หลังจากที่โดนนักแสดงดัง “วิล สมิธ” ตบหน้าหันบนเวทีงานประกาศรางวัลออสการ์ หลังจากที่ไปล้อเลียน “จาดา พิงค์เก็ท สมิธ” ภรรยาของเขาเรื่องศีรษะล้าน ล่าสุด “คริส ร็อก” ก็ได้เผยความรู้สึกถึงพระเอกดังหลังจากโดนตบ ว่าแท้จริงแล้วเขาก็น่ารังเกียจไม่ต่างจากทุกๆคน
ในที่สุด คริส ร็อก ตลกดังวัย 57 ปี ได้เผยความรู้สึกสุดอัดอั้นหลังจากที่โดน วิล สมิธ นักแสดงดังวัย 53 ปีตบหน้า โดยเขาพูดเรื่องนี้กับ เดฟ แชปเพลล์ นักแสดงตลกชื่อดังขณะที่ทั้งคู่เดินสายเปิดการแสดงเดี่ยวไมโครโฟนร่วมกันเป็นคืนแรกที่ Liverpool’s M และ S Arena
เดฟ ได้ถาม คริส ต่อหน้าผู้ชมว่า “โดนตบเจ็บไหม?” ซึ่ง คริส ก็ได้ตอบว่า “ดีชิบ_ ไอ้_นั่นมันตบผมเพราะมุขตอแ_ล มุขที่โคตรสุภาพที่สุดที่ผมเคยใช้เลย”
“วิล ทำให้เราประทับใจในฐานะผู้ชายสมบูรณ์แบบมานานกว่า 30 ปี แต่เขาก็ได้ถอดหน้ากากออก แล้วโชว์ให้พวกเราเห็นว่าเขาก็น่ารังเกียจไม่ต่างจากพวกเราทุกคน ไม่ว่าผลที่ตามมามันจะเป็นยังไง ผมหวังว่าเขาจะไม่ใส่มันกลับเข้าไปอีก ให้โฉมหน้าที่แท้จริงของเขาได้พักหายใจบ้าง ผมมองเห็นตัวเองในคนทั้งคู่”
วิล สมิธ ได้ขึ้นไปสร้างวีรกรรมบนเวทีออสการ์เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ด้วยการต่อยหน้า คริส ร็อก ที่ล้อเลียนภรรยาของเขาที่โกนผมจนศีรษะล้านเพราะโรคผมร่วงเป็นหย่อมๆว่าเปรียบเหมือนผมสั้นสกินเฮดของตัวเอกในภาพยนตร์ จี.ไอ.เจน.ปี 1997 ซึ่งหลังจากช็อกผู้คนทั่วโลกด้วยการลุกขึ้นไปตบหน้า ช่วงแรกบางคนชื่นชมวีรกรรมของเขาก่อนจะโดนกระแสตีกลับอย่างหนักหน่วง ซึ่งเจ้าตัวได้อัดคลิปขอโทษ คริส ร็อก เมื่อต้นเดือน ส.ค. ที่ผ่านมาและต้องการที่จะติดต่อพูดคุยแต่ไม่ได้รับการตอบรับ
ในค่ำคืนดังกล่าว วิล สมิธ ไม่ได้โดนลากออกจากงานประกาศผลรางวัล แถมยังได้ขึ้นไปยืนร้องไห้บนเวทีขณะรับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง King Richard จนถูกวิจารณ์ตามมามากมายถึงความไม่เหมาะสม เพราะเขาควรจะต้องถูกนำตัวออกจากงาน และไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่เขากลับยังมีความสุขสุดๆในงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้โดยไม่มีทีท่าสำนึกในการกระทำของตนเอง จนมีการเรียกร้องจากชาวเน็ตขอให้เรียกรางวัลออสการ์คืน
อย่างไรก็ตามเขาเองก็ได้รับผลจากกระทำเหล่านั้นแล้ว โดยถูกสั่งแบนห้ามเข้าร่วมงานประกาศรางวัลออสการ์ยาวนานถึง 10 ปีเลยทีเดียว