“นุ่น วรนุช” ปลื้มฟีดแบ็ก เข็มซ่อนปลาย ดีมาก ไร้ปัญหาร่วมงาน “เจี๊ยบ โสภิตนภา” เพราะสนิทกันอยู่แล้ว แต่ยอมรับเรื่องนี้ยากจริง ต้องเรียนภาษามือด้วย แถมเลิฟซีนกับ “เก้า จิรายุ” ก็แซ่บจน “ต๊อด ปิติ” มองค้อน เผยยังแฮปปี้กับงานแสดง ไม่คิดไปทำเบื้องหลัง
เป็นนางเอกแม่เหล็กตลอดกาลจริงๆ สำหรับสาว “นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี”กับผลงานละครเรื่องล่าสุด เข็มซ่อนปลาย ของผู้จัดเพื่อนซี้ “เจี๊ยบ โสภิตนภา ชุ่มภาณี”ที่เพิ่งออกอากาศไปได้ไม่กี่ตอน แต่เรตติ้งพุ่งกระฉูด โดยเฉพาะเรื่องนี้สาวนุ่นต้องมาประกบพระเอกรุ่นน้องที่เคยร่วมงานกันเมื่อ 17 ปีที่แล้วอย่าง “เก้า จิรายุ ละอองมณี”ด้วย
“ฟีดแบ็กดีค่ะ แรกๆ จะไม่ค่อยมีใครอยู่ทีมเยาวยอด พอมา ep.3 คนเริ่มกลับมาอยู่ฝั่งเรา เข้าใจตัวละครว่าที่เขาทำไปเป็นเพราะอะไร จริงๆ เรื่องนี้ยากนะคะ มันค่อนข้างหนักมากๆ เพราะเป็นเรื่องไกลตัวนุ่นเหมือนกัน เช่น แท้งลูก และเป็นการแท้งครั้งที่ 2 มันต้องหนักหน่วงเบอร์ไหนที่ฝังใจเราตลอด
ก็ขอบคุณพี่เจี๊ยบ เพราะพี่เจี๊ยบเคยบอกนุ่นตั้งแต่เล่นละครเพลิงเสน่หาด้วยกันว่าอยากทำละครให้นุ่นเล่น เลยบอกว่าพี่ก็ไปหามาสิ พอคุยกับช่อง7 ก็ได้เรื่องนี้มา ก็มาคุยกันว่าบทเยาวยอดเป็นแบบไหน ก็เลยรับค่ะ เพราะจริงๆ บทไม่ได้มาครบ แต่เรามองภาพรวมว่าเป็นยังไงมีอะไรให้เราเล่น อะไรที่ท้าทายและทำให้เราสนุกกับการทำงานอยู่
ไม่กดดันค่ะ จริงๆ ทุกตัวละครก็มีความสำคัญหมด แต่ละคนทำหน้าที่ของตัวเอง มันก็เป็นเรื่องที่ยาก พอได้นักแสดงนำมา 5 คน จะทำยังไงให้บททุกคนมันไม่หายไป ไม่ทิ้งกัน ให้ทุกคนมีความเท่าเทียมก็คงยากในฐานะผู้จัด
บอกเลยว่ายาก อ่านไปก็คิดว่าจะเล่นยังไง (หัวเราะ) มันมีอะไรให้ทำหลายอย่างมาก จะสื่อสารยังไง เดี๋ยวนี้ละครถ่ายหลายรอบ พอดรามาก็ต้องดับเบิ้ลไปอีก ก็สนุกท้าทายค่ะ เยาวยอดค่อนข้างมีหลากอารมณ์ วาไรตี้มากๆ จริงๆ เขาก็เป็นคนน่ารัก ถ้ามองข้ามเรื่องอะไรที่ไม่ถูกใจเขา เขาก็อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์ มีความรักดีๆ เหมือนคนทั่วไป แต่อาจจะโชคร้ายที่คนที่เข้ามาไม่ได้รักเขาจริงๆ ถ้าถามว่านุ่นชอบอะไรในตัวเยาวยอด คือเขาเป็นคนแฟร์มาก ถ้าเขาไม่ทำผิดอีกคือจบ แต่เรื่องราวมันทำให้มีอะไรพัวพันไปเรื่อยๆ ไม่จบสักที”
บอก “เก้า” เป็นนักแสดงที่เก่งมากมาตั้งแต่เด็กแล้ว
“กับเก้าเคยเจอกันมาตั้งแต่เขาเด็กๆ เลย คือถ้าเราไม่ได้เทียบความเด็ก ฝีมือเขาก็ไม่เด็กนะคะ เขาก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเราได้นะ เมื่อ 17 ปีก่อน เขาเล่นเป็นหลานเรา วันนี้ต้องมาเป็นพระนาง (หัวเราะ) ถ้าบอกว่าไม่คิดเลยคงเป็นไปไม่ได้ มันก็มีภาพเก่าๆ ขึ้นมา เพราะเรื่องนั้นที่นุ่นเล่นกับเก้า ทั้งสองคนก็ดรามามาก เป็นป้าหลานที่ไม่ยอมกัน เขาด่าเรา เราด่ากลับ ยากมาก แต่จำได้ว่าเขาเป็นคนเล่นละครเก่ง ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเสียเวลาของการทำงาน กับ ณ ตอนนี้มีโอกาสได้มาร่วมงานกันก็ดีใจ เราก็เห็นเขาโตและเป็นพระเอกจริงจังได้แล้ว อยากให้ดูที่ความสามารถเขา
ก็มีพูดคุยถึงสมัยก่อนบ้างค่ะ เก้าบอกเกร็งนุ่น (หัวเราะ) นุ่นก็ชวนทุกคนเล่น ชวนคุยหมด กับหลายๆ คนที่ไม่เคยร่วมงานกัน อย่างที่บอกว่าซีนที่เล่นไปเป็นฉากอารมณ์ค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ได้สนิทกัน คุ้นเคยกัน มันอาจจะแอบยาก เลิฟซีนก็มีบ้างค่ะ แต่ไม่เยอะ อยากให้ดู แต่อยากให้คิดถึงความพอดีในการเล่าเรื่องของตัวละคร 2 ตัวมากกว่า มันจะเห็นอะไรที่มากกว่าคำว่าฉากเลิฟซีน”
บอก “ต๊อด ปิติ ภิรมย์ภักดี” ชอบมาเห็นตอนฉากเลิฟซีน
“จริงๆ เมื่อก่อนเราเกรงใจที่บ้าน ย้อนไปนานๆ ก็คือเล่น แต่ก็เกรงใจ ก็มีขอบ้าง แต่บางครั้งความสมบูรณ์ของภาพมันก็ขาดไป แล้วยิ่งอยู่ในยุคนี้มันไม่ได้กลายเป็นเรื่องแปลก ถ้าเราสามารถทำให้ภาพเหล่านั้นทำให้เรื่องมันสมบูรณ์มากขึ้นนุ่นก็โอเค เวลามีฉากแบบนี้ก็มีบอกคุณต๊อดบ้าง แต่ไม่ได้ไปนั่งย้ำ ก็บอกว่ามีแค่นั้น
เขาก็ได้ดูนะ วันนั้นมีฉากจูบกับบูม (กิตตน์ก้อง ขำกฤษ) เขาก็หันมาอ้าว แล้วเขาเป็นคนที่อยู่ๆ ไปทำโน่นนี่มา พอออกมาอ้าวฉากอยู่ด้วยกันอะไรแบบนี้ตลอด จะเป็นจังหวะนี้ตลอด แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็มีนั่งดูด้วยกันบ้างค่ะ อย่างเวลาพาเพื่อนมา เขาก็จะไปอยู่อีกห้องนึง ถ้าไม่มีใครมาก็นั่งดูด้วยกัน ถามว่าเขาเคยห้ามไหม จริงๆ นุ่นก็รู้ลิมิตว่าประมาณไหน อย่างที่บอกเอาเรื่องนำดีกว่า ไม่อยากให้โฟกัสเลิฟซีนอะไรแบบนี้”
ไม่คาดหวังฟีดแบ็ก เพราะทำเต็มที่ 100% แล้ว
“ทุกคนทำงานก็อยากให้ออกมาดี ฟีดแบ็กดี แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องอยู่ที่คนดูว่าเขาจะชอบในแบบที่เราเล่นไหม แต่ตัวนุ่นเองเต็มที่ 100% เพราะฉะนั้นไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงนุ่นรับได้หมด เราเต็มที่ของเราแล้ว และพยายามสื่อสารทั้งนักแสดงที่ทำงานด้วยกัน ตัวละครด้วยกัน แล้วก็สื่อสารกับคนดูให้เขาเข้าใจตัวละครเรามากที่สุด
เรื่องนี้ต้องเรียนทำภาษามือด้วยค่ะ ก่อนถ่ายก็จะมีน้องม่อน เขาก็จะส่งภาษามือมาให้ดูว่าอันนี้เป็นยังไง แต่การจำอาจจะยากนิดหนึ่ง เพราะการพูดเรียงประโยคไม่เหมือนกัน นุ่นก็ต้องเรียนค่ะ แล้วก็พยายามศึกษาไปด้วยว่าทำยังไง สมมติเป็นฉากที่คุยกับเด็กๆ เด็กๆ ที่มาเข้าฉากก็คือพูดไม่ได้จริงๆ ต้องใช้ภาษามือกันทุกคน เขาก็น่ารักนะ บางทีถามคำนี้อะไรยังไงเขาก็บอก ก็น่ารักดี
จริงๆ พี่เจี๊ยบบอกว่าซีนนี้มันยาว เราจะมีครูที่เป็นภาษามืออยู่แล้วมาเข้าฉาก เราไม่ต้องทำก็ได้ เราก็อ้าวทำไมครูทำล่ะ ก็หันไปหาพี่เจี๊ยบว่าทำไมให้ครูทำ เราอยากทำเอง เพราะเราก็ซ้อมมา 2 วันก่อนถ่ายแล้ว คือภาษามือนอกจากมือที่เราใช้แล้ว ก็เป็นเรื่องของสีหน้าที่ต้องมีอารมณ์ไปกลับไดอะล็อกนั้นๆ ด้วยค่ะ เราก็อยากให้มันสมบูรณ์เนอะ อย่างที่บอกเราทำเต็มที่กับบทนี้ 100% แล้ว ไม่ว่าผลตอบรับจะเป็นยังไงเราก็ยอมรับค่ะ”
ดีใจได้ร่วมงานกับพี่ที่สนิทอย่าง “เจี๊ยบ”
“ไม่ยากเลย (หัวเราะ) เขาก็เต็มที่กับงานในทุกๆ ส่วน เขาก็จะเหนื่อยหน่อย เพราะต้องดูแลทั้งกองและนักแสดงอีกหลายคนด้วย ดูภาพรวมด้วย เหนื่อยเลยเนอะ แต่คุ้มค่านะ เราเป็นคนเต็มที่กับงานอยู่แล้ว คือการทำงานมันมีปัญหาอยู่แล้วในทุกๆ เรื่อง เราก็ฟังบ้างว่าพี่มีปัญหาอะไรยังไง บางทีในฐานะที่เราเป็นเพื่อน เราก็จะแยกแยะว่ามีบางอย่างที่คุยกัน พี่มันอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ในฐานะที่เป็นนักแสดงพี่ไม่ต้องห่วงเลย เพราะหนูจะเต็มที่ของหนู
ถามว่าการทำงานกับเพื่อนสนิทมีมุมที่ง่ายและยากยังไง มันก็ง่ายนะคะ มีอะไรผู้จัดก็จะส่งมาบอกก่อน (หัวเราะ) อย่างเช่นประชุมกันเรื่องบท มีแบ็กกราวน์ตัวละคร เขากลัวลืมก็ส่งมาหาเรา ประมาณนี้ๆ ถ้าถามถึงสิ่งที่ยากก็ไม่มีนะคะ แต่พี่เจี๊ยบอาจจะกระโดดเยอะในกอง เพราะเขามีเอ็นเนอร์จี้เยอะ (หัวเราะ)
การแสดงยังท้าทายสำหรับนุ่น ยังมีอะไรให้เล่นอยู่ค่ะ เดี๋ยวนี้คาแรกเตอร์และบทบาทตัวละครก็เปิดกว้างค่อนข้างเยอะมากๆ ถ้าถามว่าเบื่อไหม ไม่เบื่อค่ะ นุ่นชอบ สนุกที่ได้เล่นเป็นคนอื่นและได้ทำงาน ถ้าถามถึงงานเบื้องหลังนุ่นช่วยคนอื่นได้ แต่ให้มาทำเองคงไม่เวิร์ก มันต้องรับผิดชอบเยอะ ทำเป็นจริงเป็นจังคงไม่ได้เห็นค่ะ เล่นละครดีกว่าค่ะ นุ่นยังสนุกกับตรงนี้ นุ่นไม่ได้มีเป้าหมายอะไรไกลๆ เลย แค่รู้ว่าในช่วงเวลาใกล้ๆ เราจะทำอะไร เราแพลนอะไร อนาคตไกลๆ มันลำบาก เพราะเราไม่รู้”