แยกทางกันมานานถึง 6 ปีแล้ว แต่ "แองเจลินา โจลี" กับ "แบรด พิตต์" ก็ยังต้องขึ้นโรงขึ้นศาลมีคดีความกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคดีความเกี่ยวกับไร่ไวน์ที่ทั้งคู่เคยเป็นเจ้าของร่วมกันก็ยังหาข้อยุติไม่ได้ โดยต่างฝ่ายต่างกล่าวหาว่าอีกฝ่ายพยายามจะฮุบไร่ไวน์แห่งนี้ไว้คนเดียว
คดีความดังกล่าวเป็นข่าวขึ้นมาเมื่อตัวแทนทางกฏหมายของ แบรด พิตต์ได้ฟ้องร้อง และกล่าวหาว่าฝ่าย แองเจลินา โจลี ตัดสินใจแต่ฝ่ายเดียวในการขายหุ้นในไร่ไวน์ในส่วนของตัวเองโดยไม่แจ้งให้เขาทราบก่อน ทั้ง ๆ ที่ทั้งสองร่วมซื้อไร่ไวน์ในฝรั่งเศสแห่งมานี้ด้วยกัน
ขณะที่บริษัท Nouvel ที่เคยเป็นตัวแทนของ โจลี ในการดูแลไร่องุ่นสำหรับผลิตไวน์ได้อ้างว่า โจลี กับ พิตต์ปรึกษาหารือเรื่องนี้กันมาแล้ว
ล่าสุด Nouvel ยังกล่าวหา และฟ้องร้องว่า แบรด พิตต์ ต่างหากที่ทำเหมือนว่าไร่องุ่นแห่งนี้เป็นของตัวเองเพียงคนเดียว ทั้งผุดโปรเจ็คที่ผลาญเงินมหาศาลไปอย่างไร้ประโยชน์ แถมยังทำการโยกย้ายทรัพย์สินของไร่ไปเข้าบริษัทอื่นของตัวเอง และกลุ่มเพื่อนสนิทอย่างลับ ๆ ด้วย
แต่ตัวแทนของ แบรด พิตต์ ก็อ้างว่าที่ผ่านมา โจลี "ไม่เคยทำอะไรให้ธุรกิจนี้เติบโตเลย" เขาต่างหากที่เปลี่ยนให้มันกลายเป็น "ธุรกิจระดับนานาชาติมูลค่าหลายล้านเหรียญฯ"
โดยตอนที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แบรด พิตต์ กับ โจลี ร่วมกับซื้อไร่องุ่น พร้อมคฤหาสถ์หรู Chateau Miraval ในฝรั่งเศส ในราคา 25 ล้านยูโร พอ 6 ปีต่อมาเมื่อ พิตต์ กับ โจลี่ แต่งงานกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ทั้งคู่ก็ขยายพื้นที่ดังกล่าวไปถึง 1,800 เอเคอร์ ครอบคลุมทั้งไร่องุ่นกับโรงกลั่นไวน์ และทะเลสาบส่วนตัวด้วย
กระทั่งทั้งคู่มาหย่ากันในปี 2016 นอกจากจะต้องต่อสู้ทางกฎหมายในการแย่งสิทธิการดูแลลูกแล้ว ทั้งคู่ยังต้องต่อสู้กันในชั้นศาล เกี่ยวกับการแย่งทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน รวมถึงอาณาจักรไร่ไวน์ในฝรั่งเศส
การออกมายื่นฟ้องของทาง Nouvel ถือเป็นการตอบโต้ หลังจาก แบรด เคยเรื่องร้องเรียนว่า โจลี่ แอบขายหุ้นในไร่องุ่นไปครึ่งหนึ่งให้กับเศรษฐีรัสเซีย โดยไม่บอกเขา ทั้งที่เป็นทรัพย์สินร่วมกัน ซึ่งโจลี่ อ้างว่า แบรด มีแผนจะยึดไร่ไว้เป็นของตัวเองคนเดียว ทั้งที่เธอก็ร่วมลงทุนด้วย