“นัท ทิวไผ่งาม” ค้นพบอาชีพใหม่ผันตัวเป็นเทรนเนอร์อาชีพ ลั่นขอทำควบคู่ไปกับอาชีพนักแสดง มองเทรนเนอร์เป็นงานระยะยาว ลงทุนเข้าคอร์สเรียน ศึกษางานวิจัยต่างๆ จนตอนนี้มีลูกศิษย์เป็นร้อยคนแล้ว ไม่กังวลโรคจิตโชว์หุ่นล่ำเพราะเป็นตัวตน
หุ่นแซ่บเกินต้านจริงๆ สำหรับ “นัท ทิวไผ่งาม” ที่ตอนนี้นอกจากจะเป็นนักแสดง นักร้องในวงการบันเทิงแล้ว ยังเริ่มต้นกับอาชีพใหม่ผันตัวมาเป็นเทรนเนอร์ โดย นัททิว ได้บอกกับเราถึงไอเดียตั้งต้นกับอาชีพเทรนเนอร์ เริ่มมาจากช่วงโควิด-19 ที่ตนไม่มีงานอะไรให้ทำนอกจากการออกกำลังกาย
“ตอนนี้ผันตัวเป็นเทรนเนอร์แล้วครับ ก็ดีนะครับ เหมือนเราได้ทำงานในสิ่งที่เราชอบ ที่เราสนใจ ความสนใจมันเริ่มจากการที่เราอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีหุ่นที่ดีขึ้น รูปร่างดีขึ้น เราก็เลยควบคุมตัวเองให้มีวินัย เราสั่งสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ จนวันนี้เรามาทำหน้าที่อีกหน้าที่นึง จากที่เราคุมแค่ตัวเอง วันนี้เรามารับหน้าที่คุมให้คนอื่นด้วย มีนักเรียนเป็นของตัวเอง มันก็ได้อีกฟีลนึง
อาชีพนี้ได้มาตอนช่วงโควิดระบาด ที่ผ่านมาเราก็เล่มเวทเพราะจะปั้นหุ่นไว้สำหรับทำงานในวงการใช่ไหมครับ เราจะได้เป็นนักแสดงที่เท่ แต่พอช่วงโควิด ผมไม่ได้ทำงานถ่ายละครหรืออะไรเลย นอกจากออกกำลังกายอย่างเดียว เลยรู้สึกว่าการออกกำลังกายของเราเองมันก็น่าจะเป็นอาชีพได้นะ เพราะเราก็ยังเล่นอยู่ตลอด ไม่ได้หยุดเลย มันน่าจะมาทางตรงนี้สำหรับเราบ้าง ก็เลยลองศึกษาว่าการออกกำลังกายที่เราทำอยู่ มันต่อยอดเป็นอะไรได้บ้าง ก็มาลงตัวที่การเป็นเทรนเนอร์”
ลงทุนเรียนเพื่อเป็นเทรนเนอร์มืออาชีพ
“เราทำมันจนมันเป็นสิ่งที่เรารัก เป็นส่วนนึงของเราไปแล้ว พอเราตัดสินใจว่าจะลองเป็นเทรนเนอร์ เราก็ไปลงคลาสเรียนเพื่อการเป็นเทรนเนอร์ ไปสอบเพื่อให้ได้ใบประกาศเพื่อจะได้เป็นครู ก็ลงมือศึกษาเองทุกอย่าง ไม่มีใครมาชวน มาแนะนำ เราตั้งต้นที่ความตั้งใจว่าเราอยากจะเป็นครูสอนนักเรียนแล้ว ถ้าเราไม่ไปเรียนให้ได้ใบประกาศมา ใครจะกล้าการันตีว่านักแสดงที่ผันตัวมาเป็นเทรนเนอร์จะน่าเชื่อถือ ก็เลยตั้งใจและพยายามเรียน และสอบให้ได้ใบรับรองในอาชีพเทรนเนอร์
มันก็ยากในระดับที่ทุกคนสามารถเรียนได้ ไม่ได้ยากขนาดว่าไม่ไหวแล้ว สำหรับทุกคนที่สนใจและรักการออกกำลังกาย สามารถเรียนได้ สิ่งสำคัญสำหรับผมในการเป็นครูคือการอัปเดตงานวิจัยมากกว่าเพราะความรู้มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ความรู้ใหม่ๆ มันมาตลอด เราต้องวิ่งให้ทันว่าความรู้ใหม่ๆ มันไปถึงไหนแล้ว”
ภูมิใจได้เห็นนักเรียนประสบความสำเร็จตามที่แต่ละคนตั้งใจไว้
“ถามว่ายากไหม ม้นยากเป็นช่วงๆ คนที่เข้ามาสมัครแรกๆ เขาจะเข้ามาพร้อมไฟที่แรงมาเลย แต่พอเขาได้ทำไปเรื่อยๆ จะเริ่มมีอารมณ์ขี้เกียจบ้าง ท้อบ้าง ผมก็จะต้องมีหน้าที่เข้าไปพุชให้เขามีแรงใจที่จะไปต่อ
ความรู้สึกที่ได้เห็นนักเรียนประสบความสำเร็จ ไดเอตได้ มีกล้ามได้ตามที่เขาต้องการ มันฟูลฟีลหัวใจเรา เรารู้สึกภูมิใจ ตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่าคนที่เขาเป็นโค้ช เป็นเทรนเนอร์ ความรู้สึกที่เขาปั้นเด็กมันรู้สึกยังไง”
เป็นเทรนเนอร์ยากกว่าเป็นนักร้อง นักแสดง
“เทรนเนอร์ยากกว่า เราเข้าวงการมาได้เพราะการร้องเพลง การร้องเพลงมันเป็นชีวิตของเรา พอได้จับไมค์ ร้องเพลง ทุกอย่างมันก็มาโดยอัตโนมัติ ความตั้งใจของผมตอนนี้ตั้งใจให้เป็นอาชีพหลักทั้งงานในวงการบันเทิง ทั้งเทรนเนอร์ อยากให้ตัวเองเป็นคนสองอาชีพไปเลย ผมว่างานในวงการมีอายุ เทรนเนอร์อายุจะยาวกว่าตราบใดที่เราคอยอัปเดตงานวิจัยและยังคอยสอนคน ก็เป็นอาชีพที่เราตั้งใจลงหลักแล้ว หลักๆเลยคือเราพยายามสอนให้เขาไม่มองว่าการออกกำลังกาย การดูแลรูปร่าง ไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไร สามารถทำให้มันเป็นไลฟ์สไตล์ เป็นชีวิตประจำวันเราได้”
ตอนนี้มีลูกศิษย์เกือบ 100 คนแล้ว เป็นเทรนเนอร์ที่ตามจิกลูกศิษย์ตลอด
“ตอนนี้มีนักเรียน 3 รุ่นแล้ว รุ่นละประมาณ 30 คน รุ่นแรกผมสอนแค่คนเดียว รุ่นต่อๆ มาเริ่มเป็นทีมแล้ว นักเรียนก็จะมีทั้งผู้หญิง ผู้ชายครึ่งๆเลย ผู้ชายมาเพราะอยากจะเห็นกล้ามและลีนแบบเรา ส่วนผู้หญิงจะมาแบบรูปร่างท้วมหน่อย อยากจะไดเอต ผมก็เป็นครูที่ใจดีประมาณนึง แต่ถ้านักเรียนคนไหนไม่ส่งการบ้านก็จะเริ่มตามจิก(หัวเราะ) ต้องส่งงานนะ ใครเริ่มท้อก็จะเริ่มตามอย่างใกล้ชิด ตามบิวต์ มีตามแบบจริงจังเลยก็มีนะ ผมรู้สึกว่าผมหวังดีกับเขา อยากจะปั้นเขาให้สำเร็จ”
เป็นตัวตนในไอจีโชว์หุ่นล่ำ
“ผมรู้สึกว่าในไอจีผม ผมอยากให้คนเห็นตัวตนของผมจริงๆ ทุกคนรู้ว่าผมเป็นนักแสดง ในมุมไลฟ์สไตล์การเป็นนักแสดงคนก็เห็นแหละ แต่เราอยากจะให้คนรู้ในมุมที่เรามาเป็นเทรนเนอร์ ให้คนเห็นไลฟ์สไตล์การออกกำลังกายของเรา
ก็มีอินบ็อกซ์ทั้งไทยแลนด์และต่างชาติครับ ปกติมาแรงมากๆ ผมก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร ก็จะเจอไดเรกต์มาบ่อย ถ้ามาแบบชวนคุย ทักทาย ผมก็จะแนะนำการดูแลสุขภาพ รูปร่างไป แต่ถึงขนาดมาเสนอมาอะไรแบบนั้นยังไม่มีเข้ามา ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันน่ากลัวอะไรนะ มองว่าเขาน่าจะสนใจงาน ชอบดูรูปเรา ผมว่าเรื่องของการออกกำลังกายมันต้องเข้าไปอยู่ในชีวิตทุกคนแล้ว อะไรที่แนะนำได้ผมก็ยินดีครับ”
จริงจังทั้งอาชีพเทรนเนอร์ และในวงการบันเทิง
“เป็นคนเอาจริงเอาจังกับทุกมุม งานเทรนเนอร์ผมก็เอาจริง ผมจริงจัง ส่วนงานในวงการก็ยังไม่ทิ้ง ตอนนี้ผมถ่ายละครอยู่ 2 เรื่อง ก็ค่อนข้างที่จะต้องแบ่งเวลาให้ดีๆ เลยเหมือนกัน ตอนนี้ผมเป็นฟรีแลนซ์แล้วครับ ดูแลตัวเอง ตั้งแต่ผมเป็นฟรีแลนซ์ ผมก็ไปสมัครคอร์สเรียนต่างๆ เพื่อพัฒนาตัวเองจนสามารถสร้างอาชีพอีกอาชีพนึงขึ้นมาได้ มันไม่ยากเกินไปครับ ถ้าใจเราจะทำ”