xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์กี้” เผยแม่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แค่อยากเป็นกระบอกเสียงให้คนรักษาวินัยทางเท้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“มาร์กี้ ราศรี” เผย ​“แม่เหน่ง” ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่ที่ออกมาเปิดเผยเหตุการณ์เกือบถูกรถชนบนทางเท้า เพราะอยากเป็นกระบอกเสียงให้คนช่วยกันรักษาวินัยเพื่อความปลอดภัย บอกตอนนี้ลูกๆ เริ่มจำคำพูดกันได้มากขึ้น ตนและ “ป๊อก” ก็ต้องพยายามสอน และมีข้อตกลงแค่ว่าห้ามเถียงกันต่อหน้าลูก

ทำเอาหลายคนตกใจที่อยู่ๆ “คุณแม่เหน่ง อรศรี ฮอนโนลด์” คุณแม่ของนางเอกสาว “มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า จิราธิวัฒน์” ออกมาโพสต์และแฮชแท็กถึงผู้ว่ากทม. “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ว่าเกือบโดนรถตู้เฉี่ยวชน เพราะอยู่ดีๆ ก็ขึ้นมาจอดบนทางเท้าในขณะที่ตนกำลังเดินอยู่ จากนั้นก็ได้ไปแจ้งความเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งพอได้เจอสาว มาร์กี้ ที่งาน Mchoice 2022 ที่ Royal Paragon Hall Siam paragon เจ้าตัวก็บอกว่าได้คุยกับคุณแม่แล้ว แต่ยังไม่ได้อัปเดตว่าหลังจากไปแจ้งความมามีความคืบหน้ายังไงบ้าง แต่เชื่อว่าแม่ดูแลตัวเองได้ดีอยู่แล้ว

“ไม่หรอก กี้ก็ไม่สามารถบอกอะไรได้ เพราะเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ณ ตอนนั้น เหตุการณ์ตอนนั้นก็ตามที่เห็นในคลิปเลยค่ะ ตามที่เขาเล่าเลย แต่คุณแม่ไม่ได้บาดเจ็บนะคะ มันยังไม่ได้ชนค่ะ แค่เกือบ แต่มันอยู่บนทางเท้า แม่เขาก็คงอยากให้ช่วยกันดูแลรักษาความปลอดภัยบนทางเท้ากัน

กี้เองก็ไม่ได้ตกใจมากนะ เพราะคิดว่าหลายๆ คนก็คงเคยเจอเหตุการณ์ใกล้ๆ กันอะไรแบบนี้ ก็เลยไม่ได้ถึงกับแปลกใจมาก แม่ก็โกรธนิดนึงค่ะ ได้คุยกันนิดๆ หน่อยๆ ค่ะ คือกี้ก็ไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้นค่ะ แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์คุณแม่ก็ไปแจ้งความไว้ค่ะ แต่ก็หลังจากแจ้งความแล้วความคืบหน้าเป็นยังไง ยังไม่ได้อัปเดตกันเลยค่ะ”

บอกที่แม่ออกมาพูด เพราะอยากให้ช่วยๆ กันรักษาระเบียบวินัย
“มันก็ต้องช่วยๆ กันค่ะ มันไม่ใช่แค่คนเดียวๆ แล้วมันจะดีขึ้นเองเรื่องการมีระเบียบ หรือการทำตามวินัย มันอาจจะต้องใช้เวลานิดนึง คือด้วยความที่ว่าที่แม่อยู่มันใจกลางเมืองมาก มีโรงแรม มีรถตู้รับส่งนักท่องเที่ยว ก็ค่อนข้างมีความวุ่นวายอยู่ในตัวอยู่แล้ว ก็เลยอาจจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

ยอมรับเป็นห่วงแม่ แต่เชื่อแม่ดูแลตัวเองได้ดีอยู่แล้ว
“กับรปภ.คนที่บอกว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นปกติเหรอคะ อันนี้ไม่ได้ถามแม่เลยค่ะว่าได้เจอกันอยู่ไหม แต่ถามว่าเป็นห่วงแม่ไหมก็เป็นห่วงอยู่แล้ว แต่เขาดูแลตัวเองได้อยู่แล้วด้วย แต่แม่ก็ไม่ได้บอกว่าเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยหรืออะไร คือไม่ได้พูดถึงเรื่องเก่าๆ เลยค่ะ แค่พูดถึงเหตุการณ์ปัจจุบันเฉยๆ แม่จะไม่ค่อยพูดถึงเรื่องที่มันผ่านมาแล้ว

ถามว่าเตือนแม่ไหม คือทุกคนไปไหนมาไหนก็ต้องรู้อยู่แล้วแหละว่าต้องระมัดระวังตัวเอง แต่บางมีมันอาจจะไม่คาดคิดว่าบนฟุตบาธจะมีรถถอยมา มันก็เลยสามารถเกิดขึ้นได้ แต่แม่ไม่ได้เป็นอะไร ไม่ได้บาดเจ็บค่ะ”

บอกที่เห็นแซ่บขึ้นแค่ทำคอนเทนต์
“ก็ไม่ได้มีอะไรเยอะแยะ มันก็เป็นคอนเทนต์นิดนึงนะ (หัวเราะ) จริงๆ ตอนนี้ก็แล้วแต่คนสะดวกนะ ใครสะดวกจะใส่อะไร ม้นปี 2022 แล้ว จะอายุแค่ไหน อยากจะใส่อะไร เพศไหน อยากจะแต่งตัวยังไง ก็สามารถได้หมด ลูกก็เพิ่งอายุแค่นั้นยังไม่รู้เรื่องหรอก ตอนนี้คือใส่ชุดนอนพอถามก็บอกว่าสวย ใส่ชุดอยู่บ้านก็สวย 

วันไหนที่เรารู้สึกว่าเราห่อเหี่ยว ไม่ค่อยมีพลัง เราก็หันไปถามลูกว่าหม่ามี๊สวยไหมลูก มีก้าก็บอกว่าหม่ามี๊สวยมาก (เสียงสูง) คือมีก้าเวลาพูดอะไรเขาจะโอเว่อร์ค่ะ แบบสวยมาก (ลากเสียงยาว) เพราะฉะนั้นเวลาเราต้องการฉีดยา ลูกชายจะเป็นการฉีดยาแม่ที่ดีมาก แต่ถ้าโตขึ้นกี้ว่าไม่น่าจะบอกว่าแม่สวยแล้วล่ะ (หัวเราะ)”

บอกลูกชายชมทุกคน และตนก็พยายามสอนให้รู้จักคำมากขึ้น
“เขาชมทุกคนหมดเลย เขาเป็นคนน่ารัก เขาจะชอบทำให้อีกฝ่ายนึงยิ้ม เพราะเขารู้ว่าพอบอกว่าสวย ฝ่ายตรงข้ามจะยิ้มกลับมา หรืออย่างเวลาผู้ชาย เขาก็จะบอกว่าพี่เท่มากนะ เขาจำคำแบบนี้มาจากไหนเหรอ เหมือนบางทีเราชมเขานี่แหละว่ามีก้าแต่งตัวแบบนี้เท่มากนะ เขาก็อาจจะรู้สึกว่าคำนี้ทำให้เขาแฮปปี้ เขาก็จะพูดคำนั้นกับอีกฝ่ายนึงเหมือนกัน

ตอนนี้พูดอะไรเขากำลังจำค่ะ คือเราอยู่กับเขา เราก็คอยสอนเขาว่าคำนี้มันแปลว่าอะไร สามารถใช้ได้ไหมในโอกาสอะไร เพราะสุดท้ายแล้วเวลาเขาโตขึ้นมา เขาก็ต้องรู้ทุกอย่างอยู่แล้ว แต่แค่เขาต้องรู้ว่าคำนี้ใช้ได้ในสถานการณ์ไหน กับใคร อะไรยังไง เขาจะได้รู้ว่าอันไหนควรอันไหนไม่ควร จริงๆ เราก็บังคับยากเหมือนกันนะว่าไม่อยากให้ลูกได้ยินคำนี้เลย มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเขาไม่ได้อยู่กับเรา 24 ชม.เนอะ ต้องไปโรงเรียน เจอคนอื่น เพราะฉะนั้นเราก็จะบอกเขาว่าถ้ามีอะไรให้ถามเรานะ อยากรู้อะไรให้ถาม”

บอกคุยกับ “ป๊อก ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์” สามี ว่าจะไม่เถียงกันต่อหน้าลูก
“กี้กับพี่ป๊อกก็เลี้ยงลูกไปในทางเดียวกันนะคะ ก็ช่วยๆ กัน เพราะเราก็ไม่ได้รู้ไปซะทุกอย่าง เขาเองก็ไม่ได้รู้ไปซะทุกอย่าง ก็มานั่งคุยกันว่ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเราทำยังไงกันดี ไม่ได้มีข้อตกลงในการเลี้ยงลูกแบบนั้นนะ แต่แค่ถ้าสมมติเรายังตัดสินใจอะไรไม่ได้ เราก็จะไม่เถียงกันต่อหน้าลูก ก็จะบอกกันว่าเดี๋ยวไปคุยกันเองก่อน

ที่ต้องระมัดระวังเรื่องการเถียงกัน เพราะกี้คิดว่าเหมือนบางทีเขาอาจจะไม่รู้ว่าอันนี้เป็นสิ่งที่ทำได้หรือไม่ได้ ก็ต้องกลับมาสอนเขาอีกที แต่ที่จริงกี้ก็ไม่ได้เถียงกันแบบทะเลาะกัน แต่เราก็ไม่ได้อยากให้เขาเห็นเวลาอะไรอย่างนั้น เดี่ยวเขาจะรู้ว่าเราคิดไม่ตรงกัน เขาก็จะไปอ้อนอีกฝ่ายนึง เดี๋ยวเขาจะทำให้เราตีกันได้”











กำลังโหลดความคิดเห็น