“ดีเจมะตูม” แก้ข่าวมีเงินเก็บ 500 ล้านแต่ใช้หมด ยอมรับเคยหลงระเริง ใช้เงินวันเป็นล้าน ตอนนี้อยู่จุดกลางๆ ไม่ขึ้นสุดลงสุด ตกผลึกเรื่องการใช้เงิน เลิกช้อปปิ้งแบรนด์เนม 3 ปีแล้ว ไม่เรียกว่าตกต่ำ ยังออกไปทำงานหาเงินอยู่ ใช้บทเรียนมาดำเนินชีวิต ปัดมีเอี่ยว Forex-3D ตรวจสอบได้
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ “ดีเจมะตูม เตชินท์ พลอยเพชร” ได้ไปออกรายการ ‘ว่ามาดิ with Lily and Marie’ ว่าสมัยก่อนตอนชีวิตขึ้นสุด ใช้เงินวันละ 3 ล้าน เพราะรวย และเคยเห็นยอดเงินในบัญชี 500 ล้าน ก็ทำเอาเป็นที่ฮือฮา เพราะหลายคนแอบไม่เชื่อ ว่าเจ้าตัวมีเงินถึงขนาดนั้น ล่าสุดได้เจอมะตูมในงานครบรอบ 2 ปี TOPONE 2nd Anniversary เจ้าตัวก็เลยขอตอบถึงประเด็นนี้แบบชัดๆ ให้ได้ฟังพร้อมกันว่า
“มะตูมไม่ได้มีเงินเก็บ 500 ล้าน เหมือนที่ข่าวออกมานะครับ อันนี้ไม่เป็นความจริงครับ ไม่ได้ใช้เงินวันละล้าน เคยใช้เงินถึงวันละล้าน โดยการซื้อนาฬิกาอะไรแบบนี้ แต่ใครจะใช้เงินวันละล้าน เดือนหนึ่งมี 30 วัน โห 30 ล้าน ปีหนึ่งเท่าไหร่ เป็นไปไม่ได้ ตูมไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้น”
ยอมรับเคยใช้เงินวันละเป็นล้าน แต่ไม่ใช่ทุกวัน
“ก็เป็นล้านครับต้องยอมรับ แต่เป็นการช้อปปิ้ง ไม่ใช่ทุกวันนะครับ ตอนนั้นถ้านับเป็นวันไม่ค่อยได้นับ แต่นับเป็นเดือนก็หลายแสน หลักแสนถึงหลักล้าน แต่ไม่เคยเกิน 3 ล้าน”
ขอแก้ข่าวไม่เคยมีเงินถึง 500 ล้านแน่นอน
“ไม่ถึงแน่นอนครับคือ มันมาจากรายการมีเงิน 500 ล้านจริงไหม บอกก่อนว่าตูมเคยเห็นยอดนี้ แต่มันเป็นเงินบริษัท เป็นเงินลงทุน เมื่อก่อนตูมทำธุรกิจประมาณ 8 ตัวนะ แล้วไม่ใช่ทุกตัวที่ประสบความสำเร็จ มันก็มีบางตัวที่ขาดทุน บางตัวขาดทุนเยอะพอสมควรเพราะฉะนั้นเงินเก็บของตูมจริงๆ ไม่ได้เยอะขนาดนั้น เงินหมุนเวียนในบริษัท หมุนชำระวน เป็นหนี้ที่ก่อเกิดรายได้ไปเรื่อยๆ มากกว่า มันไม่ใช่เงินส่วนตัว แต่หัวข้อข่าวออกไป ขอแก้ตรงนี้นะครับ ว่ามะตูมเคยมี 500 ล้านแล้วหมด บอกเลยว่าไม่ใช่นะครับ ถ้ามีคงไม่ต้องมาทำงานแล้ว(หัวเราะ)”
โอดโดนเข้าใจผิดเยอะ อยากให้โฟกัสเรื่องการวางแผนชีวิตทางการเงินมากกว่า
“เยอะครับ แต่ตูมอยากให้ทุกคนที่ดู ไม่ต้องไปโฟกัสว่าตูมใช้เงินมาเท่าไหร่ หรือว่ามะตูมเสียอะไรไปบ้าง แต่อยากให้เอาทัศนคติของตูม ณ วันนี้ไปปรับใช้กับตัวเอง ว่าคุณต้องวางแผนชีวิตทางการเงินดีๆ ถ้าคุณใช้ชีวิตแบบตูม ใช้ชีวิตแบบสามล้อถูกหวย มีเงินแล้วไม่เคยเก็บ มันหมดได้จริงๆ นะ ต่อให้วันนี้ถูกหวย 30 ล้าน ปีหน้าก็หมดได้นะ ถ้าคุณไม่ตั้งใจเก็บเงิน ตูมแค่อยากจะออกมาแชร์ เอาประสบการณ์ของตัวเองมาแชร์ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนดูต่อไป”
เคยหลงระเริงกับเงินที่หามาได้ แต่วันนี้อยู่ในจุดกลางๆ ไม่เรียกว่าตกต่ำ เพราะยังออกมาทำงานหาเงิน
“ตูมเริ่มจากลบเลยนะ อยู่เยอรมันบินกลับมาไทย มีเงินในบัญชีไม่ถึงแสน จนวันหนึ่งทำธุรกิจ แล้วก็หลงระเริงกับมัน พอมาอยู่จุดที่กลางๆ มันไม่ได้ขึ้นสุดลงสุด ตูมเชื่อว่าเวลาที่คนบอกว่า ตอนนี้ตูมไม่ได้มีเงินเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตกต่ำหรือเปล่า คำว่าตกต่ำใช้กับตูมไม่ได้ ตูมยังออกมาทำงานหาเงิน ตูมยังรับผิดชอบชีวิตลูกน้องอีกเยอะมาก ยังมีหลายคนในประเทศนี้ลำบากกว่าตูมอีก ยังไม่เคยได้จับเงินล้านด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นตูมจะไม่เอาชีวิตตัวเองมารัดทนและดรามา ตูมไม่ได้ถึงจุดที่ตกต่ำ เพียงแค่เอาพฤติกรรมและนิสัยการใช้เงินของตูม ในสมัยก่อนที่มันไม่ดี มาแชร์เป็นประสบการณ์ให้คนระมัดระวังการใช้เงินของตัวเองเท่านั้นเลยครับ”
เมื่อก่อนใช้เงินแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง
“ไม่คิดเลยครับ ก็มันมี มันหลง จัดงานวันเกิดเอย เลี้ยงเพื่อน ตูมเป็นคนที่เวลาเพื่อนไปกินข้าวกับตูม ไม่เคยต้องจ่าย”
ตอนนั้นมีผู้ใหญ่และพี่ๆ คอยเตือนตลอด
“ต้นหอม ศกุนตลา เทียนไพโรจน์, มดคำ คชาภา, ดาด้า (วรินดา ดำรงผล) ครับ เยอะครับ จริงๆ ผู้ใหญ่และพี่ๆ เขา จะบอกว่าตูม มีเงินอย่าเพิ่งเหลิง อย่าเพิ่งซื้อแบรนด์เนม อย่าเพิ่งบินไปเที่ยวโน่นนี่ เก็บก่อน แต่ว่า ณ ตอนนั้น คนไม่เคยมี มันเป็นเรื่องปกติที่อยากจะใช้ชีวิตที่ตัวเองไม่เคยได้ใช้ แต่พอวันนี้ได้ใช้แล้ว ก็คงไม่กลับไปใช้แบบวันนั้นแล้ว”
ไม่ช้อปปิ้งแบรนด์เนมมา 3 ปีแล้ว
“ไม่ซื้อเลยครับ ตูมไม่ได้ช้อปปิ้งแบรนด์เนมมา 3 ปีแล้วครับ แบรนด์เนมล่าสุดคือซื้อของขวัญให้ดีเจมดดำเลยครับ”
ใช้ชีวิตสมถะแบบไม่เบียดเบียนใคร ได้ปลดหนี้ให้พ่อแม่อยู่สบายก็โอเคแล้ว
“ชีวิตสมถะของตูมคือชีวิตที่ไม่ต้องเบียดเบียนใครครับ คือถ้าเกิดคุณมีเงินแล้วคุณใช้ของคุณเอง โดยที่ไม่ต้องไปหยิบยืมใคร ไม่ต้องเป็นภาระใคร คุณจะใช้เงินวันละล้านสิบล้านแต่มันเป็นเงินคุณ สะดวกเลยครับ อันนี้คือสมถะในรูปแบบของแต่ละคน มันไม่เหมือนกัน แต่สำหรับตูม ณ ปัจจุบันนี้แค่ตูมปลดหนี้ให้พ่อให้แม่ตูมได้อยู่กินสบาย ให้ลูกน้องตูมได้มีเงินเดือน ได้มีงาน ตูมโอเคครับ”
ณ วันนี้ก็ยังมีหนี้อยู่ เพราะเป็นคนทำธุรกิจ และบางอย่างก็ไม่ได้ซื้อเงินสด
“มีครับ แน่นอนตูมเป็นคนทำธุรกิจครับ มันก็ยังมีหนี้ที่เราต้องเคลียต้องสะสาง บ้านที่เพิ่งซื้อให้คุณแม่ก็ไม่ใช่ว่าตูมซื้อเงินสดทั้งหมดนะครับ เงินสดบางส่วนแต่ก็มีต้องผ่อนชำระเหมือนกัน”
ใช้บทเรียนเก่าๆ มาดำเนินชีวิตต่อ
“ใช่ครับ จริงๆ สุดท้ายแล้วบทเรียนทุกอย่างมันฟังจากใครไม่ได้ มันต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง ตูมเดินมาเองตูมล้มเองตูมลุกเองตูมพลาดเองเท่านั้นเลยครับ”
มองเป็นเรื่องปกติ กับดรามาใช้เงินฟุ่มเฟือย เพราะวันนั้นก็ใช้เงินตัวเอง แต่วันนี้ตกผลึกได้แล้ว
“เป็นเรื่องปกติครับ ช่วงนี้มันจะมีกระแสเรื่องคนในวงการใช้เงินมือเติบกันอยู่แล้วใช่ไหมครับ แต่ส่วนตัวตูมมองว่า ณ ตอนนั้นตูมก็ไม่ได้ไปจี้ปล้นใครนะครับ ตูมก็ใช้เงินของตูม แต่เพียงแค่ตูมไม่ระวังในการใช้เงิน ณ วันนี้เราได้ตกผลึก เราไม่มีเหมือนเมื่อก่อนแล้วเลยทำให้เราอยากมาบอกทุกคนว่า การเก็บเงินหรือการอดออมเงิน ไม่เอาสิ่งยั่วยุอะไรมาบังตา แล้วเราเก็บเงินไว้มันเป็นประโยชน์นะ เพราะเงินสดเป็นสิ่งที่มีมูลค่ามากในตอนนี้”
ทุกวันนี้ยังเจอคอมเมนต์ด่า แต่มีภูมิต้านทานแล้ว ไม่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว รับฟังอันที่ติเพื่อก่อ ส่วนอันไหนเกินไปก็ลบทิ้ง
“มีครับ มีเยอะมากครับ ทุกวันนี้ก็ยังเจอคอมเมนต์ด่าอยู่ครับ ตั้งแต่ตูมโดนรอบโควิด ตอนนี้คอมเมนต์ด่ามันไม่ค่อยเจ็บปวดเหมือนเมื่อก่อน หรือเพราะว่ามันเยอะจนเรามีภูมิต้านทานหมู่ มันกลายเป็นวัคซีน คือเราต้องดูก่อนว่าคนที่เข้ามาด่าเราเขาด่าเพราะอะไรด่าเพราะอคติ คนที่ด่าเพราะอคติ เราแก้อะไรไม่ได้ เราไม่สามารถไปบอกว่า ได้โปรดเข้าใจฉันและรักฉัน เราทำไม่ได้ แต่ถ้าเกิดเขาด่าเพื่อติ อยากให้เราโตขึ้นอันนี้ตูมฟัง เราจะไม่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วอยู่แล้ว ตูมน้อมรับทุกคอมเมนต์ครับ แต่อันไหนที่มันเกินไปตูมก็ลบทิ้ง”
ปัดเกี่ยวข้องกับ Forex-3D ตรวจสอบได้
“ตอนนี้มีคนโยงว่าตูมน่าจะเกี่ยวข้องกับคดีแชร์ดังกล่าว ซึ่งก็ตรวจสอบได้นะครับ ของทุกอย่างมันตรวจสอบได้ เอาชื่อตูมไปตรวจสอบได้เลย จริงๆ ตอนนี้ใครก็ตามที่มีรายชื่ออยู่ตรงนั้น มันก็สามารถออกมาสู่สาธารณะได้หมดแล้ว ตูมยืนยันว่าตูมไม่เคยลงทุนหรืออะไรพวกนี้เลย เพราะตูมเล่นไม่เป็น (ไม่มีใครชักชวนเลยใช่ไหม?) เล่นไม่เป็นครับ”
