จปุ๊ป วันเสาร์จะต้องได้เจอลูกตอน 09.30 น. แต่ในระหว่างคืนนั้นก็คิดแล้วว่า ถ้าวันนั้นเบอร์นี้มันเป็นชื่อเรา แล้วเราไม่ได้ใช้ เราก็ควรจะเซฟตัวเองเหมือนกัน เพราะว่าวันนี้เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว เราเลิกกันแล้ว แต่ถ้าพี่ๆ เอาเบอร์ของพี่ๆ แล้วเป็นชื่อของคนอื่นใช้ แล้วพี่ๆ จะกลัวไหมคะ ก็เหมือนที่หนูต้องกลัว แต่หนูมีความรู้สึกว่าหนูไม่ได้กลัวเขา ไม่ได้รู้สึกว่าเขาไม่ปลอดภัยในชีวิต แต่ก็โอเค ในเมื่อพี่เขาใช้มาเนาะ เราก็เพิ่งรู้ว่าอันนี้เป็นชื่อของเรา เราก็เข้าไปหาว่ามันจะมีวิธีมอบโอนซิมยังไงบ้าง โดยที่เรากับเขาไม่ต้องไปที่เดียวกัน ทำยังไงก็ได้ให้เขาสะดวกที่สุดค่ะ ก็เลยแคปข้อมูลไว้

แล้วพอตอนเช้าพี่หนึ่งก็มาปรึกษาหนูเรื่องนี้ แต่หนูเตรียมไว้แล้ว ก็บอกโอเคได้เลย ก็ส่งใบให้เขา ว่าไปปริ้นต์ใบนี้มานะ เอาบัตรประชาชนไปด้วย เสร็จแล้วเดี๋ยวหนูจะเซ็นให้หมดเลย พี่ก็เอาให้พี่หนุ่มไปยื่นที่เคาน์เตอร์ ทำซิมใหม่ได้เป็นชื่อเขาเลย เราทั้งสองฝ่ายจะได้สบายใจซึ่งกันและกัน ก็ให้ไปตอน 09.30 น. แล้วก็เล่นกับวีจิถึง 14.00 น. เพิ่งจะมารู้ว่าพี่เขาโพสต์แบบนั้น ตอนประมาณ 17.00 น. แต่ช่วงไทม์ไลน์ที่พี่หนุ่มโพสต์ ก็คือช่วง 11.00 น. จากที่หนูเซ็น 10.30 น. แต่เขายังไม่ได้ไปทำธุรกรรม”

นับไทม์ไลน์ย้อนหลัง “หนุ่ม ศรราม” โพสต์หลังรู้ว่าเซ็นเอกสารเรื่องซิมให้แล้ว
“ไม่ๆ เราคิดว่าตอนพี่เราเซ็นเอกสารให้แล้ว พี่เขาน่าจะโทร.หาพี่หนุ่ม รายงานว่าเราเซ็นให้แล้ว คือเราเพิ่งมาเห็นข่าวตอน 17.00 น. ก็เลยไล่ไทม์ไลน์กลับไปว่าอ๋อ ตอนที่เราเซ็นให้เขาแล้ว เขาถึงโพสต์แบบนั้น ซึ่งต้องบอกว่าข้อ 1, 2, 3 ได้อ่านหมดเลย มีความรู้สึกว่าข้อที่ 1 ก็ไม่ใช่แล้ว ตอนบอกกับตำรวจ เราก็จำได้แค่เบอร์เดียว คือเบอร์ของเรา ที่เราใช้ ไม่ได้คิดอะไรเลย ถ้าดูเจตนา เราไม่ได้มีเจตนาร้าย

อยากอธิบายให้เรื่องมันจบ จะได้ไม่เป็นเชลยสังคม
“วันนี้ขอแค่อธิบาย ไม่ได้จะมาซัดกันไปซัดกันมา มันควรจะจบตรงนี้แล้ว เรื่องระหว่างครอบครัวมันน่าจะต้องจบแล้ว แต่ถ้าเราไม่มาอธิบายเราจะรู้สึกว่าเราเหมือนเป็นเชลยของสังคม ชื่อเสียงเรามันน้อย แล้วเรามีชนักติดหลัง ไม่ว่าเราจะทำอะไรผิดหรือถูก ถ้าเราเงียบหายไปโดยไม่อธิบาย เราจะกลายเป็นเชลยของสังคม ซึ่งเราอธิบายไปแล้ว ข้อที่ 1 เราไปแจ้งความจริงๆ แล้วเราจำเบอร์ตัวเองได้ 1 เบอร์ ส่วนที่เหลือจำไม่ได้ ก็เลยต้องขอใหม่หมด”

ปัดยังมีเยื่อใย ใครจะสร้างเรื่องให้คนมาเหยียบ
“เอาอย่างนี้นะคะ ไม่มีใครอยากสร้างเรื่องให้คนมาเหยียบเรา แล้ว 2 ปีที่ผ่านมา เรารู้สึกเหมือนเป็นตราบาป เป็นเชลยของสังคม เพราะเรายังไม่ทำอะไรผิดเลย เราผิดพลาดแค่ครั้งเดียว ไม่มีโอกาสที่จะเป็นคนดีเลยเหรอคะ

ทุกวันนี้ได้เจอลูกก็มีความสุขแล้ว แต่ก็มีเหตุเข้ามา ทำให้เจอยากตลอด
“การเจอลูกเนี่ยมันก็ยากอยู่แล้วค่ะ เพราะฉะนั้นชีวิตของกุ้งพลอย มันต้องพยายามอดทน แล้วเวลาดรามา สภาพจิตใจมันไม่ใช่แค่มีเรื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเจอลูกที่ผ่านมา หนูก็ต้องพยายามให้กำลังใจตัวเอง ว่าโอเค เจอลูกแค่นี้ก็พอแล้ว ก็ดีแล้ว จากอาทิตย์ละวัน กลายเป็นเดือนละ 2 บางครั้งเดือนละ 2 ก็ไม่ได้ มันก็จะมีเรื่องโน้นเรื่องนั้นมา โดยเป็นอุบัติเหตุเข้ามาตลอด อย่าคิดว่าจงใจเลย”

ได้เจอลูก 1 เดือนแค่ 2 ครั้ง เวลาเกิดดรามาเลยเลือกจะเงียบ เพราะกลัวได้เจอลูกน้อยลงไปอีก
“ตารางเจอวีจิ 1 เดือน 2 ครั้ง แต่ทุกเดือนมันไม่ได้เจอ 2 ครั้ง เฉลี่ยแล้วมันไม่ได้เจอแบบนั้นทุกเดือนที่ผ่านมา เข้าใจไหมว่าเดือนละ 2 ครั้ง ก็น้อยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเวลาเกิดดรามาที่จะเลือกที่จะเงียบ ไม่อธิบายอะไรทั้งนั้น กลัวที่จะมีอะไรเกิดขึ้น บางทีก็ก้มหน้ายอมรับเพราะกลัวที่จะไม่ได้เจอลูก แค่ว่าผ่านมา 2 ปีแล้ว รู้สึกว่าบางเรื่องต้องพูดบ้างและ ที่พูดนี่ไม่ได้ทำร้ายใคร แค่อธิบายเราต้องปกป้องตัวเอง ไม่ว่าเวลาที่พี่เขาโพสต์มา เช่นทุกครั้งที่พี่เขาโพสต์ ก็ดึงเราเข้าไป แล้วเราก็จะมีส่วนทำให้คนคิดแบบนั้น”

เชื่อเหตุการณ์เรื่องเบอร์โทรศัพท์ คงไม่ทำให้ไม่ได้เจอลูก เพราะดีชั่วอยากให้ดูที่เจตนา
“ไม่ได้คิดแบบนั้น คนเราจะดูว่าดีหรือชั่วอยากให้ดูจากเจตนา ถ้าสมมติเปิดเบอร์อย่างตั้งใจ หรือจงใจทำไมไม่เอาเบอร์นี้ใช้หลายๆ วัน หลายๆ ชั่วโมง หรือ ยังไง ก็แก้ไขให้เลย หรืออาจจะทำตามศูนย์บริการที่แนะนำ ว่าระงับเลยไหมค่ะ เพราะเราไม่ได้ผิด”

เผยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันแค่เวลา 2 ชั่วโมงเท่านั้น
“ไม่ใช่ 2 วันนะ ซิมนี้ถูกส่งให้พี่หนุ่มภายใน 2 ชั่วโมงด้วยซ้ำ หลังจากไปขอซิมมา ขับรถกลับบ้าน เอาซิมใส่เครื่อง ใส่ปุ๊บมีคนโทรเข้ามา ก็ถอดซิมออก ก็ขับรถเอาไปให้เลย ที่ป้อมยาม (คือถ่้ายกหูโทร.หากัน ก็จะไม่ดรามา?) ก็ไม่เห็นโพสต์ของเขา คือมีความรู้สึกว่า โดนอะไรแบบนี้มาเยอะแล้วก็ชิน และรู้สึกว่าเข้าใจพี่เขานะ

2 ปีผ่านมา พยายามแก้ไขและใจเย็น แต่เรื่องนี้ตัวเองผิดอะไร ตรงไหน
“แต่อันนี้ต้องออกมาพูดบ้าง มาอธิบายบ้าง ไม่อย่างนี้ จะรู้สึกว่าเป็นเชลยสังคม เวลาพี่เขาโพสต์อะไรมา หนูไม่มีแฟนคลับ แต่หนูมีชนักติดหลัง ตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา มีแค่เรื่องนั้นเรื่องเดียว แล้วใครเห็น 2 ปีนี้หนูมีไหมคะ แสดงว่าหนูพยายามแก้ไข ใจเย็น เคลียร์ อย่ามองเป็นมุมอื่นเลย ตามเจตนาผิดไหม ที่เปิดเบอร์มาก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายใคร เพราะฉะนั้นหนูผิดอะไร ตรงไหน”

ยอมรับ “หนุ่ม ศรราม” มีสิทธิ์ที่จะไม่ไว้วางใจ แต่สาบานให้ตายห่x ว่าไม่ได้โกหก
“คนเราสามารถไม่ไว้ใจได้ มีสิทธิ์ที่จะคิด นั่นคือเรื่องของบุคคล แต่เราจำไม่ได้เลยว่ามีกี่เบอร์ ให้สาบานให้ตายห่xเลยก็ได้ หนูไม่พูดโกหก (วันนั้นเราได้กี่ซิม?) 3 เลยค่ะ”

เข้าใจชาวเน็ตบางคน ยังไม่มูฟออนจากเรื่อง 2 ปีที่แล้ว
“คือหนูเข้าใจสังคม หนูเข้าใจประชาชนค่ะ เข้าใจพี่ๆ นักข่าว จะบอกว่าตอนแรกหนูไม่เข้าใจวงการบันเทิง หนูเพิ่งเข้ามา แล้วพอเพิ่งเข้ามามันกลายเป็นว่าอันนี้ก็ดรามา จากคนที่เคยใช้ชีวิตอยู่ปกติ พอวันหนึ่งมาแต่งงานกับซุป'ตาร์หรืออะไรแบบนี้ มันกลายเป็นชีวิตมีแต่เรื่องดรามา ตอนแรกไม่เข้าใจ หลังๆ 2 ปีนี้เริ่มทำความเข้าใจ เราก็เข้าใจสำหรับคนคอมเมนต์หรือด่าเรา จะมองว่าไม่ดี แต่ขอแค่ให้ดำเนินชีวิตโดยที่ไม่มีใครมาชี้เป้า ถ้าชี้เป้าเรายังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ก็กลายเป็นว่าเราผิดไปแล้ว”







กำลังโหลดความคิดเห็น