“เอ๋ กษมา” เล่านาทีซึ้ง “หมอพลอย” ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ขอเปลี่ยนจากเรียกลุงเป็นพ่อ “ดี้ ปัทมา” สมปรารถนา น้ำตาไหล

เรียกว่าเป็นการเปิดตัวลูกสาวคนสวยครั้งแรก สำหรับ “ดี้ ปัทมา ปานทอง” ที่ควงสามี “เอ๋ กษมา นิสสัยพันธุ์“ เปิดตัวลูกสาว “หมอพลอย” ผ่านรายการคุยแซ่บshow ทางช่อง one 31 พร้อมย้อนเล่าเส้นทางครอบครัว ปมไม่ใช่พ่อแท้ๆ รวมถึงโมเมนต์ครั้งแรกที่ถูกเรียกว่าพ่อ ทำเอาคุณแม่ถึงกับน้ำตาไหล

ดี้ : ตอนหมอพลอยเดินมาบอกว่าจะแต่งงาน ไม่ช็อก เขาคบกันมา 12 ปีแล้ว รู้อยู่แล้วว่าต้องมีวันนี้ วันที่ลูกมาบอกน้ำตาไหล บอกตัวเองตลอดว่าจะไม่ร้องไห้จะต้องยินดีแต่ก็ร้องไห้

เอ๋ : วันนั้นครอบครัวลูกเขยนัดไปกินข้าว ก็คิดกันว่าอย่าบอกนะว่าเขานัดไปคุยเรื่องแต่งงาน ปกติสองครอบครัวกินข้าวด้วยกันเป็นระยะๆ แต่วันนั้นก็คิดในใจว่าใครบอกว่าจะยกลูกให้ วันนั้นคุยเล่นๆ พอไปถึงจริงๆ ก็คุยเรื่องนี้ขึ้นมา ก็มองหน้าภรรยา ไหนบอกว่าไม่มีอะไรไง

หมอพลอย : จริงๆ เราก็พอรู้ เขาบอกว่าแม่เขาอยากคุยแล้ว อยากให้เรานัดพ่อกับแม่ให้หน่อย คบมา 12 ปีเคยบอกว่าคงแต่งงานกับคนนี้ แต่ไม่กล้าพูดเรื่องแต่งงาน กลัวแม่ยังไม่พร้อม (หัวเราะ) แม่เขาติดเรา

ดี้ : ใครติดใคร (หัวเราะ) มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การแต่งงาน มีครอบครัว เขาคิดว่าเราจะโอเคไหม แต่คิดว่าลึกๆ เขารู้อยู่แล้วว่าเราโอเค เราโอเคตั้งแต่วันแรก ตอนที่เขาบอกว่าเพื่อนคนนี้จะขอคุยด้วย สถานที่ที่ลูกเรียนก็กรองคนไว้ระดับหนึ่งแล้วว่าเป็นใคร เราก็แอบไปส่องตั้งแต่วันแรกที่ลูกบอก ตั้งแต่ม.5 โชคดีที่พ่อแม่อั๋น (สามีหมอพลอย) เป็นพ่อแม่เพื่อนเรา ก็ไม่ได้ถามเรื่องฐานะ ถามแค่ว่าครอบครัวนี้เป็นยังไง แล้วก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ เผอิญเขาเป็นเด็กเรียนหนังสือด้วยกันอยู่แล้ว

รับอยากบอกลูกทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องมีครอบครัวใหม่ จนต้องพึ่งจิตแพทย์
ดี้ : ตอนที่มามีครอบครัวใหม่ ก็อยากให้ลูกโตขึ้นมาเป็นเด็กที่สมบูรณ์แบบ เรารู้สึกว่าเราปั้นได้ว่าเราอยากให้อะไรกับเขา และคิดว่าหมอเท่านั้นที่จะแนะนำเราได้ ก็เลยไปพึ่งจิตแพทย์ ว่าเรากำลังจะมีครอบครัวใหม่นะ เราควรเทคแคร์บอกลูกยังไง ตอนนั้นน้อง 2 ขวบครึ่งเกือบ 3 ขวบ

เอ๋ : เด็กๆ เขาเรียกลุงเอ๋ตลอด ตั้งแต่ 3 ขวบ เริ่มมาอยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตร่วมกัน ก็เรียกลุงเอ๋ตลอด เราก็ไม่เห็นจำเป็นว่าต้องเรียกพ่อเราถึงจะรักเขา หรือเรียกลุงแล้วผมไม่รักเขา มันไม่เกี่ยว มันเกี่ยวกับเขาต่างหากที่เชื่อใจเรา และไว้ใจเรา

สิ่งที่ปรารถนา ทำดี้ ปัทมา น้ำตาไหล ลูกขอเรียก เอ๋ กษมา ว่าพ่อ
เอ๋ : จำรายละเอียดทั้งหมดไม่ได้ แต่จำได้เขาบอกว่าแดดดี๊ น้องพลอยเรียกแดดดี๊ว่าพ่อได้ไหม

หมอพลอย : เราก็จำจากที่แม่เล่ามากกว่า เหมือนไปเที่ยวหัวหิน แล้วเล่นน้ำ เหมือนเห็นเด็กฝรั่งเขาเล่นน้ำแล้วเรียกพ่อแดดดี้ เราก็เลยเรียกลุงเอ๋ว่าขอเรียกแดดดี๊ได้ไหม

ดี้ : เขาไม่ปรึกษาเราด้วยนะ

เอ๋ : เราไม่มีน้ำตาแตกนะ เพราะเรารู้สึกว่าอยากเรียกอะไรก็ได้ มันก็คือความรัก ผมกอด หอม ลูกสาว เล่นน้ำด้วยกัน ทำทุกอย่าง แม้แต่อาบน้ำให้น้องพลอยตั้งแต่เด็กๆ เราก็รู้สึกว่าอะไรก็ได้ แต่ผมก็จำได้เราก็บอกลูกว่าก็ได้ลูก

ดี้ : เราก็ได้ยินพร้อมกัน อันนี้เป็นสิ่งที่เรารู้สึกมากกว่า เพราะเป็นสิ่งที่เราปรารถนาอยู่แล้ว เพราะเราก็อยากให้ลูกเรารักคนที่เรารักด้วย เราก็รู้สึกว่าใช่ นี่แหละ เป็นสิ่งที่ฉันอยากได้ และเราตั้งปณิธานไว้ว่าถ้าคนที่เราอยู่ด้วย ไม่รักลูกเรา หรือลูกเราไม่รักเขาก็แค่นั้น ไปต่อกันไม่ได้ เราไม่ได้น้ำตาไหลให้เขาเห็น เราไปแอบไหลที่อื่น

ไม่มีใครล้อเรื่องพ่อ
หมอพลอย : ไม่มีเลยค่ะ ตอนที่เขาเริ่มรู้ เขาดูระวังมากกว่าในการพูดถึง แต่สำหรับเราพูดได้ ไม่เคยติดอะไรสักอย่าง

เอ๋ : เราไม่เคยปิดเขาสักอย่างตั้งแต่เด็กๆ เราเปิดทุกอย่างหมด แต่ไม่ได้พูดให้ร้ายพ่อแท้ๆ ไม่เคยพูดถึงก็ปล่อยให้เป็นชีวิตครอบครัว

เผยเหตุผลทำไมถึงรักหมอพลอยเหมือนลูกแท้ๆ
เอ๋ : เป็นที่เขามากกว่า ตอนเด็กๆ เขาเรียกลุงเอ๋ แล้วมากอด พอวันที่เขาเรียกพ่อที่สระน้ำ ความที่เขาสนใจเราร้อยเปอร์เซ็นต์ เราก็สนใจเขา 200 เปอร์เซ็นต์ เราเป็นคนที่ยืนหันหลังก็รู้ว่าเขาทำอะไร ถามว่าลึกๆ อะไรถึงได้รักมาก เป็นเพราะเขา ตั้งแต่เราอยู่ด้วยกัน เขาฟัง เขาเชื่อ เขาเปิด เขาปรึกษา และคุยกับเราตลอด เราจะมานั่งคิดอะไรล่ะ ในเมื่อเขารักเรา เราก็ต้องรักเขา

หมอพลอย : ตั้งแต่โตมาจำความได้ พ่อเต็มที่กับหนูตลอดทุกเรื่อง เรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ถ้าเรื่องปกติพ่อพร้อมทำให้อยู่แล้ว โดยเราก็รู้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ด้วยซ้ำ เราก็คิดว่ามันคงหาความรักที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ยาก ตอนเด็กๆ เขาก็ดุบ้าง เรื่องระเบียบวินัย จะสตริ๊กเยอะกว่าแม่ พ่อดุ แต่แม่บ่น (หัวเราะ) ตอนมีแฟน พ่อนิ่งมาก เขาได้หมด

เอ๋ : ความหวงลูกเราไม่ถึงกับภรรยา เราอยู่เฉยๆ แต่จะคอยฟังจากน้องพลอย

ดี้ : เราไปส่งลูกทุกวันจนจบมหาวิทยาลัย ค่อนข้างสบายใจว่าลูกอยู่ในเส้นทาง

เอ๋ : โชคดีนะที่น้องพลอยได้แฟนดี อั๋นเองน่ารักมาก ครอบครัวเขาเลี้ยงมาดีมาก เรื่องหวงลูกสาวก็น่าจะเป็นแม่

ดี้: เราห่วงมากกว่า เราไม่ได้สตริ๊กลูก ค่อนข้างปล่อยธรรมชาติ ที่สบายใจคือตัวติดลูกตลอดเวลา ไม่ได้ห่วงมาก

เอ๋ : ที่บ้านเลี้ยงลูกอิสระ ให้เขาคิดเขาทำ แล้วเราก็ให้คำปรึกษา