“แอน ทองประสม” ถอนใจ ยังไม่ได้ทรัพย์สินคืนมาสักชิ้น แต่ขอสู้ หาข้อมูลเอาทรัพย์สินคืน หวังว่ากฎหมายจะคุ้มครองตน งงไม่คิดว่ามาถึงจุดนี้ ที่ผ่านมาใช้ชีวิตระวังตัว ซึ้งหัวอก “คิมเบอร์ลี่” แล้ว หลังเคยปลอบให้ทำใจของหาย บอกเป็นทรัพย์สินที่เก็บสะสมตั้งแต่อายุ 15 ปี เสียใจที่สุดของหมั้นหาย มีคุณค่าทางจิตใจ
เรียกว่าช้ำถึงขั้นน้ำตาซึมเลยทีเดียว สำหรับ “แอน ทองประสม” นางเอกและผู้จัดละครช่อง 3 หลังจากที่ถูกคนใกล้ตัวขโมยทรัพย์สินและเงินสดที่อยู่ในคอนโดฯ เอาไปขาย มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท และถึงแม้ตร.จะสามารถจับผู้ก่อเหตุได้ แต่ก็ยังไม่ได้ทรัพย์สินคืนมา ซึ่งแอนได้เปิดใจระหว่างมาร่วมงานเปิดตัว “เสื้อผ้าคอลเลคชัน UNIQLO Fall/Winter 2022” ยอมรับว่าหนึ่งในของที่ถูกขโมยคือแหวนหมั้นจาก “เอ ทินพันธ์ ตันตินิรันดร์” และที่เหลือก็เป็นสิ่งของที่เก็บเล็กผสมน้อยสะสมมาตั้งแต่อายุ 15 ปี ถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกวูบๆ อยู่เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ รวมทั้งเข้าใจหัวอก “คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ” แล้ว
“ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงติดตามเอาของคืนค่ะ ก็ต้องไปคุยกับตามที่ทางผู้ต้องหาเอาของเราไปจำนำ เอาของเราไปฝากขาย ก็อยู่ในช่วงที่ เฮ้อ (ถอนหายใจ) ต้องต่อสู้นิดหนึ่ง ยังไม่มีชิ้นไหนที่ได้กลับมา อยู่ในช่วงของการหาข้อมูล แล้วก็เตรียมไปเจรจาค่ะ ส่วนเรื่องของอันนี้ก็ต้องสืบกันต่อไป ต้องหาข้อมูลกันต่อไป อย่างที่บอกว่ามันก็มีหลายรูปแบบ มีทั้งที่พร้อมจะยินดีและไม่ยินดี เราก็ต้องเอาหลักฐานมาคุยกัน ต้องใช้กฎหมายเข้าไปช่วย แอนก็หวังว่ากฎหมายจะคุ้มครองผู้เสียหายอย่างแอนบ้าง แอนก็อยากจะลองต่อสู้ หมายถึงว่าหาข้อมูล หรือทำทุกอย่างให้มันไปในทางที่ถูกต้อง ที่เราสมควรที่จะได้รับการดูแล ก็พยายามหาข้อมูลอยู่ มันเป็นเรื่องเซนซิทีฟค่ะ บางทีอ่านแล้วอันนี้อาจจะเข้าข่าย อันนี้ไม่เข้าข่าย ก็ไปหาข้อมูลเอา
ถามว่ามีที่เขายินดีให้เราเอาของได้ เขาให้เสนอเรามาว่าอย่างไรบ้าง คือยังไม่ได้เริ่มคุยค่ะ วันนี้แอนเพิ่งไปหาข้อมูลกับทนายมา ก็เพิ่งได้ข้อมูลมาเนี่ยค่ะ หลังจากนี้ก็ค่อยไปย่อยกันอีกที แล้วค่อยจัดสเต็ปว่าจะยังไงต่อ เข้าไปสำนักอัยการมาแล้วค่ะ ไปดูทิศทาง ไปดูแนวทาง ในฐานะที่เราเจอเหตุการณ์ร้ายๆ ตรงนี้ ชีวิตเราก็ต้องเดินต่อ ต้องแก้ไขปัญหาต่อ แต่พอเราไปยืนอยู่ตรงนั้นก็แบบ…นี่เรามาศาลเหรอ จะมีความรู้สึกแบบ ทั้งชีวิตเรา ใช้ชีวิตระวังตัวมาก แทบจะไม่ทำผิดกับใคร แต่ลืมคิดในมุมที่เราจะถูกกระทำ มันก็ไม่ทันได้ระวังตัวตรงนั้น ก็กลายเป็นว่าต้องมายืนตรงนี้ มันก็เลยงงๆ นิดหน่อย”
รับโพสต์ว่าไม่คิดจะมาถึงจุดนี้
“ใช่ แอนก็งงเหมือนกัน มายืนแล้วแอนก็เหมือนใจสั่น มีความรู้สึกหวั่นไหวบ้าง เพราะไม่คุ้นตา ไม่คิดว่าจะมามากกว่า (กับบางชิ้นเราทำใจไว้ไหม ว่าอาจจะต้องควักเงินเพื่อเอามันกลับคืนมา?) ตอนนี้ยังไม่ได้คิดไปในทางไหนชัดเจน อยู่ในช่วงรวบรวมข้อมูล แล้วเราจะดูว่าเราไปทางไหนได้ ก็ต้องให้ทนายไปย่อยอีกที แล้วแอนค่อยมาบอกได้ไหมคะ”
ยังนอนหลับแต่แอบวูบๆ ถามตัวเองตลอดนี่เรื่องจริงใช่ไหม ล้าแต่ต้องไปข้างหน้า
“เอาจริงๆ แอนหลับนะ แต่มันเป็นมุมเหมือนดีเลย์มากกว่า เหมือนอยู่ๆ ก็แบบอะไร นี่มันเรื่องจริงใช่ไหม มันมาเป็นวูบๆ เวลาเราหายยุ่งจากงาน หรืออยู่ๆ ความเศร้ามันเข้ามาก็มีบ้าง ที่แบบ…เฮ้ย มันเกิดขึ้นกับเราได้ยังไง แล้วภาพที่เราเห็นวันนั้น มันใช่เหรอ ทำไมมันเกิดสิ่งนี้กับเรา มันเป็นแฟลชแบ็กเข้ามา แต่โชคดีอย่างหนึ่ง คือแอนเป็นคนยุ่งมาก มีอะไรให้ทำตลอดเวลา มันก็เลยทำให้เราไม่อยู่จมกับตรงนั้น ชีวิตแอนมันไปข้างหน้า แอนล้าไม่ได้ แอนต้องหาข้อมูลเพื่อยืนต่อให้ได้ มันก็เลยกลายเป็นว่า อาจจะเป็นช่วงสั้นๆ ที่เรารู้สึกหวั่นไหว มนุษย์ทุกคนโดนตีก็เจ็บ เราโดนลมพัดแรงๆ เราก็มีเซๆ แต่เราก็พยายามจะทำให้มันเสถียร ประคองให้มันไปต่อได้”
ซึ้งคนดีๆ ที่อยู่รอบตัว
“สิ่งที่น่ารักอย่างหนึ่ง ในยามที่เราเจออะไรแบบนี้ แอนเพิ่งเห็นว่ามีคนดีๆ อยู่รอบตัวแอนเยอะมาก แล้วเขาไม่เคยได้แสดงความรู้สึกนั้นกับเรา เขาดูเห็นใจเรา ก็มีความอบอุ่นตรงนี้แผ่ออกมาให้เรารู้สึกดีเรื่อยๆ มีคนที่เคยโดนส่งข้อความมาหลายรูปแบบเลยค่ะ แอนถึงบอกว่าแอนบอกเป็นรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ที่ชัดเจนตอนนี้ไม่ได้ ทุกอย่างมันอยู่ที่เราจะไปต่อสู้กัน ถ้าเราทำข้อมูลได้ดี เราชัดเจน เราก็สามารถไปต่อได้ ก็จะมีคนทั้งที่แบบเป็นเวย์นั้นเวย์นี้มาเยอะแยะ เราก็ต้องมีสติในการฟัง ว่าอันไหนมันใกล้เคียงเคสเรา อะไรแบบนี้ค่ะ”
รับระแวง
“เอาเป็นว่าถ้าเห็นใส่อะไรตอนนี้คือของปลอม เอาอย่างนั้นดีกว่า (หัวเราะ) ระแวงมีนิดหนึ่งเหมือนกันนะ คือแบบจะวางกระเป๋าก็ไม่กล้าวาง มันเหมือนเรารู้แหละว่าไม่มีใครเอาหรอก แต่เราอย่าไปสร้างนิสัยให้คนที่ไม่เคยคิดจะเอาได้มีโอกาสจะเอา ดังนั้นเราก็เลยต้องดูแลตัวเอง ซึ่งของแอนจะเป็นในลักษณะนั้นมากกว่า ไม่ใช่ว่าแอนไม่ไว้ใจคนที่อยู่รอบตัวนะ แต่ว่าดูแลตัวเองดีกว่าเราคิดแค่นั้นจริงๆ เราก็ดูแลตัวเองมากขึ้น และก็มันเหมือนไม่ได้อยากจะไปเอาอะไรต่อแล้วในชีวิต อันนี้แค่บอกให้ฟังนะ คือเราเจอแบบนี้มาและท้ายที่สุดเราก็ได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะเลย”
รับหมดตัว ของที่หายเก็บสะสมตั้งแต่อายุ 15 เสียใจของหมั้นหาย มีคุณค่าทางจิตใจ
“ของที่มี ที่แอนเก็บมาตั้งแต่อายุ 15-16 ปี คือแอนไม่ได้เพิ่งเก็บ แต่แอนเก็บสะสมที่ละเล็กละน้อยของแอนมาเรื่อยๆ ซึ่งในส่วนนั้นมันก็ไปหมด แต่ว่ามันอาจจะมีนาฬิกาอีกอันที่มันเป็นรุ่นที่ไม่สามารถปล่อยขายได้ในทันที มันก็เลยทำให้ไม่ได้ถูกเอาไป ของมีคุณค่าทางจิตใจก็มีค่ะ มีของหมั้น อันนั้นก็เสียใจ เป็นของหมั้นที่คุณเอมอบให้ มีรวมอยู่ในนั้นด้วย เป็นแหวน ก็มีก้อนนั้นรวมอยู่ด้วย”
ไม่ต้องพึ่งจิตแพทย์
“ไม่ค่ะ ไม่ แค่มันเป็นช่วงจังหวะที่มีความรู้สึกใหม่ๆ เข้ามามากกว่า ซึ่งแอนคิดว่าแอนสามารถคอนโทรลได้ เพราะสถานการณ์ ณ ตอนนี้ มันยังอยู่ในช่วงของการเดินทาง มันยังได้มีการสรุปว่าเราไม่มีโอกาสต่อไปแล้ว แอนรู้สึกว่าแอนยังมีหวัง และแอนก็ยังไปต่อได้”
“เท ทินพันธ์” เดินเข้ามากอดปลอบตน
“ไม่ได้พูดอะไรเลยค่ะ เขาแค่เดินมากอด อย่างตัว น้องญาญ่า (อุรัสยา เสปอร์บันด์) ที่ได้เจอกันวันนี้ เขาเองก็เดินมากอดแอนแน่นๆ ช่วงนี้แอนได้รับการกอดแน่นๆ มาตลอดตั้งแต่เกิดเรื่อง ซึ่งมันช่วยแอนได้ แค่นี้มันก็พอแล้ว”
วันที่ไม่ไหวก็ชวน “คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ” มาหา ลั่นเคยปลอบคิมให้ทำใจ แต่วันนี้ซึ้งแล้วมันทำใจยาก
“เจอกันบ่อยค่ะเพราะอยู่ที่เดียวกัน และก็จะมีแบบขอให้คิมลงมาหาพี่หน่อยพี่ไม่ไหวแล้ว พี่อยากมีเพื่อนคุย ซึ่งนางก็ลงมา เป็นการคุยกับพี่น้องปกติทั่วไป ส่วนที่คนคิดว่าเป็นคนๆ เดียวกันของของคิม อันนั้นก็ในส่วนของคิม ต้องเป็นข้อมูลที่คิมต้องไปจัดการต่อ คือมันเป็นคนละเหตุการณ์กับแอน แอนจะไปผสมโรงไม่ได้
แต่ถามว่าเราเคยคุยกันไหม อันนั้นเป็นเรื่องปกติที่เราแชร์กันอยู่แล้ว มีการพูดคุยกันบ้างค่ะ ตอนแรกแอนก็แบบน้องทำใจเหอะ ในตอนที่เกิดเหตุการณ์กับเขา แต่พอมาเจอกับตัวเองถึงได้รู้ว่ามันก็เป็นอะไรที่ทำใจยากเหมือนกัน เข้าใจแล้ว เข้าใจจริงๆ”
จำกัดคนไม่ให้เข้าคอนโดอีกแล้ว
“สำหรับคอนโดแอน คือถ้าเป็นคนอื่นเข้าไม่ได้อยู่แล้วค่ะ และจริงๆ แอนก็ไม่ได้ห่วงเรื่องการเข้าออกหรอก แต่ว่าแอนจะทำในลักษณะเป็นการจำกัดบริเวณคนในของเรามากกว่า คือไม่ให้เข้าอีกแล้ว ตอนนี้ไม่ให้ใครเข้าแล้วค่ะ เข้าไม่ได้แล้ว ซึ่งแอนต้องจัดการใหม่ทั้งหมด ต่อให้แอนไม่มีอะไรแล้วแอนก็ให้เข้าไม่ได้ คือแอนต้องฝึกตัวเองด้วยในการที่จะจำกัดพื้นที่ทุกๆ เรื่องในชีวิต เหตุการณ์นี้สอนให้แอนต้องปรับตัว จากนี้โซนทำงานกับพื้นที่ส่วนตัวต้องแยกกัน”
ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจตน
“แอนขอใช้พื้นที่ตรงนี้นะคะ แอนขอบคุณทุกคนที่เข้ามาหาแอนทางโซเชียลฯ และให้กำลังใจ ซึ่งแอนไม่สามารถเข้าไปตอบทุกคนได้ครบ แอนขอใช้พื้นที่ตรงนี้นะคะขอบคุณมากๆ สำหรับกำลังใจ มันมีความหมายสำหรับแอนมากค่ะ”