“บอย ปกรณ์” เผยมุมความรักกับ “เฟย์” บอกมีแฟนน่ารักก็อยากอวดเป็นธรรมดา เตรียมแพลนมีเทปพิเศษพาแฟนแต่ละคนไปร่วมรายการคนดีที่ไหนไว้แล้ว ไม่กลัวคนหมั่นไส้ เพราะตั้งใจให้เป็นแบบนั้น ยอมรับแรกๆ มีทั้งหวงและหึง แต่แฟนสาวรู้จักกาลเทศะ มีความเป็นผู้ใหญ่มากพอ ไร้ปัญหาเรื่องอายุที่ห่างกันกว่า 9 ปี พร้อมเผยเรื่องเดียวที่สู้กลับไม่ไหว ไม่เป็นตัวเอง
ขึ้นชื่อว่าเป็นคนอวดแฟนอันดับต้นๆ ไปแล้วตอนนี้ สำหรับพระเอกหนุ่ม “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” ที่ตอนนี้กำลังแฮปปี้กับสาว “เฟย์ พรปวีณ์ นีระสิงห์” เอามากๆ ซึ่งเจ้าตัวเองก็ยอมรับว่าอยากอวด เพราะมีแฟนน่ารัก และไม่สนด้วยว่าเพื่อนๆ หรือแฟนคลับจะหมั่นไส้ เพราะเชื่อว่าหมั่นไส้และแซวกันเล่นๆ เท่านั้น
“ความรักก็ดีครับ เรื่อยๆ ก็ค่อยๆ เรียนรู้ ค่อยๆ ศึกษากันไป คือมันก็ใช่ในจุดตรงที่ว่าผมก็ไม่ได้มีแฟนมานาน พอถึงจุดที่เราเจอเฟย์ เราคลิกกัน พอถึงเวลาที่เหมาะสมที่เรารู้สึกว่าพร้อมจะให้คนรับรู้ ก็ไม่ได้ว่ามีอะไรที่ต้องปิด ทุกอย่างอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม เราก็อยากใช้ชีวิตในฐานะคู่รักเหมือนคนทั่วไป
อยากไปไหนก็ไป อยากโพสต์อะไรก็โพสต์ อยากลงอะไรก็ลง แต่คนอาจจะมีความหมั่นไส้ว่าโพสต์อวด จริงๆ ก็อวดขำๆ แหละว่ามีแฟนแล้วโว้ยอะไรประมาณนี้ อยากจะประกาศให้โลกรู้ว่าฉันมีแฟนแล้ว มันก็เป็นความกวนตี-ของผมด้วย แฟนผมน่ารักก็ต้องอวดสิครับ แต่สิ่งที่สำคัญคือโมเมนต์ของผมกับเฟย์มากกว่า”
ไม่สนเพื่อนๆ ในแก๊งคนดีที่ไหนชอบแซว
“ก็มีบ้าง เกรท (วรินทร ปัญหกาญจน์) ก็จะบอกว่ากูดีใจกับมึงด้วย แต่เวลาผมลงอะไรก็จะมีเพื่อนๆ ดารา แฟนคลับด้วยก็หมั่นไส้โน่นนี่ว่ากันไป เราก็เฉยๆ เพราะเราก็รู้ว่าเขาหมั่นไส้กันเล่นๆ ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเราก็ทำอวดๆไปให้คนหมั่นไส้เล่นๆ ถามว่าอวดไม่เกรงใจคนโสดในกลุ่ม ไม่ต้องไปสนใจครับ เพราะไม่จำเป็นต้องไปสนใจ มันเป็นสิ่งที่ไม่ต้องแคร์กันนะเรื่องแบบนี้ ถ้าเรามีเราก็ปล่อยพลังได้เต็มที่เลย
พอมีแฟน เพื่อนก็ไม่ต้องสนครับ (หัวเราะ) เพราะตอนที่มันมีมันก็มีความสุขของมัน เราไม่มีเราก็เฉาของเรา มันก็ไม่เห็นจะมาโอ๋เอ๋เราหรืออะไร พอเวลาที่เรามีก็…เรื่องของมึงเอางี้ดีกว่า (หัวเราะ) คือเวลาเห็นเพื่อนมีความรักเราก็ยินดีด้วย เพื่อนเห็นเรามีความรักเพื่อนก็ยินดีด้วย เราก็แค่พาคนที่เรารัก คนที่เราชอบไปให้เพื่อนเรารู้จัก ไปกินข้าว ไปโน่นไปนี่ ก็ทำความรู้จักกัน”
บอกจะมีเทปพิเศษที่พาแฟนแต่ละคนไปร่วมด้วยแน่นอน
“ความจริงก็มีคุยๆ กันครับ ก็อาจจะมี เพราะตอนนี้คนดีที่ไหนก็เริ่มจะถึงเทปที่ผมเริ่มจะเชิญแขกรับเชิญแล้ว นอกจากเรา 5 คน เราก็อยากจะชวนคนอื่นมาร่วมสนุกกันด้วย ก็มีเทปที่เคยคุยกันไว้แหละว่าจะมีทั้งของผม มีโบว์ (เมลดา สุศรี) มีนิว (นภัสสร ภูธรใจ) ส่วนคุณเจมส์ (จิรายุ ตั้งศรีสุข) กับคุณเกรทก็ต้องแล้วแต่เขาว่าเขาจะพามาหรือเปล่า คือหมายถึงคุณเกรทมีหรือเปล่าไม่รู้ แต่คุณเจมส์จะพามาหรือเปล่าก็แล้วแต่เขา
ส่วนคุณเกรทตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะมีให้พามาไหม หรือเขาจะยอมเปิดหรือเปล่า เราก็ไม่รู้ว่าเขามีหรือไม่มี คือเท่าที่ผมรู้ตอนนี้เกรทไม่มี ส่วนใหญ่ถ้าเกรทคุยกับใครผมก็จะพอรู้บ้างแหละ แต่ตอนนี้ยังไม่มี ก็ยังไม่รู้ว่าถึงตอนนั้นเขาจะมีหรือเปล่า แต่ก็อาจจะมีเทปแบบนั้นแหละครับที่เราชวนคนสนิทของเรามาร่วมสนุกด้วยกัน เพราะคนดีที่ไหนซีซั่นนี้จะเป็นลักษณะของการเล่นเกมกัน แต่คงไม่ได้ชวนกันมาโชว์สวีตหวานหรอก คงชวนกันมาเน้นเฮฮาสนุกสนานมากกว่า”
เผย “เฟย์” เขินเวลาตนลงโพสต์หวานๆ
“จริงๆ ไม่ใช่เมื่อก่อนไม่ยอมรับหรืออะไร แต่ที่ผ่านมาเวลามีคนคุยและเวลาโดนถามผมก็บอกตลอดว่ามีคนคุยนะครับ แต่พอคุยแล้วมันอาจจะยังไม่ได้พัฒนาไปถึงจุดที่ไปกันต่อ ก็กลายเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องกันไปเท่านั้นเอง แต่สำหรับเฟย์เราคุยกันมาเรื่อยๆ และมันพัฒนากันต่อ และถึงจุดที่ว่าก็ถึงเวลาที่เหมาะแล้วที่ทุกคนจะรู้ได้ และเราก็มั่นใจซึ่งกันและกันแล้ว เพราะฉะนั้นคือผมก็ไม่ได้มีความจำเป็นว่าจะต้องปิดหรืออะไร
ตัวเฟย์เองก็เหมือนกัน แต่เขาอาจจะเป็นคนที่จะเขินๆ อายๆ ไม่กล้าแสดงออกเรื่องความรักมากขนาดนั้น เราก็คุยกันแค่ว่าเราคบกัน ทำอะไรก็ได้ที่เราสองคนสบายใจ ไปไหนมาไหนก็ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อยากไปกินข้าว ดูหนังเราก็ไป เวลามีคนถามก็พูดได้เลย ผมก็รู้สึกว่ามันไม่จำเป็นต้องปิด
เวลาโพสต์อะไร เฟย์เคยเบรกบ้างไหม มันมีบางที คือที่ลงมาไม่โดนเบรก เพราะเราจะถามเขาแล้ว คือเวลาลงเราก็จะลงให้คนหมั่นไส้ด้วย แต่ก็เป็นความรู้สึกเราจริงๆ ด้วยนะ ซึ่งบางทีคำมันอาจจะดูหวานมากเกินไป เฟย์เขาก็จะมีการลดทอนให้เราเบาๆเขาแค่เขินเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกไม่ดีหรอก เขาเขินว่าจะมีคนมาแซว อย่างตัวเขาเองก็มีลงรูปบ้างตามเทศกาลในสตอรี่ อย่างที่บอกเขาแสดงออกเรื่องความรักไม่ค่อยเก่ง”
ยอมรับเพิ่งรู้ว่าตัวเองพูดเรื่องความรักไม่ค่อยเก่ง
“ความจริงผมเหมือนเดิม แต่แค่เวลาสัมภาษณ์แล้วพูดถึงเฟย์ผมอาจจะได้เป็นปกติอย่างที่ผมเป็น คือปกติผมรู้ตัวเองว่าเป็นคนเวลาสัมภาษณ์อะไรผมไม่ค่อยกลัว จะล้วงแคะแกะเกาอะไรผมก็เล่นกลับได้หมด กับพี่ๆ นักข่าว กับพิธีกรแต่ละท่านผมก็กวนได้หมด แต่พอตั้งแต่มารู้จักกับเฟย์ คบกัน และเริ่มโดนสัมภาษณ์เรื่องเฟย์ถึงค่อยมารู้ว่าตัวเองเป็นคนพูดเรื่องความรักไม่ค่อยเก่ง รู้สึกเลยว่าเวลาโดนแซวเราจะตัน แก้ทางไม่ได้ ก็ได้แค่ยิ้มเฉยๆ
มันไม่เชิงเขิน แต่โต้กลับไม่ได้ ไม่รู้จะโต้อะไร ก็ได้แค่ยิ้มรับ รู้สึกว่าพูดเรื่องพวกนี้ไม่เก่ง เพราะฉะนั้นเวลาคนถามเรื่องเฟย์ผมก็จะรู้สึกว่าไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองนิดนึง รู้สึกโต้ตอบกลับไม่ค่อยได้ สู้กลับไม่ค่อยไหว ไม่เหมือนเรื่องอื่น ก็เลยทำให้คนอื่นอาจจะมองว่าผมไม่เหมือนเดิม ทั้งๆ ที่เราก็เหมือนเดิมแหละ”
เม้าธ์ “เฟย์” ชอบให้สัมภาษณ์เอง แล้วก็มาเขินเองทีหลัง
“ความมุ้งมิ้งก็มี เวลาอยู่ด้วยกันก็งุ้งงิ้งๆ พูดเล่นๆ กัน ก็เป็นมุมที่มันเกิดขึ้นแค่สองคน ไม่มีใครรู้ ก็มีแต่เฟย์แหละที่เอามาพูด (หัวเราะ) เหมือนที่สัมภาษณ์ครั้งที่แล้ว นักข่าวถามเขาว่าเรียกแทนคำกันว่าอะไร เขาก็ไปบอกนักข่าวว่าบุบู๋ แต่ความจริงคือไม่ได้เรียกบุบู๋ แต่เรียกกันว่าบูบู้ แล้วพอสัมภาษณ์เสร็จก็กลับมาโวยวายกับผมว่าเนี่ยน่าอายมากเลย พูดไปแล้วนู่นนี่ ผมก็บอกว่าแล้วไปพูดทำไม เพราะปกติตัวเองก็เป็นคนเขินอยู่แล้ว แล้วก็เอาไปบอกเขา ก็ตลกดี ไม่มีอะไร”
บอกอายุห่างกัน 9 ปีไม่เป็นปัญหา
“เรื่องที่ทะเลาะกันมีบ้างครับ แต่ไม่ได้ถึงขั้นใหญ่โตอะไร แต่แน่นอนการคุยกันมันต้องมีการปรับจูนกันอยู่แล้วครับเป็นธรรมดา แบบคุยๆ กันอันนี้ฉันเห็นอย่างนี้ เธอเห็นอย่างนั้นเหรอ แต่ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ เรื่องอายุ ก็ไม่ค่อยมีปัญหาครับ เราปรับเด็กลงได้ (หัวเราะ) ก็แปลกดี
แล้วเฟย์เขาก็มีความเป็นผู้ใหญ่ด้วย จริงๆ ผมก็ไม่ค่อยรู้สึกว่าผมอายุ 38 เท่าไหร่ ไลฟ์สไตล์มันก็เลยไปกันได้ และอีกอย่างถ้าถามผมนะ 38 กับ 29 คือ 9 ปี กับ 28 และ 19 คือ 9 ปีเหมือนกัน แต่อัน 28-19 มันดูห่าง แต่ตรงนี้ด้วยความที่ตัวเฟย์เขา 29 แล้ว เขาก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์ของเขามา เขามีความเป็นผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นแล้วสำหรับผม 29 กับ 38 ไม่ค่อยมีผลอะไรเท่าไหร่”
ยอมรับห่วงเรื่องแต่งตัว แต่แค่แซวกันเฉยๆ
“แต่ก่อนเคยหวงกว่านี้เยอะเลย แต่ตอนนี้โตขึ้นแล้ว ก็เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น เอาจริงๆ กับเฟย์นี่ไม่ค่อยนะ ด้วยความที่เฟย์เขาเป็นคนที่แต่งตัวไม่ค่อยโป๊เองอยู่แล้วด้วย และเราก็ให้เกียรติเขา ให้อิสระในการใช้ชีวิตของเขา เพราะฉะนั้นเขาจะแต่งตัวยังไงก็เป็นสิทธิของเขา แต่มีแค่ในบางทีเราก็แค่คอยช่วยระวังให้เขาเท่านั้นเองแน่นอนพอเป็นแฟนเราก็มีความหวงบ้าง เราก็แค่คอยช่วยเซฟให้เขา หรือในบางทีเขาอยากจะลงรูปอะไร เขาอาจจะมีเซ็กซี่นิดนึง ความจริงมันเป็นเรื่องของการทำงาน เรื่องชุดอะไรต่างๆ เขาก็จะมาถามเรา เราก็จะคอยช่วยเขาเท่านั้นเอง
แต่ที่หลายคนมองว่าหวงก็คือเวลาผมไปคอมเมนต์ในอินสตาแกรมว่าพอแล้ว เบาๆ อะไรแบบนี้ อย่างเวลาเขาไปเที่ยวทะเล เราก็เข้าใจ แต่เราก็จะชอบแซวว่าคุณลงชุดแบบไปเที่ยวหน้าหนาวดีกว่า แต่ก็แค่นั้นแหละ ถ้าเขาอยากจะลงก็เป็นสิทธิของเขา เราก็แค่มีหน้าที่คอยระวังให้เขาพอ แต่ที่เหลือก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเขาว่าเขาชอบแบบไหน
ก็พอเวลาที่เขาจะลงอะไรที่อาจจะรู้ว่าเราอาจจะเห็นแล้วเอ๊ะ เขาก็จะถามเราก่อน เขาเกรงใจเรามากกว่า แต่ตัวเขาเองที่เขาเป็นคนเซฟตัวเองอยู่แล้ว ระวังตัวเองดีอยู่แล้ว เรื่องพวกนี้ก็เลยไม่ได้มีปัญหาอะไร ถ้าถามว่าหวงหรือหึงมากกว่ากัน จริงๆ ก็ไม่มีเรื่องอะไรให้หึงนะ เพราะเฟย์เขาก็มีเพื่อนผู้หญิงเยอะ เพื่อนผู้ชายก็มีบ้างแต่เราก็เข้าใจ ถ้าเป็นเพื่อนก็คือเพื่อน ตัวเฟย์เองอยู่แล้วด้วยที่เวลาทำอะไรก็อยู่ในขอบเขตตามความเหมาะสมอยู่แล้ว
ที่ผมชอบเขามากๆ อันนึงที่เขาเป็นคนที่ทำอะไรแล้วรู้จักกาลเทศะ เป็นสิ่งที่ครอบคลุมทุกอย่างแล้ว เรารู้ว่าถ้าเขาจะทำอะไรก็จะเป็นสิ่งที่อยู่ในความเหมาะสมครับ เพราะฉะนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์ที่ต้องไปหึงอะไร ผมก็รู้จักเพื่อนๆ เขา ส่วนใหญ่ก็ผู้หญิง เกิร์ลแก๊งของเขา บางทีก็ไปนั่งกินข้าวกับเขาบ้าง บางทีไปส่งเขาบ้างแป๊บนึง แล้วเราก็กลับ เขาก็อยู่คุยของเขาไป เขาจะมีเกิร์ลทอล์กอะไรของเขาแหละ เราก็ปล่อยเขาทอล์กไป”