xs
xsm
sm
md
lg

“คริส พีรวัส” เผยโมเมนต์กินใจ ร่ำไห้ประกาศยุติคู่จิ้น “สิงโต” เพราะเส้นทางเดินไม่เหมือนกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“คริส พีรวัส” เผยคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่น ถึงแม้จะไม่ได้รับเสียงกรี๊ดเลย เพราะมาตรการโควิดและวัฒนธรรม แต่ก็สัมผัสได้ถึงความดีใจของแฟนคลับที่ได้เจอพวกตน พร้อมเผยโมเมนต์ประกาศยุติบทบาทคู่จิ้นกับ “สิงโต” กลางเวทีคอนเสิร์ต เชื่อแฟนๆ ที่รักกันจริงจะเข้าใจ เพราะต่างคนต่างมีเส้นทางเดินไม่เหมือนกัน

เพิ่งกลับจากไปงานมีตติ้งคอนเสิร์ตกับแฟนคลับที่ญี่ปุ่น สำหรับหนุ่ม “คริส พีรวัส แสงโพธิรัตน์” ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าแม้งานนี้จะไม่ได้ยินเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับเลนแม้แต่นิดเดียว แต่ตนก็สัมผัสได้ว่าทุกคนดีใจที่ได้เจอกัน เพราะตั้งแต่โควิด 3 ปีที่ไม่เจอแฟนคลับต่างประเทศเลย

“สนุกมากเลยครับ คิดถึงบรรยากาศที่สนามบิน คิดถึงบรรยากาศการไปเยี่ยมแฟนคลับที่ประเทศต่างๆ มากๆ ครับ เพราะเราเองก็ห่างไป 3 ปีกว่าๆ ด้วยโควิด ก็ได้กลับมาอีกที่ญี่ปุ่น ซึ่งมันยิ่งใหญ่มากๆ เพราะไปกับน้องๆ ทั้ง 11 คน การตอบรับจากแฟนๆ ก็ดีมากๆ ครับ เพราะผมจับได้ว่าพวกเขาคิดถึงพวกเรามาก เพราะซีรีส์ของเราได้ไปออนแอร์ที่โน่น และเขาอยากมาบ้านเราหลายครั้งมาก แต่อาจจะด้วยโควิด ด้วยปิดประเทศต่างๆ พอมีโอกาสได้ไปหาพวกเขาถึงที่เขาก็ดีใจมากๆ ครับ

ที่เห็นว่าเขานั่งกันนิ่งๆ ก็ด้วยกฎระเบียบครับ คือแฟนคลับญี่ปุ่นเขาจะมีระเบียบและเคร่งครัดมากๆ ครับ เป็นวัฒนธรรมเขา เขาบอกไว้แล้วว่าจัดคอนเสิร์ตได้นะ แต่ห้ามมีเสียง ก็กลายเป็นคอนเสิร์ตที่ไม่มีเสียงเลย อาจจะมีเสียงตบมือบ้าง แต่เขาจะไม่ออกเสียงออกมาเลยครับ แต่ที่น่ารักคือมันจะมีบางตอนที่ผมให้แฟนคลับยกมือขึ้นสูงๆ เขาก็จะยกมือขึ้นนิดนึง เพราะจะบังคนข้างหลัง คือเขาคิดเผื่อคนข้างหลังด้วย น่ารักมากเลยครับ

บอกถึงไม่มีเสียงกรี๊ด แต่ก็มีความสุขมาก
“ผมไม่ต้องบิวต์เลย เพราะทุกๆ โชว์ที่น้องๆ เตรียมไปรวมถึงผมเอง ผมว่ามันเป็นสิ่งที่เราอยากเล่าเรื่องมากกว่า เป็นแมสเสจของคู่ ของเดี่ยว ซึ่งผมสัมผัสเห็นจากแววตา จากรีแอ็กของพวกเขา ถึงแม้เขาจะไม่ได้กรี๊ดอะไร แต่ผมจับได้ว่าพวกเขามีความสุขมาก

จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันไม่ชินขนาดนั้น เพราะเรามีสิ่งที่เราขนมา น้องๆ ทุกคน พี่ๆ ทุกคนก็มีสิ่งที่เตรียมมา ถ้าเรามัวแต่กังวล สิ่งที่เราอยากจะเล่ามันจะไปถึงไม่เขา และจะกลายเป็นว่าเราจะทำให้พวกเขาไม่สนุก เพราะฉะนั้นเราก็สนุกของเราเต็มที่ คิดว่ามันเหมือนมีเสียงกรี๊ดนั่นแหละ แค่ไหนก็แค่นั้นครับ”

ถึงขั้นน้ำตาซึม เพราะก่อนกลับแฟนคลับทำเซอร์ไพรส์ให้
“ก็ได้เช็กฟีดแบ็กนะ จริงๆ ก็มีคนมาบอกตลอดว่าแฟนคลับสนุกมากนะครับ แต่เขาก็ระวังเรื่องโควิดกัน แต่เขาก็ไม่สามารถทำตัวปิดร่างกายตัวเองได้ เขาก็ยังมีรีแอ็กอยู่นะครับ แค่ไม่มีเสียงกรี๊ดแค่นั้นเอง พวกเขามีโปรเจกต์ให้พวกเราทั้ง 11 คนเลยครับ ในวันที่ 2 พอโชว์เสร็จก่อนกลับ เขามีจัดฉายวีทีอาร์เป็นโชว์เซอร์ไพรส์พวกเรา ซึ้งมากครับ

ก็มีน้ำตาซึม คือผมกำลังจะต้องกลับบ้านแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าจะได้มาเจอกับแฟนๆ อีกเมื่อไหร่ แฟนๆ ทุกๆ ประเทศเลยนะครับ ก็อยากไปอีกเรื่อยๆ เลย คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ มากๆ 3 ปีกว่าๆ ที่ไม่ได้บินไปหาแฟนคลับเลย และแฟนๆ ก็บินมาหาเรายากด้วย ก็รอสถานการณ์กันไปเรื่อยๆ ครับ เชื่อว่าถ้ามันง่ายในการไปมาหากัน มันต้องเกิดขึ้นอีกแน่นอนครับ”

เผยโมเมนต์ประกาศยุติบทบาทคู่จิ้นกับ “สิงโต ปราชญา เรืองโรจน์” กลางเวที
“ทุกๆ อย่างมันออกมาเป็นความจริงหมดแล้วล่ะครับ และสำหรับคริส-สิง ผมอยู่กับพี่สิงทำงานด้วยกัน ตอนนั้นยังไม่ได้อยู่ในแกรมมี่เลยนะ ตอนนั้นผม 19 ผมก็รู้จักกับพี่สิงแล้ว และเราก็เข้าไปอยู่แกรมมี่ตอนที่เราอายุ 20 พี่สิง 21 วันนี้เดินทางมาจนพวกเราทั้งคู่ใกล้เลข 3 แล้วนะ ผม 27 พี่สิง 28 มันก็เป็นระยะเวลาที่ดีมากๆ ครับ และผมจะรู้สึกนอยด์ถ้าเราไม่ได้มีวิธีการบอก วิธีการถ่ายทอดที่สวยงาม รู้สึกว่ามันดีมากๆ ที่คอนเสิร์ต LOL มันเกิดขึ้น และเราได้บอกทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นในคอนเสิร์ต ผมว่ามันจริงมากๆ เกินจริงด้วย เพราะพี่สิงก็เซอร์ไพรส์ผมในหลายๆ ครั้งที่เขาพูด ผมก็รู้สึกว่ามันก็สมเหตุสมผลสมศักดิ์ศรี ถึงเวลาของมันแล้ว ก็อิ่มเอมนะ

ผมไม่รู้เลยนะว่าที่ผ่านเขาเป็นยังไงกัน แต่ผมมั่นใจในบ้านผมมากพอ และผมอยู่กับเขามาตั้งแต่เริ่ม ผมรู้ว่าเราจะเบลอๆ แล้วหายไปเลยถ้าไม่ได้แจ้งเขาหรือไม่ได้มีอะไรที่เป็นการส่งแบบสวยงาม แต่ผมว่าอันนี้แฟนคลับจะเข้าใจพวกเรา ประทับใจในความรักของพวกเราทั้งคู่ ก็เลยรู้สึกว่าดีแล้วนะที่คอนเสิร์ตมันออกมาเป็นแบบนั้น”

เชื่อแฟนคลับบ้านยังเหนียวแน่นเหมือนเดิมแน่นอน
“จริงๆ ไม่ได้ใช้ความกล้าเลยครับ ผมมั่นใจกันมาก ผมกับพี่สิงมั่นใจกันมากว่ามันไม่เกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้นหรอก ผมว่ามันเป็นการแสดงความจริงใจมากกว่าว่าพวกเราทำงานกันมานานแล้วนะ เราเติบโตกันมานานมากๆ แล้วนะ พี่สิงเองก็มีเส้นทางที่เขาอยากจะไป อยากจะไปเรียนต่อ อยากจะไปเป็นผู้กำกับ อยากจะไปทำเบื้องหลัง และผมเองก็อยากจะเดินเส้นทางศิลปินมากขึ้น ซึ่งพี่สิงเขาก็ไม่ได้ถนัดในทางที่เราถนัด เราเองก็ไม่ได้ถนัดในทางที่พี่สิงถนัด

มันดีแล้วล่ะครับที่วันนี้เราได้บอกกันอย่างเข้าใจ ไม่รู้ว่าเป็นยังไงกันในที่ผ่านๆ มา บอกหรือไม่ควรบอก แต่ผมโคตรมีความสุขเลยที่ผมได้เกิดคอนเสิร์ต LOL นี้ขึ้น มันได้ปลดล็อก มันเป็นการวัดใจทุกๆ อย่างเลยนะ วัดใจแฟนคลับเราว่าที่ผ่านมากาลเวลาพิสูจน์แล้วว่าคุณรู้จักเราจริงใช่ไหม คุณรักเราจริงใช่ไหม ผมกับพี่สิงก็วัดใจกันสุดๆ ไปเลยว่าเรามีความเชื่อใจกันแค่ไหน เราตามกันแค่ไหน และมันพิสูจน์ออกมาให้เห็นหมดเลย

ผมรู้สึกว่าทุกๆ ครั้งที่มีคอนเสิร์ตเกิดขึ้น ผมจะสนิทกันมากขึ้น เพราะมันจะมีอะไรมาทดสอบเรา และมันกลายเป็นว่าออกมาเป็นอย่างที่เราคิดไว้ทุกครั้ง ตั้งแต่แฟนโทรเปียที่ตอนนั้นพี่สิงไม่ได้อยากร้องเพลง ผิดที่ไว้ใจ แต่เราพยายามที่จะสร้างความเชื่อใจให้กันจนพี่สิงร้อง และจนมาวันนี้ทุกๆ โชว์พี่สิงยอมให้คริสร้องเพลง เพราะว่ารัก ทุกๆ อย่างมันเกิดจากความเชื่อใจหมดเลยนะ ถ้าเราไม่เชื่อใจกันถึงขั้น 100% ทุกๆ อย่างก็จะไม่ออกมาขนาดนี้ ผมรู้สึกว่ามันว้าวมาก”

เผยไม่มีคอมเมนต์ที่ไม่ดีเลย แต่เป็นความเข้าใจมากกว่า
เท่าที่ผมเข้าไปอ่านนะครับ เขาเหมือนพ่อแม่พวกเราไปแล้ว เขาเข้าใจเราไปหมดเลย ลูกๆ กำลังจะไปต่อมหาวิทยาลัยกันคนละมหาวิทยาลัยนะ ลูกๆ กำลังจะไปทำงานตามสายอาชีพของตัวเองนะ แฟนคลับก็เหมือนเป็นเพื่อนที่เข้าใจเพื่อน อยู่กันมานานมากแล้วครับ มันไม่มีอะไรที่จะดีไปมากกว่านี้หรือไม่ดีไปมากกว่านี้

ผมยังห่วงความรู้สึกแฟนคลับอยู่นะ แต่ผมเข้าใจและเชื่อใจพวกเขามาก ว่าเวลามันพิสูจน์มาขนาดนี้ พวกคุณก็รู้ว่าคริสสิงคือคริสสิง และหลังจากนี้มันคงเป็นการทำงานของแต่ละคน ถ้าเรารักกันจริง เรารู้จักกันจริง ผมเชื่อว่ามันจะคงอยู่ไปตลอด มีคำพูดนึงที่ผมชอบมากๆ ของแฟนคลับว่าที่ผ่านมาแฟนคลับเชื่อมาตลอดว่าคำว่าตลอดไปไม่มีจริง แต่มันกลายเป็นว่าคริสสิงบอกลากันบนเวที แต่กลายแฟนคลับเข้าใจว่าคำว่าตลอดไปมันมีจริงกับพวกผม เลยรู้สึกว่าแบบนี้แสดงว่าคุณรักและเข้าใจเราจริงๆ เพราะคำว่าตลอดไปสำหรับพวกผมทั้งคู่มันมีอยู่จริงครับ

สุดท้ายแล้วความโชคดีของพวกผมคือเราอยู่กับแฟนคลับกันเองมาตั้งแต่ต้น เราไม่ได้มีระบบระบอบบางอย่างมาครอบพวกเราไว้และเราทำตามนั้นกันหมด เราเกิดจากการที่เราดูแลกันเองครับ และเรามั่วๆ กันมาเอง จนมาวันนี้มันเป็นความสนิทที่เราเข้าใจแฟนคลับ เข้าใจนิสัยเขาไปด้วย เพราะฉะนั้นผมว่ามันเป็นการลงลึกแหละ เป็นการลงรายละเอียด เป็นการใส่ใจ คริสกับพี่สิงใส่ใจแฟนคลับของพวกเราทั้งคู่มากๆ”

บอกตกใจเหมือนกันที่เห็น “สิงโต” ร้องไห้
“ผมสัมผัสได้ว่าพี่สิงเกือบร้องไห้แล้ว พี่สิงเคยพูดกับผมไว้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาเม้มปาก เมื่อนั้นแหละเขากำลังกลั้นอยู่ และผมเห็น ผมก็เฮ้ย เอาเหรอวะ อยู่กันมาเกือบ 10 ปี ผมไม่เคยเห็นการร้องไห้จากเขาเลย แต่ผมได้เห็นบนเวทีนั้น มันกินใจไปหมดเลย มันประทับใจผมไปทุกๆ อณูของโชว์เลย

เรื่องการร่วมงานผมเชื่อว่าทั้งผมและพี่สิงเราคาดหวัง แต่เราก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง เพราะองค์ประกอบมันก็ไม่ได้มีแค่ใจของพวกเรา แต่เมื่อไหร่ที่เราอยากจะอยู่ด้วยกัน เมื่อไหร่ที่เราอยากจะทำอะไรร่วมกัน ความมั่นใจและไว้ใจจะเหมือนเดิมไม่ว่าจะนานแค่ไหนครับ”













กำลังโหลดความคิดเห็น