หลังมีคนออกมาฟันธง ว่านางเอกสาว “ปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล” กับแร๊ปเปอร์หนุ่ม “โต้ง ทูพี” หรือ “โต้ง พิทวัส พฤกษกิจ”ได้เลิกรา วิวาห์ล่ม ปิดฉากรัก 10 ปีจริงตามข่าวลือ ล่าสุดวันนี้ (23 ส.ค.) ในงานเปิดตัว คาซาร์เต้ (Casarte) แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านสุดไฮเอนด์ สาวปรางก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดใจเป็นครั้งแรก ว่าได้การยุติความสัมพันธ์กันมา 2 เดือนแล้ว จากกันด้วยดี เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ไม่มีมือที่สามแน่นอน โดยยอมรับว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ง่าย ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น และคงไม่มีการกลับมาคบกันรอบ 3
“ก็...ตอนนี้นะคะ ปรางกับโต้งเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันค่ะจริงๆ เป็นการพูดคุยตัดสินใจกันเมื่อประมาณ 2 เดือนแล้วค่ะ พอมีเรื่องของการแต่งงาน มีดีเทลค่อนข้างเยอะ มีรายละเอียดให้พวกเราต้องหันหน้ามาคุยกัน ทบทวนในจุดประสงค์หลายๆ อย่างมากๆ เลยค่ะ จริงๆ หนูเองก็ยอมรับว่าหนูก็เพิ่งรู้ว่าการพัฒนาจากคนที่เป็นแฟนกัน ไปสู่คนที่จะมาใช้ชีวิตเป็นครอบครัว มันมีดีเทลค่อนข้างเยอะ หนูกับโต้งก็ได้เรียนรู้กันมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว แต่ว่ามันเป็นอีกจุดเปลี่ยนหนึ่ง ที่เราก็ยอมรับว่ามีอะไรหลายๆ อย่าง ต้องมานั่งคุยกันใหม่”
ฟางเส้นสุดท้ายไม่ได้เป็นแบบในข่าว แต่ก็ไม่สามารถอธิบายเป็นข้อๆ ได้
“จริงๆ ฟางเส้นสุดท้ายแบบในข่าวไม่มีหรอกค่ะ เราใช้ชีวิตกันมานาน เรารู้จักกันค่อนข้างดีอยู่แล้ว เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เป็นแฟนที่ดีต่อกันมาเสมอ เพียงแต่ว่าหนูเองก็ไม่สามารถจะอธิบายเป็นข้อๆ ได้ขนาดนั้น หวังว่าทุกคนจะเข้าใจหนูด้วย ว่าความสัมพันธ์เป็นเรื่องละเอียดอ่อน มันไม่สามารถบอกเป็นข้อหนึ่ง ข้อสองได้หรอกค่ะ หนูหวังว่าทุกๆ คนเข้าใจหนู มันเป็นเรื่องยาก สำหรับหนูกับโต้งมากๆ เลยค่ะ”
มีหลายเหตุผลมากในการยุติความสัมพันธ์ แต่ก็ทบทวนกันมาอย่างหนัก ก่อนตัดสินใจเป็นแค่เพื่อน
“มันมีหลายเหตุมากเลยค่ะ อยากให้เชื่อใจเราสองคน ใช้เวลาคิดและทบทวนอย่างหนักมากๆ ก่อนที่จะมาถึงวันที่เราตัดสินใจกัน อยากให้เชื่อใจว่าเราไม่ได้ผ่านจุดนั้นมาง่ายๆ เราคิดทุกอย่างมาเป็นอย่างดี กว่าจะมาถึงจุดที่เราตัดสินใจ ว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแบบนี้”
10 ปีที่ผ่านมาพยายามปรับจูนกันตลอด อยากให้เกียรติความรักที่สวยงาม เพื่อเป็นความทรงจำที่ดีต่อกัน
“จริงๆ 10 ปีที่ผ่านมามีตลอดค่ะ เราจะต้องปรับจูนกันตลอด ปรางว่าแฟนกันทุกคู่มีการปรับจูนเสมออยู่แล้วค่ะ อยู่ที่ว่าเราจะผ่านพ้นมันไปได้ไหม วันนี้หนูไม่สามารถลงรายละเอียดอย่างในข่าวได้ ว่าเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ได้ ส่วนหนึ่งตัวหนูก็อยากจะให้เกียรติความรัก 10 ปี ที่สวยงามของหนูมากๆ เป็นโมเมนต์ที่สวยงามเกิดขึ้นจริง ทุกๆ เหตุการณ์ทุกๆ เรื่องราว แม้วันนี้มันอาจจะกลายเป็นความทรงจำที่ดีของหนูกับโต้งแต่ว่าพวกเราจะเก็บมันไว้อย่างดี และจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน คอยซัปพอร์ตกัน”
ยอมรับใช้ชีวิตคนละเวลา เป็นหนึ่งในปัญหาที่แก้ไม่ได้
“หนูยอมรับว่าหนึ่งในนั้น ก็เป็นหนึ่งในปัญหาค่ะ ยอมรับค่ะ (แก้ปัญหานี้ไม่ได้?) เราพยายามถึงที่สุดแล้วเหมือนกันค่ะ”
ไม่มีใครเป็นคนเอ่ยเรื่องลดสถานะ คุยกันโดยใช้เหตุผลเป็นที่ตั้ง
“ที่จริงเป็นความรู้สึกของ 2 ฝ่าย ไม่มีใครเริ่มก่อน ตลอดเวลาที่เราอยู่ในความสัมพันธ์ ปรางกับโต้งจะเป็นฟีลคุยกันเสมอ คุยกันแบบใช้เหตุผลมาโดยตลอด ไม่มีงอนกันแบบในข่าวค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ พวกหนูอายุ 30 กันแล้ว เราคุยกันด้วยเหตุผลมาตลอด รวมถึงเรื่องนี้ด้วยค่ะ เราใช้เหตุผลเป็นที่ตั้งอย่างมากค่ะ”
รับเป็นช่วงเวลาที่ยากมาก เป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต
“มันยากมากๆ เลยค่ะ เป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตเหมือนกันค่ะ ไม่ใช่แค่ปราง แต่โต้งด้วย ไม่ใช่การตัดสินใจของปรางคนเดียว เป็นการตัดสินใจร่วมกัน”
เรื่องบ้านและเรือนหอยังไม่ได้ลงดีเทลอะไรขนาดนั้น แค่คุยกันเรื่องความสัมพันธ์ ว่าอยากให้ออกมาเป็นแบบไหน
“หนูยอมรับว่าตรงนี้ ยังไม่ได้ลงดีเทลอะไรกันขนาดนั้นค่ะ อย่างที่บอกค่ะ ว่าเราคุยกันด้วยเหตุผล เอาเรื่องความสัมพันธ์ก่อน ว่าเราอยากจะให้บทสรุปมันออกมาเป็นแบบไหน ส่วนเรื่องดีเทลต่างๆ ปรางว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องมานั่งซีเรียส ว่าเราจะต้องจัดการตรงนี้ยังไง หมายถึงบ้านตรงนี้ เป็นส่วนที่ปรางเคยออกแบบไว้ หรืออะไรก็แล้วที่แต่ ที่หลายๆ คนกังวล เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาเสมอ ความรู้สึกวันนี้มันไม่ได้มีความโกรธ งอน เสียใจ หรืออะไรต่อกัน มันมีแต่ความเข้าใจแล้ว หนูยอมรับว่ามันไม่ง่ายค่ะ”
สภาพจิตใจตอนนี้ พยายามกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติ อยากขอกำลังใจให้ทั้งตนและ “โต้ง”
“อันนี้หนูก็ไม่โกหกค่ะ จริงๆ หนูไม่ค่อยสบายอยู่แล้ว อย่างที่รู้ช่วงนี้อาการก็กลับมากำเริบเล็กน้อย จากความเครียดอะไรต่างๆ จากการที่เราต้องใช้ความคิดค่อนข้างเยอะค่ะ แต่สภาพจิตใจหนู จริงๆ มันผ่านมา 2 เดือนแล้ว ก็ยังคงพยายามอยู่ค่ะ ที่จะให้ชีวิตกลับมาปกติ มีรอยยิ้มกลับมาปกติ และได้รับกำลังใจค่อนข้างเยอะ แต่ยังอยากขอกำลังใจจากทุกๆ คนอยู่ค่ะ รวมทั้งให้ให้โต้งด้วย”
ไม่ได้เคว้ง แต่ก็ไม่คาดคิด เลยไม่เคยตั้งรับอะไรมาก่อน
“ไม่เคว้งหรอกค่ะ แต่มันเป็นความรู้สึก (เงียบ) มันเป็นสิ่งที่หนูเองก็ไม่คาดคิดนะคะ ว่ามันจะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นไม่เคยตั้งรับอะไรมาก่อนเหมือนกันค่ะ”
ยืนยันไม่มีมือที่สาม ขอโทษทุกคนที่โดนลากมาเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ รู้สึกแย่มากที่ยังออกมาพูดไม่ได้
“อยากจะขอโทษจริงๆ ค่ะ สำหรับคนที่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องความสัมพันธ์ของโต้งกับปราง ระหว่างทางที่มีข่าวออกมา หนูเองรู้สึกแย่มากค่ะ ที่ไม่สามารถออกมาพูดป้องกันใครหลายๆ คนได้ที่เขาต้องมาถูกวิพากษ์วิจารณ์ หรือรบกวนชีวิตส่วนตัว หนูรู้สึกแย่จริงๆ ตอนนั้นหนูเองยังต้องการเวลา รอโอกาสที่เหมาะสม ที่ได้เจอพี่ๆ นักข่าวด้วยค่ะ เขาอาจจะถูกรบกวนชีวิตไปนิดหนึ่งค่ะ บุคคลที่สามไม่มีแน่นอนค่ะ มือที่สามก็ไม่มีแน่นอนค่ะ”
ครอบครัวไม่มีส่วนในการตัดสินใจ พร้อมจะรับผิดชอบความรู้สึกของตัวเอง ตั้งแต่วันที่กลับมารีเทิร์น
“จริงๆ คุณพ่อคุณแม่ปราง อย่างที่พี่ๆ ทราบความสัมพันธ์ที่ผ่านมาของปรางกับโต้ง ไม่ว่าจะเป็นการกลับมารีเทิร์นครั้งแรก หรือว่าการตัดสินใจอะไรก็แล้วแต่ คุณพ่อคุณแม่ให้สิทธิ์การตัดสินใจของหนู เพราะหนูพูดมาตลอด ว่าการที่หนูตัดสินใจกลับมารีเทิร์น นั่นหมายถึงว่าหนูพร้อมที่จะรับผิดชอบความรู้สึกของตัวเอง ถ้าวันหนึ่งมันจะเป็นไปไม่ได้แล้ว วันนี้มันก็เกิดขึ้นจริงๆ เพราะฉะนั้นหนูก็พร้อมจะรับผิดชอบความรู้สึกตัวเอง แล้วคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องให้สเปซ ในการตัดสินใจของเราด้วยเหมือนกัน”
“โต้ง” โพสต์หลายอย่างในไอจี ไม่ได้เป็นการง้องอนขอโอกาส ต้องเคารพในสิ่งที่เขาอยากจะทำ
“อย่างที่หนูบอกแหละค่ะ มันผ่านมา 2เดือนแล้ว จริงๆ ไม่ได้มีการง้องอนอะไรกันหรอกค่ะ เพียงแต่ว่าตรงนั้นก็ต้องเคารพในสิ่งที่เขาอยากจะโพสต์ในสิ่งที่เขาอยากจะทำ อันนั้นก็เป็นสิทธิ์ของเขาจริงๆ แต่ว่าไม่มีการง้องอนกันค่ะ หมายถึงว่าเป็นการพูดคุยกันด้วยเหตุผลจบไปแล้ว”
ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ได้มีการพูดคุยกันอยู่ตลอด ยังเป็นห่วงความรู้สึกของกันและกันเสมอ
“มีพูดคุยกันตลอดค่ะ (เราห่วงเขาไหมดูเขายังเฮิร์ตอยู่?) เป็นห่วงค่ะเป็นห่วงความรู้สึกเสมอค่ะ เราก็มีการพูดคุยกันอัปเดตกันอยู่ตลอด ว่าเป็นยังไงบ้างเขาเองก็เป็นห่วงที่หนูไม่ค่อยสบาย”
ตอนนี้ไม่มีโอกาสรีเทิร์นแล้วแต่ในอนาคตยังไม่รู้
“ค่ะ (ยิ้ม) หนูก็คิดถึงจุดนั้นเสมอ เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจ แต่ว่าหนูขอให้เชื่อใจค่ะ หนูสองคนคุยกันละเอียดยิบย่อยมากแล้วจริงๆ (ไม่มีโอกาสแล้ว?) ถ้าปัจจุบันนะคะ หนูคิดว่าเป็นแบบนั้นค่ะ อนาคตไม่รู้ค่ะแต่ปัจจุบันเราได้ตัดสินใจที่จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเรียบร้อยแล้วค่ะ”
สำหรับสถานะเพื่อน ยังคุยกันได้ทุกเรื่องเสมอ
“เขายังเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับปรางเสมอค่ะ เรารู้จักกันมานานมาก ในระหว่างที่เคยเป็นแฟนกันมา ก็เป็นเพื่อนที่ดีของปรางมาเสมอ”
ขอบคุณสำหรับกำลังใจ และขอโทษที่ทำให้หลายคนเสียใจกับเรื่องนี้
“หนูได้รับข้อความเยอะมากค่ะ (หัวเราะ) ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ แล้วก็ขอโทษนะคะ ถ้าทำให้ใครหลายๆ คนต้องเสียใจกับเรื่องนี้ แต่อย่างที่หนูบอกค่ะ หนูขอให้ทุกคนเชื่อใจ ว่าพวกเราได้คิดใช้เวลากับเรื่องนี้อย่างมากแล้ว ก็ให้กำลังใจพวกเราดีกว่าค่ะ อย่ากดดันพวกเราเลยค่ะ เพราะว่าหนูเองก็ยอมรับว่าไม่ได้อยู่ในสภาวะที่ง่ายเหมือนกันค่ะ”
ทริปทะเลล่าสุด ไม่ใช่ทริปดามใจ แต่เป็นทริปที่ตั้งใจไปอยู่แล้ว
“อันนั้นจริงๆ เป็นทริปคุณพ่อคุณแม่ ตัดสินใจว่าพอปิดกล้องจะพาไปอยู่แล้วค่ะ เพราะไม่ได้พาที่บ้านไปเที่ยวมา 2 เดือน แล้วก็มีทริปกับทีมละครด้วย อันนั้นก็ตกลงกันไว้ตั้งแต่ละครยังไม่ปิด ประมาณ 2 เดือนแล้วค่ะ”
ฮีลใจและร่างกายตัวเอง ด้วยการโฟกัสงานและอยู่กับครอบครัวมากขึ้น
“นอกจากจะต้องรักษากายที่ไม่สบายแล้ว ในส่วนของใจ ก็ต้องรักษาก็พยายามโฟกัสที่งานค่ะ จริงๆ ช่วงนี้ก็งานเยอะค่ะ แล้วก็พยายามพูดคุยอยู่กับครอบครัวให้มากขึ้นค่ะ”
มีการพูดคุยและขอโทษบุคคลที่ถูกโยงมาให้ความสัมพันธ์ตลอด แต่ตอนนั้นมันยังไม่ถึงเวลา ที่จะออกมาพูดได้จริงๆ
“หนูขอโทษเขาตลอดค่ะ (หัวเราะ) เพราะว่าจริงๆ เขาเองก็คงอยากได้รับการยืนยันจากปากเรา เพราะว่าคนส่วนใหญ่อ่านข่าวก็เชื่อไปในตามนั้น อันนี้หนูเข้าใจได้ค่ะ แต่ว่าก็ต้องขอโทษ หนูเองก็ยังไม่ถึงเวลาที่จะออกมาพูดได้”
ดีใจเป็นข่าวกับ “ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย” หลังอีกฝ่ายก็กลับมาโสดพร้อมๆ กัน ยกเป็นพี่ชายอันดับหนึ่ง
“หนูดีใจนะ มีข่าวกับพี่ปั้นเนี่ย (หัวเราะ) คือพอข่าวออกไป หนูก็พิมพ์ไปหาเขาเลย ว่าดีใจจังเลยเป็นข่าวกับพี่ (หัวเราะ)ก็ดีใจค่ะ เขาเป็นพี่ชายอันดับหนึ่ง เขาก็เป็นห่วงหนูมากเช่นกันที่ ดีใจว่าเป็นข่าวกับเขา เพราะเรารู้อยู่แล้วว่ามันไม่มีอะไร คือคนคงไม่ไปถล่มเขา เอาจริงๆ (หัวเราะ)”
ยังไม่พร้อมมูฟออนมีรักใหม่ ขอเวลารักษาร่างกายและหัวใจให้ดีก่อน
“โอ้โห…หนูคงต้องรักษาอาการไม่สบายของหนูให้ดีก่อนค่ะ ใจด้วยค่ะ เพราะว่าหนู…ไม่รู้สิ คนเราต้องรักตัวเองให้ได้มากๆ ก่อน ก่อนที่จะกลับไปมอบความรัก ให้ใครดีๆ ได้อีกครั้งหนึ่ง หนูว่าคงใช้เวลาค่ะ”
ป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิ แต่ไม่ใช่โรค SLE ภูมิแพ้ตัวเอง เป็นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่กลับมากำเริบอีก เพราะช่วงนี้เครียด
“จริงๆ ไม่สบายก่อนหน้านี้แล้วค่ะ ตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว แต่ว่ามันมีช่วงที่อาการดีขึ้น อาการแพ้ภูมิที่ปรางเป็น มันควรจะต้องไม่เครียด ต้องใช้ชีวิตอย่างมีความสุข รวมถึงต้องรักษาสุขภาพให้ดี แต่เหมือนช่วงนี้มันมีเรื่องเครียดเข้ามา อาการมันก็กลับมาอีกครั้งหนึ่ง ชื่อโรคมันเป็นภาษาอังกฤษที่ยากมากๆ ค่ะ ต้องโทร.ไปถามหมอก่อน (หัวเราะ) มันเป็นอาการที่เขาเรียกว่าแพ้ภูมิ ที่ไม่ใช่ SLE ค่ะ ตอนนี้หนักอยู่ค่ะ แต่อยู่ภายใต้เมกอัป อาการคือหน้าจะแดง แล้วก็ร้อนค่ะ จะแสบร้อนที่หน้าอยู่ตลอดเวลา ป่วยจริงๆ ค่ะ”
ผ่านมา 2 เดือน ไม่มีแอบร้องไห้แล้ว แต่ตอนแรกๆ ก็มีแน่นอน
“อุ้ย…ไม่มีค่ะมันผ่านมาจะ 2 เดือนแล้วค่ะ แต่แรกๆ มันก็มีแน่นอนอยู่แล้ว (หัวเราะ) ทุกวันนี้ก็เน้นอยู่กับครอบครัว กับเพื่อนๆ มากกว่าค่ะ”
คงไม่มีเหตุการณ์ที่ “โต้ง” เดินหน้ากลับมาง้อ เพราะคุยกันเข้าใจ จบไปเรียบร้อยแล้ว
“อันนั้นคงไม่เกิดขึ้นค่ะ เป็นการคุยกันเรียบร้อยแล้ว ว่าเราอยู่ในสถานะนี้ ตอนนี้น่าจะดีที่สุดสำหรับเราสองคน เพราะฉะนั้นมันไม่น่าจะเกิดขึ้น มันชัดมากๆ ค่ะ วันนี้โล่งมากค่ะ ไม่อยากให้ใครต้องมาเกี่ยวข้อง ต้องมาเดือดร้อนเพราะความสัมพันธ์ของเราสองคน อยากให้มันเป็นเรื่องของเราสองจริงๆ แล้วก็อยากให้มันจบแบบสวยงาม
หมายถึงว่าหนูอยากให้เกียรติความรักของเรา ให้เกียรติเขาด้วย การที่หนูมาตอบคำถามในวันนี้ เพราะเขายังไม่มีสิทธิ์ได้ออกมาพูด อยากให้เกียรติครอบครัวเราและเขาด้วย จริงๆ มันก็กระทบไปหมด”