xs
xsm
sm
md
lg

พระราชทานพวงมาลา วางหน้าหีบศพ “หม่อมน้อย” คนบันเทิงน้ำตาคลอ เผยถึงมรดกที่ทิ้งเอาไว้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ผู้แทนพระองค์ เชิญพวงมาลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พวงมาลา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พวงมาลาสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และพวงมาลา พระบรมวงศานุวงศ์ ไปวางหน้าหีบศพ “หม่อมหลวง พันธุ์เทวนพ เทวกุล หรือ หม่อมน้อย” ผู้กำกับภาพยนตร์และบรมครูด้านการแสดงที่ปลุกปั้นนักแสดงให้กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทย

ครอบครัวได้จัดพิธีรดน้ำศพและสวดอภิธรรม ท่ามกลางบรรยากาศสุดเศร้า มีคนบันเทิง เดินทางมาร่วมอาลัยแน่น อาทิ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, แดง ธัญญา วชิรบรรจง, อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม, นิว ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต, มาริโอ้ เมาเร่อ, สินจัย เปล่งพานิช, แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์, ชุดาภา จันทเขตต์, แจ๊บ เพ็ญเพชร เพ็ญกุล, แจง วราพรรณ หงุ่ยตระกูล, ใหม่ ณัฐฐา ลอยด์, ฮัท จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร, แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ, แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์, ฟลุค เกริกพล มัสยวาณิช, หญิง รฐา โพธิ์งาม, ผู้พันเบิร์ด วันชนะ สวัสดี, ปีเตอร์ นพชัย ชัยนาม, บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ, แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์, ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา, ปิงปอง สะแกวัลย์ ยงใจยุทธ ฯลฯ

โดย ต๊งเหน่ง รัดเกล้า อามระดิษและ หญิง รฐา โพธิ์งามที่มาร่วมอาลัยรักครั้งสุดท้ายในวันนี้ ได้เปิดใจเสียงสั่นน้ำตาคลอ

หญิง : “ถามว่าได้บอกลาอะไรหม่อมไหม ก็มีคำพูดเยอะ เมื่อคืนก็สวดมนต์อุทิศส่วนกุศลให้หม่อม แต่เมื่อกี้เท่าที่จำได้ก็คุยว่าเราจะเป็นนักแสดงที่ดี คำสอนของหม่อมที่เคยสอนเรา ถ้านึกได้วันนี้เลยก็คือธรรมดาของโลกก็คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป มันก็เป็นรูปธรรมที่หม่อมก็ยังสอนเราจนวินาทีนี้ (น้ำตาคลอ)”

ต๊งเหน่ง : “สิ่งที่หม่อมสอนคือไม่เฉพาะแค่เรื่องการแสดงแต่ก็เป็นเรื่องของชีวิตทั้งหมดด้วย (เสียงสั่น) หม่อมสอนให้เป็นคนมองโลกให้กว้างและเปิดรับคนทุกคนอย่างที่เขาเป็น สิ่งที่หม่อมสอนมันจะสะท้อนออกมาในทุกๆ งานของหม่อม แล้วก็ผลงานชิ้นสุดท้ายของหม่อม Six Characters มายาพิศวง ก็สะท้อนออกมาเป็นคำสอนสำหรับนักแสดงและคนที่ทำงานในวงการได้ดีที่สุด

นอกเหนือไปจากนั้นก็คือการมองโลกให้เป็น ก็ถึงแม้ว่าผู้ชมจะไม่ได้ทำงานในวงการก็จะได้รับด้วย ให้เราได้เข้าใจโลกในความเป็นจริงเป็นอย่างไรและการที่เราอยู่ในแต่ละบทบาท ก็เหมือนเราสวมบทบาทเป็นตัวละครต่างๆเช่นกัน แต่ท้ายที่สุดแล้ว เราก็ต้องกลับมาพิจารณาว่าสุดท้ายแล้วแก่นของตัวเรา เราเป็นอะไร เราทำอะไร เราจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร ถ้าถามเราผลงานชิ้นนี้ก็คือสะท้อนสิ่งที่หม่อมอยากจะบอกที่สุด อยากจะฝากไว้ให้ทุกๆ ท่านที่มีโอกาสได้ชม ได้อ่านหลายๆ ข้อความที่หลายๆ ท่านอยากจะมีโอกาสมาเรียนกับหม่อมหรือได้รู้จักหม่อมและไม่ได้มีโอกาส

หม่อมเคยพูดกับเราว่าต๊งเหน่งเราเหนื่อย เราไม่อยากทำหนังแล้ว (เสียงสั่น) เหนื่อยจังเลยเพราะว่าบางครั้งคนที่เราทำงานด้วยเราก็ผิดหวัง เราก็ฟังหม่อม หม่อมก็พูดว่าเราสอนเรามีความสุขกว่าเยอะ สอนนักเรียนในด้านต่างๆ ทั้งกำกับ ทั้งการแสดงเราก็มีความสุข เราก็กราบเรียนหม่อมว่า อย่าหยุดทำหนังเลย เพราะว่ามันคือการได้สอนคน เป็นวิทยาทานให้กับคนในหมู่มากจริงๆ เพราะฉะนั้นวันนี้ (เสียงสั่นน้ำตาคลอ) หม่อมก็จะไม่มีโอกาสได้ทำภาพยนตร์เพื่อสอนในวงกว้างอีกแล้ว เรายังมีโอกาสทันที่ได้ไปเรียนรู้จากสิ่งที่หม่อมสอน มันไม่ใช่เฉพาะศิลปะการละครอย่างเดียว แต่มันคือความเป็นจริงของมนุษย์ที่จะทำให้เราหันมามองตัวเอง หันมามองคนรอบข้างและรู้จักมนุษย์มากขึ้น เพราะฉะนั้นนี่จะเป็นสิ่งที่หม่อมปรารถนาและเป็นสิ่งที่หม่อมทิ้งไว้เป็นมรดก”
บทแต่ละเรื่องยากมาก แต่ไม่เคยถามว่าทำไมถึงใช้บริการให้ตนได้รับบทบาทเหล่านั้นเพราะหากถูกเลือกแล้วก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ต๊ง เหน่ง : “ในภาพยนตร์แต่ละเรื่องที่หม่อมเลือกว่าจะให้เรารับบทบาทเป็นอะไร เราไม่เคยถามว่าทำไมหม่อมถึงเลือกให้มารับบทบาทนั้นๆ ไม่เคยถามนะคะ เรามีแต่เมื่อหม่อมเลือกแล้วนั่นหมายความว่าเราจะต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราถือว่าโชคดีมากๆ ที่ได้มีโอกาสเป็นตัวละคร (เสียงสั่น) ที่หม่อมเลือกหลากหลายมากๆ เลย ตั้งแต่แม่เล้า ไปจนถึงเชื้อพระวงศ์ มันก็ค่อนข้างจะต่างพอสมควรแต่เราคิดว่ามันคือการทำให้เราได้มีประสบการณ์ทางความคิดและการเข้าไปสัมผัสกับการเป็นบุคคลต่างๆ ที่แตกต่างกันมากๆ ซึ่งหม่อมอยากจะให้เรามีประสบการณ์ตรงนั้น”

หญิงเผยเป็นอาจารย์คนแรกที่ปลดล็อกความคิดเข้าใจงานแสดง ทุกวันนี้ยังมีคนจ้าง เพราะผลพวงจากสิ่งที่ได้เรียนรู้จากหม่อมน้อยทั้งนั้น
หญิง : “น่าจะเป็นอาจารย์คนแรกในด้านการแสดงเพราะหญิงก็เติบโตมาจากการร้องเพลง หม่อมเหมือนปลดล็อกทางความคิดอยากให้เราเข้าใจในเรื่องของการแสดง การใช้ชีวิตมากขึ้น เวลาเราเรียนกับหม่อมก็จะไม่ได้โฟกัสแค่เรื่องตัวละครอย่างเดียว เราจะมองชีวิต มองโลกในช่วงเวลาหนึ่งที่เราเป็นตัวละครนั้นๆ ไปเลย เรียกได้ว่าทุกวันนี้ยังมีงานในวงการยังมีคนจ้าง (เสียงสั่นน้ำตาคลอ) มันก็เป็นผลพวงมาจาก สิ่งที่เราได้มาจากหม่อมทั้งนั้นเลย แม้กระทั่งนอกเหนือจากการแสดง รวมถึงการใช้ชีวิต หม่อมเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง เป็นมากกว่าครูสำหรับเรา”

เผยทราบอาการป่วยเมื่อไหร่
หญิง : “ของหญิงรู้เมื่อต้นปี ของพี่ต๊งน่าจะก่อนเนอะ”

ต๊งเหน่ง : “เราอยู่ในกองถ่าย Six Characters ก็จะทราบอาการมาเรื่อยๆ แล้วเราก็จะเข้าไปที่บ้านอยู่ตลอด จนกระทั่งวันแรกที่เข้าโรงพยาบาลก็คือ เป็นวันที่เราเข้าไปที่บ้านแล้วก็ไม่พบใครเลยโทร.หาน้องผู้ช่วยหม่อมก็ได้ทราบว่าไปโรงพยาบาลแต่ ณ ตอนนั้น ยังไม่สะดวกที่จะให้มาโรงพยาบาล วันนั้นก็เป็นวันที่เราไม่ได้ตามไปที่โรงพยาบาลหลังจากนั้นก็ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล”

























กำลังโหลดความคิดเห็น