“เต๊ะ ศตวรรษ” เปิดใจมีบทเรียนเคยเล่นพนัน! ต้องวางแผนการเงินเพื่อครอบครัว แต่ง 22 ต.ค. ปีหน้าปล่อยท้องเลย แซวว่าที่เจ้าสาว ไม่อยากให้ตื่นเต้นเกินไป เดี๋ยวกินจุ ทำใจชีวิตหลังแต่งไม่ง่าย เคยผ่านการมีคู่มาก่อน
ใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว สำหรับงานวิวาห์ระหว่าง “เต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร” กับว่าที่เจ้าสาว “แจ๊คกี้ แพรวไพลิน” ดีกรีแฮร์โฮสเตสสายจากสายการบินดัง โดยหนุ่มเต๊ะได้เผยถึงความคืบหน้าการเตรียมงานวิวาห์ในวันที่ 22 ต.ค. นี้ว่า ตอนนี้ได้ถ่ายพรีเวดดิ้งไปเรียบร้อยแล้ว โดยปีหน้าจะปล่อยท้องเลย
“อีกไม่กี่วันแล้วครับ 22 ตุลาคม เตรียมงานไปเยอะพอสมควรแล้งครับ เราเพิ่งถ่ายพรีเวดดิ้งเสร็จไปที่หัวหิน บรรยากาศที่ถ่ายพรีเวดดิ้งฝนตกหนักครับ แต่ก็ขอบคุณพระเจ้าครับ พระเจ้าของรักเรา แม้ว่าฝนตกก็ยังมีจุดด้านในให้ได้ถ่ายกันอยู่”
กะแต่งปุ๊บปล่อยให้มีลูกเลย แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจ ขอรอสัก 3-4 เดือนค่อยว่ากัน
“ตอนแรกที่คุยเรื่องแต่งงานกะว่าแต่งปุ๊บก็จะปล่อยให้มีน้องเลย แต่ดูแล้วขอเป็นช่วงต้นปี หรือหลังจากต้นปี เพราะอยากให้มีเวลาส่วนตัวให้ได้เที่ยวกันก่อนค่อยปล่อยมีน้อง เพราะว่าด้วยงานของเขา ด้วยงานแอร์โฮสเตส พอมีน้องเขาก็ต้องหยุดการทำงานเลย รออีกสัก 3-4 เดือนค่อยว่ากันครับ ถ้าได้แฝดก็ดีครับ แล้วแต่...ผมว่าพระเจ้ารู้ว่าเราเลี้ยงไหวหรือเปล่า ท่านรู้ว่าความสามารถเรา กำลังเราจะไปขนาดไหน”
หลังจดทะเบียนจะตรวจเลือด
"เรื่องนี้ไม่ได้ปรึกษาแพทย์เลย มีแต่ไปตรวจสุขภาพดูร่างกายก่อนที่จะสมรส แต่ยังไม่ได้ไปเจาะเลือด ก็น่าจะหลังวันที่จดทะเบียน ผมจดวันที่ 10 ต.ค. ผมคิดว่าพระเจ้าปกป้องครับ"
พ่อพูดเป็นสิบปีแล้ว อยากให้มีลูก
“คุณพ่อผมพูดไว้เป็น 10 ปีแล้วครับ (หัวเราะ) คือปีนี้ผมอายุ 40 ปี แจ๊คกี้อายุ 29 ปี ก็คงไม่ปล่อยให้มันนานครับ ถ้า 30 กว่า ร่างกายความเหนื่อยล้าอาจจะเยอะด้วย คิดว่าปีหน้านี้ครับถ้าพระเจ้าอวยพรให้มีก็จะปล่อยตามธรรมชาติครับ”
ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ใกล้วันวิวาห์
“ตื่นเต้นครับ นอนไม่หลับ อย่างวันนี้เมื่อคืนก็นอนไม่หลับครับ คือคิดหลายเรื่องมาก ทั้งเตรียมงาน เรื่องฝนด้วย เพราะว่าเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว แล้วก็เรื่องงานด้วย ผมขอบคุณพระเจ้าที่อาย วราไพรินทร์ โทร.มาหาผม ผมเองก็เป็นคนที่เคยผ่านวิกฤตความยากจนมาก่อน เรารู้ว่าเงินก้อนสุดท้าย เวลาไม่มีมันเป็นยังไง เราเห็นในเรื่องของแชร์ลูกโซ่ ผมคิดว่า Forex-3D ถ้าผมได้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนตาสว่าง ความสัมพันธ์ในครอบครัวจะดีกว่านี้ เพราะมันทะเลาะกันครับ เตือนแล้วไม่ฟัง หรือเอาเงินครอบครัวไปลงทุน ทะเลาะกันก็เข้าสู่การหย่าร้าง ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่”
ชีวิตต้องวางแผนการเงินเพื่อครอบครัว
“แน่นอน อย่างแรกคือต้องไม่ไปยุ่งกับพวกนี้ เพราะผมคิดว่ามันไม่คุ้ม ผมเคยผ่านชีวิตเรื่องของการพนันมาก่อน ผมเคยเล่นพนันฟุตบอล ตอนได้ก็ดีใจ แล้วสุดท้ายพอเราเสียเงิน เราก็เรียนรู้ ผมคิดว่ามันต้องกลับมาที่สติปัญญาของเราละที่จะต้องรับฟังความเป็นจริง เข้าใจว่าหลายคนเล่นแบบนี้ เพราะอยากจะมีอนาคตที่ดี มีครอบครัวที่ดี อยากปลดหนี้ปลดสินแต่มันต้องอยู่ในพื้นฐานความเป็นจริงไม่งั้นเราก็จะกลายเป็นเหยื่อแบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วคนไทยก็จะพ้นจากความยากจนไม่ได้ ตอนนี้ก็คิดทั้งเรื่องงานและเรื่องแต่ง รวนเลยครับ (หัวเราะ)”
หาไม่มีฤกษ์ เน้นจำง่าย
“จำง่าย จริงๆ วันที่ 10 ต.ค. เราไม่มีฤกษ์ ด้วยความเป็นคริสเตียนเราไม่มีฤกษ์ หรือเรื่องของการดูดวงอยู่แล้ว แล้วที่เราแต่งวันที่ 22 ต.ค. เพราะมันปี ค.ศ.2022 แค่นั้นเอง แล้วมันก็ตรงวันเสาร์ เป็นช่วงที่คริสตจักรเขามีพื้นที่ให้ใช้ครับ ส่วนแพลนฮันนีมูนเอาจริงยังไม่ได้คิดเลยครับ คืออาจจะเที่ยวในประเทศครับ ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย”
แซวว่าที่ภรรยา คงทำมาม่าได้อร่อยขึ้น
"ผมคงว่าเขาจะทำมาม่าได้อร่อยขึ้นครับ (หัวเราะ) คือเขาเล่าให้ฟังว่าเขาเป็นคนที่ทำอาหารเป็นครับแต่เนื่องจากว่าเรายังไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ผมก็จะรู้วันที่ 22 ต.ค. นี้ว่านิยามของเขาและคำว่าเป็นของผมมันตรงกันหรือเปล่า
ถามว่าเขาตื่นเต้นไหม อย่าให้เขาตื่นเต้นเลยครับ เพราะถ้าเขาตื่นเต้นเขาจะกินเยอะ (หัวเราะ) เขาเป็นคนกินเยอะ คือช่วงนี้เขาพยายามลดน้ำหนักอยู่ เป็นอะไรที่ท้าทายเขามาก เพราะอย่างแรกช่วงที่เราคบกันเป็นช่วงที่เรากินจุ อยู่ๆ ก็กินเยอะมาก เขาเป็นแอร์ฯ เวลาไปทำงานก็โดนตำหนิว่าจะกินเยอะไม่ได้นะ แล้วเขามีปัญหาเรื่องสุขภาพด้วย ปัญหาที่ทำให้เขามีน้ำหนักขึ้นง่าย ก็เลยรักเรื่องสุขภาพ จริงๆ ผมไม่ค่อยห่วงเรื่องไซส์ เพราะผู้หญิงไซส์ไหนก็สวย แต่ผมห่วงเรื่องสุขภาพเขา”
จากน้ำหนักขึ้นเป็นสิบกิโล ตอนนี้ลงมา 5 กิโลแล้ว
"ตอนนี้เขาลดน้ำหนักลงมาเยอะแล้วครับ ตอนขึ้นมา 10 กิโลฯ ตอนนี้ลดลงมา 4-5 กิโลฯ แล้ว ก็ใส่ได้ครับ ผมว่าเขาน่ารักในแบบเขา เรื่องเข้าคอร์สเจ้าบ่าว-เจ้าสาว ไม่มีครับ อาจจะมีไปทำผิวบ้าง เพราะผมก็อายุ 40 ปีแล้วอยากให้เป็นวันนั้นที่แบบเวลาเขามองหน้าผมใกล้ๆ หรือเวลาแลกแหวนจะได้ไม่จ้องที่รอยตีนกาผมครับ ก็มีดูแลบ้างเหมือนกัน”
เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว รู้ว่าชีวิตคู่ไม่ง่าย
"จริงๆ ผมคิดว่าการปรับเข้าหากันเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร เพราะว่าการที่เราได้คบหากันในระยะเวลาที่ไม่ได้นานมาก ผมรู้จักเขาเมื่อช่วงธันวาคม จนความถึงช่วงกุมภาพันธ์ที่เราตกลงกันเป็นแฟน ก็เป็นการแต่งงานที่ค่อนข้างจะไวนะ ยังไม่ถึงปีเลย แต่ต้องยอมรับว่ามุมมองภายนอก ความคิดต่างๆ ที่เราได้รู้จักกันประมาณนี้ ค่อนข้างที่จะโอเค แต่ด้วยการใช้ชีวิตคู่มันไม่ใช่เรื่องง่าย ผมเคยแต่งงานมาก่อน ผมทราบดีว่าก่อนแต่งกับหลังแต่งมันเป็นยังไง เขาเองอาจจะคาดหวังกับผม ผมเองก็อาจจะคาดหวังกับเขาเช่นกัน แต่ท้ายที่สุดผมคิดว่าถ้าเรามีพระเจ้าในการพิสูจน์ในการแก้ปัญหา ถ้าทะเลาะกันก็ดูพระคัมภีร์พูด ผมคิดว่ามันจะสามารถทำให้เราเดินไปต่อได้ ชีวิตก็จะรักษาความสัมพันธ์ได้ดี”
อายุห่างไม่ใช่เรื่องสำคัญ
"ถามว่า 40 ปี กับ 29 ปี ห่างกัน 11 ปี ถามว่ามันไกลไหม ไม้ได้ไกลมากหรอกครับ แต่ผมเองก็มีมุมที่ผมเป็นเด็กเหมือนกัน เขาเองก็มีมุมที่เป็นผู้ใหญ่ บางทีเขาก็ให้คำแนะนำที่ดีได้มากกว่าผมด้วยซ้ำแต่ผมคิดว่าเรื่องอายุไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ผมต่างหากที่มองเรื่องอายุในเรื่องของสุขภาพ ผมเองก็อยากเป็นคุณพ่อที่วิ่งกับเด็ก วิ่งกับลูกได้ ไม่ใช่เข่าดัง นึกว่าเป็นงานตรุษจีนแบบจุดประทัด ไม่เอา ผมเองก็ต้องเริ่มกลับมาดูแลสุขภาพ คิดว่าถ้าสุขภาพดีก็จะได้ดูลูกด้วย ดูแลเขาด้วย ไม่อยากจะโยนภาระลูกทั้งหมดไปให้กับเขา ทั้งสองครอบครัวก็ยินดีกับเราทั้งคู่ครับ ก็เห็นว่าต่างคนก็ต่างเป็นผู้ใหญ่ที่จะมีครอบครัวได้แล้ว”