“จันจิ” ไม่อิจฉา เลิฟซีน “มาริโอ้-ญาญ่า” ลั่นดูแล้วฟิน ละมุน ต้องดูซ้ำๆ

“จันจิ” เผยดูละคร คือเธอ ตลอดทุกตอน ดูแล้วยิ่งฟิน โดยเฉพาะฉากเลิฟซีน ละมุนมาก ไม่มีอาการหึงหวงเลย เพราะเข้าใจว่าเป็นการแสดง แต่ที่ “มาริโอ้” ไม่ยอมต่อบทเลิฟซีนกับตน เพราะจังหวะว่างไม่ตรงกัน เลยได้แต่ต่อบทฉากดรามาเท่านั้น ยอมรับเรื่องนี้แฟนหนุ่มหล่อมาก และได้โชว์ฝีมือการแสดงสุดๆ เพราะบทยากมาก

ฝั่งพระเอกหนุ่ม “มาริโอ้ เมาเร่อ” ถึงกับออกปากว่าไม่กล้าต่อบทในเรื่อง คือเธอ กับหวานใจสายแดนซ์อย่าง “จันจิ จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย” เลย เพราะมีฉากเลิฟซีนเยอะ ล่าสุดสาวจันจิก็ออกมาเผยว่า ตนเป็นแฟนคลับที่ดูทุกตอน และฉากเลิฟซีนของแฟนหนุ่มกับสาว “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์” ก็ดูสวยงามละมุนละไมไปหมด

“ดูค่ะ เป็นแฟนคลับละครเลย รอดูตอนอวสานด้วยค่ะ ถ้าดูไม่ทันก็จะไปดูใน Netflix คือจันจิดูตั้งแต่ตอนแรก คือดูไลฟ์เสร็จก็ไปดูใน Netflix ต่อเพื่อเก็บรายละเอียด เพราะละครเรื่องนี้จันจิแอบทราบมาว่าถ่ายวันละไม่กี่ซีน และมันยากมากกว่าจได้แต่ละซีน และออกมาแล้วดีมากๆ ภูมิใจแทนพี่เขาด้วยค่ะ

พี่โอ้ก็มาเล่าให้ฟังค่ะ ก็ได้ยินมาว่ายากมากในบรรดาละครที่เขาเคยถ่าย ไม่เคยเจออะไรที่ทรหดขนาดนี้เลย ตอนที่ต้องขึ้นไปถ่ายบนดอยก็คือติดต่อกันไม่ได้เลย มันก็ไม่มีสัญญาณเนอะ แต่เราก็ทราบว่าพอขึ้นดอยก็คงไม่มีสัญญาณ ก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ลงมาก็ค่อยคุยกัน เพราะตอนก่อนขึ้นไปก็บอกอยู่แล้วว่าไม่มีสัญญาณ พอลงมาเราก็จะได้รู้ว่าเรียบร้อยแล้ว”

บอกไม่มีปัญหากับฉากเลิฟซีนเลย เพราะชอบมาก
“ชอบมาก คือมันละมุนละไม ญาญ่าก็สวย พี่โอ้ในละครเรื่องนี้คือหล่อจริงๆ พอเขาคู่กันแล้วเราอิน ไม่ได้รู้สึกอิจฉาหรืออะไร เรารู้สึกว่ามันดี ละมุน เราดูซ้ำ ไม่ติดใจอะไรเลย รู้สึกว่าดี ชอบ หนูมีชื่อในติ๊กต๊อกว่า สายขม ค่ะ (หัวเราะ) คนในติ๊กต๊อกก็จะเรียกจันจิว่าสายขม แต่ในละครก็อินในบทบาทของญาญ่าและพี่โอ้อยู่แล้วค่ะ ดีมากๆ

ถามว่าเขาเขินไหมตอนเล่นฉากเลิฟซีน จันจิว่ามันคือการแสดง ก็ไม่น่าจะเขิน เพราะเป็นตัวละคร แล้วพอทำตรงนั้นเสร็จก็จบไป จันจิว่ามันเป็นภาพที่สวยงามด้วย เป็นเลิฟซีนที่คุ้มค่า จำได้ว่าซีนแรกในรถพี่โอ้บอกว่าใช้เวลา 2 วันกับซีนนี้ ซีนแค่ไม่นาน ก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นซีนที่สวยงาม และคิดว่าทุกคนน่าจะชอบ ก็เคยนั่งดูด้วยกันค่ะ มีบางตอน คือพี่เขาไม่ค่อยดูของตัวเอง แต่จันจิดู และวันนั้นได้เจอช่วงดูสดพอดี ก็เลยได้เปิดดูพร้อมกัน พี่เขาก็อินกับละครของเขา ก็ดีค่ะ”

บอกที่แฟนหนุ่มไม่ได้ต่อบทเลิฟซีนด้วย เพราะจังหวะไม่ตรงกัน
“คือช่วงนั้นจันจิก็มีงานด้วย ก็มีช่วยต่อบ้าง เพราะบทยาวมาก ต่อกันจนอ๊องกันไปเลย แต่เลิฟซีนไม่ได้ต่อจริงๆ เพราะน่าจะไม่ได้ต่อช่วงนั้นพอดี (หัวเราะ) ก็ไม่เป็นไรค่ะ จันจิโอเค (หัวเราะ) ถามว่าหวงไหม จันจิว่ามันคือการแสดง เพราะตัวจันจิเองตอนเล่นเลิฟซีนก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันมีปัญหาอะไร เพราะมันคือการแสดง พอทำซีนนั้นจบไปก็คือจบ เราก็เลยเข้าใจในบทบาทของการมีเลิฟซีน ก็ตามสบายเลย ให้มันเหมาะกับเนื้อหา ให้ทุกคนได้ฟินกัน จันจิว่ามันก็ดีแล้วที่มันเกิดขึ้น

จันจิว่าไม่ได้ดุเดือดซะจนแย่ แต่มันสวยงาม มันคือภาพที่สวยงาม คือภาพคนรักกันที่สวยงาม ดูแล้วมันก็ลุ้น ไม่ได้รู้สึกว่าดูแล้วบาดตาบาดใจ แต่ดูแล้วได้ฟีลที่ดีมากๆ ส่วนที่เขาบอกเลิฟซีนเยอะเลยไม่อยากมาต่อบทกับเรา (หัวเราะ) ไม่หรอก อย่างที่บอกว่ามีช่วงที่ไม่ได้เจอกัน เราก็ทำงานของเราเหมือนกัน ก็ช่วงที่ต่อบทกันได้ก็จะเป็นบทดรามาก็ทะเลาะเถียงกันไป แต่บทมันยากมากจริงๆ นับถือในความเก่งของพี่เขาเลยว่าทำได้ยังไงขนาดนี้ เขาเลือกต่อเฉพาะบทดราม่าหรือเปล่าเหรอ น่าจะเป็นอย่างนั้น (หัวเราะ)”

เผยไม่เคยหึงหวงกันเรื่องงานแสดง
“ไม่มีนะคะ แต่จันจิจะเล่าให้ฟังมากกว่าว่ามันอะไรยังไง จันจิว่ามันคือการทำงาน ไม่มีการมาหึงมาหวงกันหรอก เราเข้าใจการทำงานของกันและกัน เพราะผ่านอะไรกันมาเยอะ ไม่น่าจะต้องมานั่งหึงกับการแสดง เพราะการแสดงถ้าไม่ตั้งใจเล่นคนก็ไม่อิน ก็เข้าใจค่ะ”

บอกพยายามห้ามแฟนหนุ่มแล้วให้ระวังเรื่องการเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม
“ตอนนี้เขากายภาพอยู่ ก็ค่อยๆ ดีขึ้นค่ะ จันจิว่าด้วยความที่ทำงานหนัก และพอมีเวลาก็อยากทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำจนลืมว่าการนั่งนานๆ หรือการยืนนานๆ มันไม่ดีต่อสุขภาพ มันเลยส่งผลให้ร่างกายเราแย่ ก็มีหมอนรองกระดูกปลิ้นนิดหน่อย ตอนนี้ก็ระมัดระวังมากขึ้น เลือกที่นั่งมากขึ้น และมีการไปกายภาพบำบัดด้วยค่ะ ก็น่าจะดีขึ้นตามลำดับค่ะ

จริงๆ ห้ามมาตลอดค่ะ เพราะการเล่นสเก็ตบอร์ดแบบไม่ได้วอร์ม และพี่เขาก็โตแล้ว จันจิว่ามันอันตราย แม้แต่ตัวจันจิเองเต้นยังได้ยินเสียงเข่าตัวเองดังเอี๊ยดๆ เลย แล้วพี่เขากระโดดไปกระโดดมา มันก็อันตราย กระดูกอาจจะหักได้ จันจิว่าตอนนี้พี่เขาก็ระมัดระวังตัวในกีฬาเอ็กซ์ตรีมมากขึ้นค่ะ”

เผยได้แต่ช่วยๆ กันเตือนกันและกัน
“ถามว่าเขารู้ลิมิตตัวเองไหม บางทีก็จำได้ บางทีก็ลืมค่ะ ก็ต้องช่วยๆ กันเตือน เพราะบางทีทำอะไรแล้วมันก็เพลิน แล้วพี่เขาก็จะลืม เราก็ช่วยเบรกได้ตามที่เราได้เจอเขา เพราะบางทีพี่เขาก็ไปทำของเขา เราก็อยู่ของเรา บางก็ไม่มีโอกาสได้คอยบอกว่าพอแล้วหรืออะไร จริงๆ คอยเตือนเขาเสมอค่ะ

เขาเป็นคนที่ค่อนข้างชอบทำกิจกรรมของตัวเองมาก จะอินกับสิ่งที่ตัวเองทำมาก ก็เลยค่อนข้างจะห้ามยากนิดนึง แต่จันจิก็ยังเต้นเหมือนเดิม และยังเป็นดาวติ๊กต๊อกเหมือนเดิม แต่ตัวพี่เขาต้องเพลาๆ ลงค่ะ เพราะพี่เขาจะโหดกว่าของจันจิ จันจิก็แค่เต้นติ๊กต๊อกนิดหน่อยเอง”

บอกกว่าจะขอให้เต้นด้วยได้ต้องอ้อนวอนกันเลย
“จริงๆ ก็เรียกว่าวอนขอ ได้โปรด เต้นกับน้องสักหนึ่งเพลง (ทำท่ายกมือไหว้) และพอพี่เขาเต้นหนึ่งเพลง เราก็ไม่กวนเขาแล้ว เพราะมันเป็นอะไรที่พี่เขาไม่ได้ถนัด ก็ไม่อยากจะไปบังคับเขา ก็บังคับแหละ แต่ว่าหนึ่งคลิปก็บังคับเกินพอแล้ว ฟินแล้ว แฮปปี้มาก คือถ่ายไปหลายแบบ แต่ก็เอาแบบที่ดูดีแล้วกัน ตลกก็มี แต่อาจจะตลกเกินไปหน่อย ก็เอาที่ดูดีสำหรับพี่เขา เวลาชวนเขามาเต้น เขาก็มีงอแงค่ะ (หัวเราะ) มีบ้าง แต่พอได้เริ่มทำแล้วก็แอบมีขออีกรอบนะ”

เผยอยากทำตัวเองให้มั่นคงก่อน ยังไม่คิดเรื่องแต่งงาน
“เรื่องแต่งยังค่ะ ยังไม่คิดเรื่องนี้เลยค่ะ ไม่อยากตามกระแสเลย เพราะทุกอย่างมันเพิ่งคลายตัว และมีสิ่งที่จันจิต้องทำเยอะขึ้น ก็เลยอยากจะทำตรงนี้มากกว่า และมีสัตว์เลี้ยงเยอะมาก ก็เลยไม่ได้คิดเรื่องอยากจะมีลูกเลยค่ะ มีนกอยู่ 7-8 ตัว มีหมาอีก 2 ตัว แค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว ก็เลยคิดว่าพอแล้ว (หัวเราะ) ทำงานเพื่อเด็กๆ เลยตอนนี้

จริงๆ มันไม่เกี่ยวกับเรื่องระยะเวลาหรอกค่ะ เกี่ยวกับว่าเราโอเคที่จะให้มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ก็ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะว่าต่างคนต่างยังมีอะไรที่ต้องทำ ที่ต้องรับผิดชอบเยอะ จริงๆ อยากเก็บตังค์เยอะๆ มากๆ อยากให้รู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จในเรื่องการมีเงิน และดูแลครอบครัวของจันจิให้มากกว่านี้ค่ะ และอนาคตจะว่ายังไงก็ค่อยว่ากันดีกว่า”

บอกคบกันจนเหมือนเพื่อนกัน ที่คอยห่วงใยกันไปแล้ว
“จริงๆ มันคือเพื่อนมากกว่าค่ะ เพื่อนที่จะมีความห่วงใย ช่วยดูแลกัน อาจจะพิเศษขึ้นมาหน่อย แต่เราก็ใช้ชีวิตแบบเพื่อนกัน ใช้ความเข้าใจในการทำงาน อย่างที่พี่ๆ ถามว่าหึงไหม จันจิก็ไม่มีการหึงอะไรทั้งนั้น ความเข้าใจมากกว่าค่ะที่จะทำให้อยู่ได้ยาว

เวลาใส่ชุดว่ายน้ำหรือชุดเซ็กซี่พี่โอ้มีเลือกชุดให้ อย่างถ้ารูปแรกดีก็มีบ้างค่ะ แต่ส่วนใหญ่จันจิจะเลือกมาแล้วว่าโอเคแล้ว รีทัชเรียบร้อยแล้ว ไม่โป๊จนเกินไป จริงๆ ก็ไม่ถึงกับส่งให้ดู แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ตรงนั้นและจันจิกำลังเลือกรูปพอดี ก็เลยจะมีถามว่ารูปไหนขึ้นรูปแรกดี ไม่ถึงกับตั้งใจส่งไปให้เขาเลือกให้ เพราะเรารู้ว่าเราชอบอะไรค่ะ”