xs
xsm
sm
md
lg

วิลลี่” เห็นด้วยไม่เปิดหน้าลูก เผยยุคสมัยเปลี่ยน ผู้ใหญ่ต้องเข้าหาเด็ก ไม่จำเป็นต้องเดินตามแนวทางคนรุ่นเก่า (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“วิลลี่” เผยไม่ค่อยได้ลงรูปลูกเป็นปกติอยู่แล้ว เพราะคุยกับ “เยลหลี” ไว้ตั้งแต่แรก ถือว่าเป็นสิทธิของเด็ก เพราะรูปพวกนี้จะต้องอยู่ในโซเชียลไปอีกนาน ลูกอาจจะไม่ชอบที่จะให้คนอื่นเห็นก็ได้ ทุกวันนี้เวลาถ่ายรูปกันก็เก็บลงฮาร์ดดิส ถ้าลูกต้องการใช้ก็จะมีให้ตลอด บอกตามใจถ้าลูกอยากไปเรียนต่างประเทศ แต่ยังไงประเทศไทยก็ดีที่สุด



เป็นอีกครอบครัวหนึ่งที่แทบจะไม่มีการอัปเดตรูปลูกชายเพียงคนเดียวอย่าง “น้องวิน” เลย ซึ่งเรื่องนี้คุณพ่อ “วิลลี่ แมคอินทอช” ก็เผยว่าเป็นสิทธิของเด็กที่ควรจะได้ตัดสินใจเอง และตนก็คุยกับ “เยลหลี” ภรรยามาตั้งแต่แรกแล้วด้วย ซึ่งบางครั้งที่เห็นมีลงบ้างก็จากคนในครอบครัว

"ไม่ได้เปิดมานานแล้วนะ เราไม่ค่อยได้ลงเท่าไหร่ จริงๆ สิทธิเด็กมันก็เป็นส่วนสำคัญ แล้วเราก็ไม่รู้ว่าโตขึ้นมาเขาจะรู้สึกยังไงกับสิ่งที่พ่อแม่บังคับให้ทำตั้งแต่แรก แล้วเดี๋ยวนี้มันไม่มีการลบออกจากคลาวด์อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งต่างๆ ที่มันขึ้นไปมันก็ไปค้างอยู่กี่ปีเราก็ไม่รู้ทางที่จะเอาออกจากประวัติศาสตร์ได้ ฉะนั้นต้องระวังในสิ่งที่เราทำไป ก็ควรที่จะต้องระวัง เพราะว่ามันไม่ได้มีคนดีอยู่บนโลกใบนี้เยอะ ไม่รู้ว่าเขาจะเอารูปเราไปตัดต่อทำอะไรแบบไหน

ก็ฝากไว้ให้ทุกคนระมัดระวังด้วย บอกเลยว่าเราต้องรัดกุมมากขึ้นในฐานะคุณพ่อคุณแม่ด้วย จะมาบ่นว่าหน่วยงานรัฐไม่ทำโน่นทำนี่มันไม่ทัน เพราะเราใส่เข้าไปเต็มแล้ว พลาดขึ้นมามันก็จะเสียใจ ไม่สามารถแก้ไขได้ มันล่องลอยอยู่ในอากาศไปหมดแล้วครับ ผมก็คุยกับเยลหลีตั้งแต่แรกเลย บอกไว้เลยว่าพวกที่ชอบล่วงเกินเด็กในโลกใบนี้เยอะครับ แล้วเขาเอารูปพวกนี้ไปทำอะไรบ้างเดี๋ยวนี้แอปฯ ตัดต่อมันดีมากซะจนดูไม่ออกเลยว่าใครเป็นใคร

สิ่งที่เราพยายามจะทำคือถ้าลูกเราพร้อมที่จะเป็นดาราต้องยอมรับมันจะขึ้นไปอยู่ในคลาวด์ ส่วนของเราจะอยู่ไปกี่ปีเราไม่แคร์ แต่เด็กเกิดอยู่ดีๆ เขาไม่อยากจะเป็น สมมติว่าลูกเราอยากโตขึ้นมาเป็นอัยการ แล้วยังไงต่อ จริงๆ อาชีพเขาในอนาคตเขาอาจจะไม่ได้อยากเป็นดาราก็ได้ ฉะนั้นมาเริ่มตอนหลังก็ไม่สายไปครับ ถ้าเกิดว่ามาถึงจุดหนึ่ง แล้วอาชีพที่เขาเลือกมันไม่ตรงกับที่พ่อแม่ปั้นไว้ให้ ซึ่งผมเองก็ทำอาชีพไม่ตรงกับที่ผมเรียนมา มันก็เลยกลายเป็นข้อลำบากของเขาในอนาคตเหมือนกัน ผมเลยเล็งเห็นว่ามันไม่จำเป็นต้องรีบลง ไม่จำเป็นต้องเปิดพับบลิกอะไรมากมาย แชร์กันในกลุ่มเพื่อนไม่มีปัญหา อันนี้ก็ต้องระวังกันเอง ผมพูดประเด็นเอาไว้ก่อน"

บอกยุคสมัยเปลี่ยนไป พ่อแม่ควรรับฟังเด็กมากขึ้น
"จริงๆ ผมว่าให้เขาเป็นหนุ่มกว่านี้อีกหน่อยหนึ่ง เขาคงตัดสินใจเองแหละว่าเขาจะเอายังไง ถ้าเกิดว่าเขาจะเข้าวงการบันเทิง เรื่องคือง่ายมาก แต่ถ้าเกิดว่าไม่เอาก็บอกด้วยแค่นั้นเอง ปัญหามันคือถ้าเราไปเปิดประเด็น ไปเปิดประตูนั้นให้เขา เขาก็มีสิทธิ์ที่จะเข้ามา เขาจะพูดอะไรก็ได้ แล้วตรงนี้มันไม่ได้มีแค่เมืองไทยนะที่มีผลกระทบ มันมีถึงต่างประเทศ เด็กหลายคนไปฆ่าตัวตาย ไปทำอะไรหลายๆ อย่าง

แต่ละคนรองรับคำติไม่เท่ากัน เราจะไปบอกว่าประเด็นตรงนั้น เขาอ่อนแอเองไม่ได้ เพราะเราอยู่ในสังคม เราอยู่กันเป็นฝูงๆ ฉะนั้นเราต้องประคับประคอง เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน ต้องช่วยกันดูแล ถ้าเกิดตรงนี้ไม่ช่วยกันดูแล ผมว่าในอนาคตอาจจะอันตรายต่อเด็ก เยาวชน วัยรุ่นมากขึ้น เพราะว่ายุคสมัยมันเปลี่ยน อะไรที่ยอมรับได้กับยอมรับไม่ได้มันก็เปลี่ยน เราก็ต้องบอกเลย เราเป็นผู้ใหญ่ เราต้องเข้าหาเด็กต้องไปเข้าใจโลกของเขาด้วย ไม่งั้นเขาจะไม่รับฟังเรา

สองคือในยุคสมัยที่เปลี่ยนไปต้องดูว่าเด็กๆ สมัยนี้ เอาความสำคัญ เอาควอลิตี้ไปวางไว้ที่ไหน ปัจจุบันมันอยู่ที่การยอมรับในยอดวิว ยอดไลก์ ทำอะไรก็ได้ให้มีความโด่งดัง ซึ่งตรงนั้นมันจะมีผลดีและเสียเป็นดาบสองคม มันก็เลยกลายเป็นว่าเท่าไหร่ถึงจะพอ ถึงจะแฮปปี้ เพราะมันร้อยพ่อพันแม่ ไม่มีทางที่คนทั้งโลกรักคุณหรอก"

ไม่ถึงขั้นที่ต้องขออนุญาตถ่ายรูป แต่ไม่ได้ลงพร่ำเพรื่อ
"ถ้าอยู่กันเองไม่ได้ขอกันหรอกครับ เพราะว่าเราไม่ได้เอาไปไหน เราก็เก็บในฮาร์ดดิส แล้วเมื่อไหร่ที่เขาอยากได้ อยากจะใช้ไฟล์นี้เราก็ค่อยดึงมันเข้ามา แต่ส่วนใหญ่เราไม่เคยมาเปิดคอมบ์ฯ นั่งดู คือถ่ายๆ เก็บๆ ไม่รู้ว่าวันหนึ่งมันอาจจะหายไปก็ได้ เหมือนพวกถ่ายแม็กกาซีนที่ผมเคยถ่ายมาแล้วปลวกกินหมด ไปหมดแล้ว (หัวเราะ)

คือผมไม่ได้ห้าม เพียงแค่ผมไม่ล้นหลามออกไปเยอะ ผมก็มีรูปที่หลุดออกไปโพสต์บ้าง ผมจะไปห้ามเมียโพสต์มันก็เป็นไปไม่ได้ ส่วนใหญ่คือคนในบ้าน (หัวเราะ) แต่เราบอกไปว่าให้เห็นบ้างเป็นบางครั้ง ไม่ได้หมายความว่าผมพยายามจะดัน เพราะผมทำงานวงการนี้ ไม่ต้องห่วง จะเป็นดาราก็ได้ ไม่เป็นดาราก็ได้ที่คุยกัน

ถามว่าถ้ามันมีดีเอ็นเอของวิลลี่อยู่จะเข้าวงการไหม ก็คงมีโอกาส แต่ว่า ณ ตอนนี้ยังไม่พยายามดันให้เข้ามา ให้เขาเลือกเอง เพราะแต่ละคนมันเปลี่ยนตลอดเวลา สังเกตถ้าดูประวัติเรา เราพยายามจะไม่อยู่วงการบันเทิง แล้วเราก็พยายามจะไปเรียนนักบิน แต่คนเรามันหนีดวงไม่ได้ ตรงนี้ของเขามันคือเมื่อไหร่ก็ค่อยว่ากันครับ"

บอกตอนนี้แววน่าจะชอบไปทางวาดรูปมากกว่า
"ไม่ถามเลย ถ้าเราเฝ้าดูลูกจริงๆ แล้วเห็นว่าเขาชอบอะไร เก่งอะไร ดีกว่าที่พ่อแม่จะไปถามว่าไปเป็นอะไรดีล่ะ ทำอะไรดี โตขึ้นเป็นแบบพ่อไหม แบบนี้คำตอบมันไม่บริสุทธิ์ มันเป็นล็อบบี้ ฉะนั้นเด็กสมัยนี้มันไม่มีความจำเป็นที่ต้องเดินตามแนวของเรา เขาก็จะมีแนวของเขาเองบางคนก็เรียนจบมาจะทำพอดแคสต์ ซึ่งมันไม่ใช่อาชีพเดิมที่เราคุ้นเคย เพราะเขาโตมาคนละยุคกันเรา เราก็พยายามจะศึกษาอยู่ จริงๆ ออปชั่นอาชีพมันไม่ได้มีอยู่แค่นี้ แล้วทุกคนต้องยอมรับว่าเก่งคนละอย่าง

ถามว่าน้องมีแววไปทางไหน น่าจะไปทาง อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ นะตอนนี้ เป็นอาร์ตๆ วาดรูปทุกวัน (ยิ้ม) ผมก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะไปทางนั้นนานหรือเปล่า ตอนผมเด็กๆ ก็เห่อ เดี๋ยวขี่จักรยาน มันก็เปลี่ยนเดี๋ยวก็เบื่อ เวลาเจอคนมาขอถ่ายรูปเหรอ เมื่อก่อนได้นะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ไปไหนเลย เดี๋ยวนี้ก็มีแค่บ้าน โรงเรียน บ้านเพื่อน มีอยู่แค่นี้ ไม่กล้าไปไหนเหมือนกัน เพราะมันยังอยู่ในสถานการณ์โควิด-19 มันยังระบาด ทำงาน 7 วัน มีเวลาเจอลูกตอนเย็นแล้วก็อาบน้ำ นอน ตื่นเช้าก็ไปโรงเรียน"

ไม่ห้ามถ้าลูกอยากไปเรียนเมืองนอก แต่บอกเมืองไทยยังไงก็ดีที่สุด
"ภรรยาถามผมว่าเมื่อไหร่ ผมก็พร้อมสนับสนุน ถ้าเขารู้สึกว่าพร้อม คือมันต้องอยู่ที่เขาด้วย ฉะนั้นไม่รีบไม่เร่ง ผมว่าถ้าเกิดจะไปก็ไปตอนโตซะหน่อย หลังอายุ 16 ปี อีกสัก 4-5 ปีค่อยว่ากัน เยลหลีเขาคงต้องไปด้วยแหละ เขาคงอยากไป เพราะแถวนั้นมีเอาต์เลทเยอะ

จะไปประเทศอะไรยังไม่รู้เลยครับ ให้เขาเลือกอยู่ ไม่อังกฤษก็อเมริกา แล้วแต่เขา ผมพูดตรงๆ นะ ในฐานะของคนที่อยู่ที่นี่ รู้สึกว่าภัยธรรมชาติในเมืองไทยมันน้อยกว่าที่อื่นมาก จนไม่รู้จะไปทำไม นี่เราบ่นกันแค่น้ำท่วม แต่ที่โน่นไหม้ทั้งหลัง ทั้งภูเขา ไฟไหม้บ้าง แผ่นดินไหว พายุ แล้ง แต่เราไม่มีเลยนะ เราอุดมสมบูรณ์ เลยรู้สึกว่าเดี๋ยวลองคิดดูดีๆ ว่าจะไปหรือไม่ไป

คือมันน่ากลัวนะ ไม่มีที่ไหนอุดมสมบูรณ์เท่าเมืองไทย อยู่สบาย เซฟโซนมาก ไม่ค่อยเจออะไรหนัก ฉะนั้นเราจะเอาครอบครัวไปเสี่ยงมันก็ต้องมีเหตุผลที่ดี มีโรงเรียนที่ดี มีโอกาสที่ดีขึ้น แผนสองเราก็อยู่ที่นี่แหละ ไม่ซีเรียสเลย ลูกและแม่พร้อมก็ค่อยไป พ่อก็เก็บเงิน พร้อมรับทุกอย่าง”







กำลังโหลดความคิดเห็น