เป็นพระเอกในตำนานที่หวงชีวิตส่วนตัวสูงมาก ตั้งแต่เข้าวงการบันเทิงมาแทบจะไม่ไปออกรายการ เล่าชีวิตส่วนตัวให้ได้รู้กันเลย แต่ช่วงหลัง ดูเหมือน “เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์” จะเปลี่ยนไป ทำให้เราได้เห็นมุมน่ารักมากขึ้นผ่านทางโซเชียลของภรรยา “หน่อย บุษกร วงศ์พัวพันธ์” ล่าสุด เคน ธีรเดช ก็ยอมมาเป็นแขกรับเชิญในรายการ “เจ๊คิ้มกินรอบวง” พร้อมเล่ามุมมองความรักที่ไม่เคยมีใครทราบมาก่อน
“(เขินไหมเวลาคนเรียกสามีแห่งชาติ?) ไม่เขินครับ เราควรภูมิใจ คุณหน่อยไม่หึงเลยเพราะเขาต้องซัปพอร์ตผม ผมว่าเขาไว้ใจผม เวลาเห็นผู้หญิงสวยๆ ผมก็ชอบ (เห็นผู้หญิงแต่งตัวโป๊ๆ ล่ะ?) ผมก็มองแหละ เดี๋ยวนี้คนโป๊เต็มไปหมด มันหาดูได้หมด แต่ไม่ใช่ว่าเราจะต้องไปมีความสัมพันธ์กับทุกคนที่โป๊และสวย
ปัญหาชีวิตคู่มันก็มีแหละครับ แต่เราไม่ได้มีปัญหากันเรื่องผู้หญิง ถ้าเป็นสามีภรรยากันมันต้องเถียงกันเรื่องไร้สาระเท่านั้น ไม่อย่างนั้นมันจะไม่สนุกคนเราจะรักใครผมว่าง่าย แต่ถ้าจะรู้สึกว่าคนนี้คือคนที่เราไว้ใจได้อันนี้ยากกว่า เรามีความไว้เนื้อเชื่อใจในคนๆ นี้ ผมว่าสิ่งนี้มาหลังความรักอีกนะ ถามว่าใช้เวลากี่ปีผมไม่เคยนับ แต่คบกับเขามาก็ 20 กว่าปีแล้ว
แม้ “หน่อย บุษกร” จะอายุมากกว่าตนแต่บางเรื่องก็เป็นเด็ก
“ผมเองก็ไม่เคยคิดไงว่าผมจะมีแฟนหรือมีภรรยาที่แก่กว่า มันเป็นไปเอง คุณหน่อยมีความเป็นผู้ใหญ่ ผมชอบ แต่ในบางเรื่องถึงเขาจะอายุมากกว่าแต่เขาก็เด็กกว่าผม เขาจะปฏิเสธคนไม่เป็น ถ้าเขาให้ใจใครแล้วเขาจะเต็มที่ ผมบอกบางทีมันไม่ใช่ อันนี้เขาเอาเปรียบคุณอยู่ ต้องบอกเขาว่าบางอย่างมันก็ไม่ได้ แต่ถ้าถามถึงมุมอ้อน ต้องเป็นผมครับ ผมต้องเป็นฝ่ายเปิด คุณหน่อยเขาจะทำอะไรแบบนี้ไม่เป็น เขาจะนิ่งๆ เวลาเขาทำผิดเขาก็จะเบลอๆ ไป”
ต้องมีฟีลดื้อกับภรรยาบ้าง ซุกบ้าน ซุกรถไว้ แล้วค่อยบอก “หน่อย บุษกร” ทีหลัง
“เมื่อก่อนเคยแอบซื้อรถรวมถึงบ้านที่ญี่ปุ่น แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว สมัยก่อนซื้อรถก็จะฝากเอาที่บ้านเพื่อน เพราะที่บ้านจอดไม่พอ เขาก็ไม่ได้จับได้นะ แต่พอดีว่าเพื่อนบอกว่าไม่ให้จอดไว้ที่บ้านแล้ว ก็เลยขับกลับบ้านมาเนียนๆ พอคุณหน่อยถามก็บอกว่ากำลังเล็งๆ อยู่ เอามาลองก่อน แล้วค่อยบอกซื้อเถอะ ชอบ แต่จริงๆ ซื้อมา 2 ปีแล้ว ก็ค่อยๆ บอกเขา ถามว่าซื้อแอบไว้กี่คัน ก็ 5 คัน เป็นรถโบราณเพราะชอบ ตอนนี้ก็เหลือคันเดียวที่เก็บไว้เพราะขายทิ้งไปหมดแล้ว
ส่วนบ้านที่ญี่ปุ่นก็บอกทีหลังเหมือนกัน เริ่มจากไปเที่ยวกับคุณหน่อยที่ฮอกไกโด มันเงียบๆ ดี ก็เคยบอกเขาว่าถ้าวันนึงมีโอกาสจะซื้อบ้านที่นี่ เขาก็หน้าเฟลนึดนึงแล้วบอกทำไมไม่ไปซื้อบ้านที่ปารีส แต่มันมีอีกไง ที่ผมไปซื้อไว้อีก อีกหลังนึงก็ซื้อที่ฮอกไกโดเหมือนกัน แต่ที่ไม่อยากบอกเพราะรู้ว่าเขาจะต้องขัด พอวันที่บ้านใกล้เสร็จแล้วก็พาเขาไปดูแล้วแล้วเซ็นสัญญา เขาคงโกรธแหละแต่ตอนนั้นคนญี่ปุ่นก็อยู่กันเต็มเลย แล้วก็โค้งให้ ก็ว่าเราไม่ได้ ต้องรักษามารยาท แต่เขาก็ไม่บ่นหรอก เพราะบ้านเสร็จแล้ว บ้านหลังแรกกับหลังนี้เดินทางห่างกันประมาณ 4 ชั่วโมง เราต้องดื้อครับ”
