ฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มตามสำหรับ “คีย์ใจ” (Heart Key) ของนักแสดงหญิง "พีค ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ"
เป็นการยิ้มที่ไม่ได้เกิดจากความพึงพอใจจากการฟัง "เสียง" ของ "เพลง" เท่านั้น หากแต่เป็นการยิ้มที่มาจากความรู้สึกอิ่มเอมและความรู้สึกยินดีไปกับตัวนักแสดงหญิงอย่างแท้จริง
จากคนที่ได้รับฉายาที่ไม่น่าพิสมัย ทั้ง นักร้องหลังเที่ยงคืน นักร้องไล่แขก ฯ จากหญิงสาวที่ใครๆ ก็คงไม่คิดว่าเสียงแง๊วๆ จะเหมาะกับการเป็นนักร้อง ใครจะคิดว่าวันนี้เธอคนเดียวกันนี้จะมีผลงานเพลงเป็นของตัวเองแล้ว
แน่นอนว่าจุดตั้งต้นมันอาจจะมาจาก "ความรัก" ไม่ต่างอะไรไปจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็น "นักร้อง" คนอื่นๆ ทั่วไป แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องชื่นชมเจ้าตัวเป็นอย่างมากก็เห็นจะเป็นความพยายามของสาวพีคบนพื้นฐานที่แทบจะเรียกได้ว่าปราศจากซึ่งพรสวรรค์ ชนิดไม่มีเลยทั้ง ร้องเพลงเป็น ร้องเพลงได้ ร้องเพลงเพราะ
ดูเหมือนที่มีอย่างเดียวก็คือ "อยากร้อง"
อย่างไรก็ตาม ถ้าจะพูดกันถึงในแง่ของการเป็นนักร้องแล้วคงจะเป็นการโกหกอย่างแน่นอนถ้าจะบอกว่าถึงตอนนี้สาวพีคเธอเป็นนักร้องที่ร้องเพลงได้เพราะแล้ว แต่เชื่อเถอะว่าสำหรับ “คีย์ใจ” Heart Key ที่เธอร้องนั้น เรื่องของความไพเราะหรือไม่เพราะมันแทบจะไม่ใช่สิ่งที่จะต้องไปสนใจแต่อย่างใดเลย
เพราะทั้งหมดมันถูกทดแทนด้วยความลงตัวทั้งเรื่องของดนตรี เนื้อหาของเพลง ที่สำคัญก็คือสิ่งที่เรียกกันว่า "อารมร์ของเพลง" ที่เชื่อว่าคนฟังเองสามารถสัมผัสและรับรู้ได้ทันทีว่านักร้อง นักดนตรี ต้องการจะส่งสารหรือสื่ออะไรออกมา ซึ่งจะว่าไปแล้วตรงนี้มันคือ "หัวใจ" ของเพลงแต่ละบทเพลงมากกว่าการจะมานั่งเพ่งพินิจอีกว่านักร้องคนนี้ร้องเพลงเพราะหรือไม่เพราะเสียด้วยซ้ำไป
งานนี้ที่ต้องชมก็เห็นจะเป็นค่ายเพลงอย่าง "เลิฟอีส" และทีมทำเพลงที่ให้ทั้งโอกาสและสามารถเลือกสรรคัดหาวัตถุดิบมาปรุงความฝันของสาวพีคให้เป็นจริงได้อย่างไม่มากไม่น้อย ที่สำคัญไม่ทำให้รู้สึกว่าเธอเองต้องฝืนทำจนต้องสูญเสียความเป็นธรรมชาติในตัวตนแต่อย่างใด
กรณีของสาวพีคเองทำให้ต้องนึกไปถึงสองสาวดูโอค่ายในเครือเดียวกันอย่าง "โบ-จอยซ์" ซึ่งหากจะว่ากันเฉพาะ "เนื้อเสียง" แล้วทั้งสองต่างก็ไม่ได้มีน้ำเสียงเป็นนกไนติงเกลแต่อย่างใด แต่ก็อย่างที่เห็นๆ ถึงวันนี้บทเพลงของทั้งคู่หลายต่อหลายบทเพลงก็ยังคงเป็นเพลงที่หลายคนชอบฟังและร้องตามอยู่
หรือจะให้เห็นภาพชัดๆ ก็คงจะต้องย้อนกลับไปในยุคค่ายเพลงคีคาฯ ที่แรกๆ นักร้องหลายคนต่างก็โดนคนในวงการเพลงวิจารณ์ยับทั้งกรณี อ๊อฟ พงษ์พัฒน์, เอ็ม สุรศักดิ์ วงษ์ไทย ฯ แต่ก็อย่างที่เห็น ถึงวันนี้เราก็ยังคงได้บทเพลงหลายๆ บทเพลงของพวกเขาอยู่
อันที่จริงน้ำเสียงแบบสาวพีคที่หลายคนอาจจะรู้สึกว่าเสียงแบบนี้ไม่เหมาะกับการร้องเพลง เสียงแบบนี้เป็นนักร้องไม่ได้หรอก แต่ถ้ามองถึงข้อดีในทางตรงข้ามกันก็คือหากเธอได้ร้องน้ำเสียงของเธอมันจะเป็นน้ำเสียงที่เรียกว่ามี "เอกลักษณ์" เฉพาะตัวจริงๆ ชนิดไม่ต้องเห็นหน้าก็รู้ว่าเป็นเธอ
ส่วนข้อเสียก็คือมันอาจจะเป็นการยากอยู่เหมือนกันหากเธอจะต้องไปร้องเพลงของคนอื่น แต่ก็อีกนั่นแหละการมีบทเพลงเป็นของตัวเองแล้วให้คนอื่นมาร้องยังไงมันก็เท่กว่ากันเยอะ
คงจะต้องดูกันต่อไปสำหรับเส้นทางการเป็นนักร้องของสาวพีค แต่อย่างน้อยๆ ตอนนี้เธอก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเธอร้องเพลงได้ และได้ร้องเพลงของตัวเองแล้ว...